2 ผัวเมียวัยรุ่นพร้อมทนายรณณรงค์ แจ้งความ สน.ลาดพร้าว เอาผิด หนุ่มวัย 28 ปีที่อยู่หอพักเดียวกัน แอบปีนเอามือถือส่องขณะภรรยาอาบน้ำ ด้านผู้ต้องหาสารภาพทำจริง แต่จะถ่ายผู้ชายเพราะหน้าตาดี…
เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2562 ที่ สน.ลาดพร้าว ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา นายเอ ( นามสมมุติ ) และ นางบี( นามสมมุติ ) สามีภรรยา เข้าพบพ.ต.ท.ผดุงษักดิ์ สุวรรณชัยรบ รองผกก.สส.สน.ลาดพร้าวเพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดีหลังแจ้งความกับ ร.ต.อ.บรรพต มะนุรักษ์ ถูกคนโรคจิตใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่าย ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ย่านซอยลาดพร้าว107 เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าวได้เชิญตัวนายชิต (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ผู้ต้องสงสัยที่มีภาพในคลิปวงจรปิด มาสอบสวน เบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นคนถ่ายคลิป แต่หวังจะถ่ายน้องผู้ชายอายุ 18 ที่หน้าตาดีไว้ดูเองเท่านั้น เจ้าหน้าที่ได้ยึดโทรศัพท์ไปตรวจสอบ พร้อมแจ้งข้อหากระทำอนาจารและสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นคุมตัวส่งฝากขังศาลอาญาในวันที่ 22 เม.ย.นี้
ด้าน นาย เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุภรรยาตนกำลังอาบน้ำ แต่จู่ๆก็พบว่ามีโทรศัพท์มือถือตรงบานเกร็ดห้องน้ำ จึงเดินมาบอกตน ซึ่งตนเดินเข้าไปในห้องน้ำ และพยายามที่จะดึงกล้อง แต่คนร้ายดึงกล้องกลับ และหลบหนีไป จากนั้นตนได้ไปติดต่อที่เจ้าของห้องพัก เพื่อขอดูภาพกล้องวงจรปิด ปรากฎว่าคนร้ายเป็นคนในหอพัก ซึ่งอยู่บริเวณชั้น2 และ ก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้มีการแอบปีนห้องเพื่อแอบถ่ายห้องอื่นมาแล้ว 3 ครั้ง
สามีผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า คนร้าย มักจะก่อเหตุในช่วงเวลา 23.00-01.00 น. ตนอาศัยอยู่หอพักนี้มา 7 เดือน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ และ โดยส่วนตัวตนไม่เคยพบเห็น หรือ รู้จักเป็นการส่วนตัวกับทางผู้ต้องหาเลย จึงอยากให้จับคนร้านมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะตนไม่ใช่ผู้เสียหายฝ่ายเดียว หากปล่อยไปอาจจะส่งผลเสียหายให้กับตนได้
ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวคนร้าย พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เพื่อนำไปตรวจสอบ และจากการสอบสวนเบื้องต้น คนร้ายให้ยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุจริง ขณะเกิดเหตุใช้โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง เพื่อใช้ก่อเหตุ โดยเครื่องหนึ่งใช้สอดไว้เพื่อแอบถ่าย และอีกเครื่องไว้ดูภาพ จึงอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโทรศัพท์อีกเครื่องมาตรวจสอบด้วย เพราะเกรงว่าภาพอาจจะถูกขายในตลาดมืด และกระจายในโลกโซเชียล ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหา อนาจาร และ ข้อหาสร้างความเดือดร้อนรำคาญ เพื่อดำเนินความผิด ทั้งนี้ อยากฝากเตือนประชาชนที่ถูกก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ให้รีบมาแจ้งความดำเนินคดีกับทางเข้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหานำคลิปไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์.
