ผีน้อยไทยระส่ำ! หลังถูกกวาดลักลอบทำงาน เตือนอย่าเห็นแก่เงินล่อใจ

อธิบดี กกจ.เตือน อย่าเห็นแค่เงินเดือนดี 4 หมื่น ล่อใจ แอบโดดทัวร์ทำผิดกฎหมาย เผยไป 50 กลับแค่ 5 คน ตกระกำลำบากจนต้อง "ไลฟ์สด" เตือนกันเอง ด้านทูตแรงงานไทยในเกาหลี เผยเป็นช่วงระดมจับกุม คนงานไทยต้องหนีวุ่น ล่าสุดยอดผีน้อยไทยพุ่งปรี๊ด เป็นรองแค่จีน 

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 61 ที่กระทรวงแรงงาน นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยที่ลักลอบไปทำงานในเกาหลี หรือที่เรียกกันว่า "ผีน้อยเกาหลี" ไลฟ์สดวิ่ง 4x100 ใครไวกว่าก็รอด ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะแรงงานไทยนับ 100 ชีวิต พากันวิ่งหนีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีที่เข้ากวาดล้างจับกุม ว่า คนไทยลักลอบทำงานในเกาหลี โดยเป็นนักท่องเที่ยวไปกับบริษัททัวร์ แต่โดดทัวร์ลักลอบทำงาน มีการประเมินว่าที่ผิดมีราว 5 หมื่นคน ส่วนถูกกฎหมายมี 2.5 หมื่น ตม.เกาหลี จึงเข้มงวดมาก ขอเตือนว่าการอยู่แบบผิดกฎหมาย ไม่ได้สบายอย่างที่คิด ที่หวังเงินเดือนกว่า 4 หมื่น ในช่วงที่นายจ้างขาดแคลนแรงงานอาจได้งานทำ แต่เสี่ยงถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกเบี้ยวค่าจ้าง ทอดทิ้ง และไม่ได้รับสิทธิการคุ้มครอง สุดท้ายต้องตกระกำลำบาก เพราะการทำงานไม่แน่นอน ไม่กล้าร้องเรียน และยังมีภาระในเรื่องที่พัก อาหาร ค่าครองชีพสูง กินมื้อ อดหลายมื้อ เพราะงานไม่แน่นอน 

นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนใหญ่คนไทยจะทำงานในภาคเกษตร ก่อสร้าง และอุตสาหกรรมขนาดเล็ก แม้เกาหลีจะขาดแคลนแรงงาน แต่นายจ้างไม่อยากรับคนผิดกฎหมายเข้าทำงาน เพราะมีสถานะผิดกฎหมาย ต้องคอยหลบซ่อน ต้องพากันวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ ตามที่มีการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก จึงอย่าไปเชื่อการชักชวนให้ไปทำงานผ่านทางโซเชียล แล้วลักลอบไปทำงาน ไม่ว่าจะชักชวนโดยญาติ คนรู้จัก แม้คนไม่รู้จักก็ยังยอมโอนเงินค่าหัวเป็นเงินจำนวนมากให้กันง่ายๆ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง สุ่มเสี่ยงที่ถูกหลอก ต้มตุ๋น โดยไม่ได้เดินทางไปทำงาน หรือถูกลอยแพ ซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามสร้างคุณภาพแรงงานไทยให้เป็นที่ยอมรับ ด้วยการจัดส่งไปทำงานเกาหลีในระบบ EPS Employment Permit System มีการทดสอบภาษาเกาหลี ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และทักษะการทำงาน รวมถึงทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ซึ่งส่งผลดีให้ไทยได้รับโควต้าจัดส่งในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 2,000 คน เป็น 7,000 คน ได้ค่าจ้างประมาณ 46,000 บาทต่อเดือน

ด้าน น.ส.พินยุดา แจ่มจันทร์ศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำประเทศสาธารณรัฐเกาหลี เปิดเผยว่า ทางการเกาหลีได้เร่งจับกุมชาวต่างชาติที่อยู่เกินระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต คาดว่ามีกว่า 3 แสนคน เป็นคนจีนมากที่สุด รองลงมาเป็นคนไทย ซึ่งมีกว่า 1 แสนคน ทางเกาหลีได้หารือกับกรมการกงสุลไทยและสำนักแรงงานไทยในเกาหลี ขอให้สกรีนคนที่จะมาเกาหลี เพื่อลดจำนวนการลักลอบทำงาน ซึ่งก็ได้พยายามชี้แจงและประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยว และแรงงานไทยให้เข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย ไม่อยู่เกินระยะเวลา 90 วัน ที่ได้รับอนุญาต เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครองเจ็บป่วยจะได้เข้าถึงการช่วยเหลือ หากทำงานครบสัญญาแล้วให้เดินทางกลับ หากลักลอบอยู่ต่อจะผิดกฎหมาย โดย ตม. เกาหลีเปิดโอกาสให้ไปรายงานตัวจะได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศ และจะไม่ถูกแบล็กลิสต์ แต่หากถูกจับกุมจะถูกแบล็กลิสต์ ไม่ให้เดินทางเข้าเกาหลีอีก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากแรงงานไทยที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมาย จะต้องอยู่อย่างยากลำบาก คอยหลบซ่อนหนีการจับกุม ยังมีเจ็บป่วยเสียชีวิตหลายราย โดยช่วงปลายปี 60 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตของคนไทยและแรงงานไทย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จากจำนวนผู้เสียชีวิต 29 ราย ในปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็น 72 ราย ในปี 2559 และ 66 รายในปี 2560 สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ ได้แก่ เส้นเลือดในสมองแตก หัวใจล้มเหลว หัวใจวาย นอนไหลตาย ปอดบวม อุบัติเหตุ และขาดอากาศหายใจ ขณะที่ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นายวันสิน บุญกลาง ชาว จ.บุรีรัมย์ แรงงานไทยที่ซื้อทัวร์ราคา 2 หมื่นบาท ลักลอบไปทำงานในเกาหลี ผูกคอเสียชีวิต หลังต้องทนทำงานอย่างยากลำบาก ถูกนายจ้างกดขี่ ไม่จ่ายค่าแรง สร้างความเสียใจให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก