โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ผู้การ ปคบ.ยันคลิปชายอ้างเป็นตำรวจรีดไถ ไม่ได้อยู่ในสังกัด

ข่าวช่องวัน 31

อัพเดต 22 ก.ค. 2562 เวลา 10.12 น. • เผยแพร่ 22 ก.ค. 2562 เวลา 09.56 น. • one31.net
ผู้การ ปคบ.ยันคลิปชายอ้างเป็นตำรวจรีดไถ ไม่ได้อยู่ในสังกัด

ผู้การ ปคบ.ยันคลิปชายอ้างเป็นตำรวจรีดไถ ไม่ได้อยู่ในสังกัด ส่งตรวจสอบ พบที่อยู่ใน จ.สมุทรปราการ…

จากกรณีนายชัยยศ ศิริมงคล ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โพสต์คลิปเฟซบุ๊ก 2 คลิป เตือนภัยสังคมว่าถูกชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ 5 คน ข่มขู่เรียกรับเงินสินบนโดยอ้างว่าตนเองได้ทำธุรกิจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมชูตราสัญลักษณ์กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค  ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้ว

ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค บอกว่าได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าจากการตรวจสอบบุคคลตามคลิป ไม่ใช่ตำรวจในสังกัด บก.ปคบ.แน่นอน ตอนนี้เจ้าหน้าที่ กองกำกับการ 2 และ 3 กองบังคับการ ปคบ.ได้ลงพื้นที่สืบหาตัวกลุ่มคนดังกล่าว ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่แล้ว พร้อมช่วยประสานนายชัยยส ไปแจ้งความร้องทุกข์กับท้องที่

จากการสอบถามผู้โพสต์คลิป ยอมรับว่า ลอบนำน้ำมันจากประเทศมาเลเซียมาแบ่งบรรจุขวดขายอย่างไม่ถูกกฎหมาย จึงเป็นช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมารีดไถ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ชายผมสั้นสวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา ชูตราสัญลักษณ์ บก.ปคบ.และหันหน้าไปพูดคุยกับชายที่นั่งอยู่บนรถกระบะ โดยเรียกว่า “ผู้กอง” เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบชื่อผู้ถือครองรถยนต์ดังกล่าว พบว่ามีที่อยู่ในพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจที่พักอาศัยของบุคคลนี้ กลับไม่พบตัวและติดต่อไม่ได้แต่อย่างใด ขณะที่ฝ่ายนิติบุคคลของที่พักอาศัยแห่งนั้น ยืนยันว่าชายคนที่มีชื่อปรากฎนี้ มีตัวตนจริง แต่ไม่พบมานานเป็นปีแล้ว โดยกำลังตรวจสอบเพิ่มเติมว่า รถกระบะที่ใช้นั้นได้ถูกสวมทะเบียน หรือทำเรื่องผิดกฎหมายอื่นๆ มาอีกหรือไม่

สำหรับโทษของบุคคลที่แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีความผิดตามมาตรา 145 ของกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หากมีพฤติกรรมกรรโชกทรัพย์และกระทำสำเร็จ จะมีโทษหนักขึ้น จึงแนะนำประชาชนที่ประกอบธุรกิจ ให้ดำเนินการขออนุญาตกับหน่วยงานภาครัฐให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะถูกกลุ่มมิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางข่มขู่เรียกรับผลประโยชน์ได้.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0