จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุพบศพชายและหญิงถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านพัก ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพัก พบศพ น.ส.วัทนา สืบพันธ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด มีบาดแผลกระสุนปืนยิงเข้าศีรษะ ใกล้กันพบศพนายชัยวุฒิ สัตยาธร ผู้ใหญ่บ้าน มีบาดแผลกระสุนปืนยิงเข้าขมับ 1 นัด มีอาวุธปืนตกอยู่ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 27 ก.พ. 63
วันที่ 28 ก.พ. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านจุดเกิดเหตุ บ้านของนางสมศรี ดำภูผา อายุ 54 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
นางสมศรี ดำภูผา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 และเพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ผู้ช่วยจอยมาที่บ้านของตน เพื่อมาขอผักไปประกอบอาหารให้กับสามี ตนและผู้ช่วยจอยก็ได้นั่งพูดคุยกันไม่ถึง 5 นาที ผู้ใหญ่ชัยวุฒิเดินถือปืนเข้ามาหาผู้ช่วยจอย พยายามจะจ่อปืนยิง แต่ตนเองตะโกนห้ามว่า “อย่าทำ อย่าทำ” และใช้มือปัดอาวุธปืนทิ้ง
จากนั้นผู้ใหญ่ชัยวุฒิใช้อาวุธปืนยิงรัวใส่ผู้ช่วยจอย 2 นัด เข้าที่ตาซ้ายทะลุศีรษะด้านหลัง 1 นัด และที่สะบักแขนซ้ายทะลุ 1 นัด จนเสียชีวิต สภาพนอนหงายหน้า ก่อนที่ผู้ใหญ่ชัยวุฒิจะใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน ยิงเข้าที่ขมับตนเองจนเสียชีวิตตาม
นางสมศรี กล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่าตกใจ และรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก ตนนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะภาพตอนเกิดเหตุติดตา ยืนยันว่าผู้ใหญ่ชัยวุฒิและผู้ช่วยจอยไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง หรือทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว สำหรับผู้ช่วยจอยก็ไม่เคยเล่าปัญหาหรือเรื่องทุกให้ตนเองฟัง
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่งานศพของน.ส.วัทนา สืบพันธ์ หรือ ผู้ช่วยจอย ช่วงเช้าครอบครัวและญาติได้ทำการรดน้ำศพ และนำร่างใส่โลงศพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นายสายชล เอกนันทดำรง สามีของผู้ช่วยจอย เปิดเผยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ภรรยาของตนเองไม่เคยมาปรึกษา หรือเล่าปัญหาระหว่างเขากับผู้ใหญ่ชัยวุฒิให้ฟัง เท่าที่ตนเองสังเกตทั้ง 2 คนก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันมาตลอด ร่วมงานกันมากว่า 6 ปี เมื่อวานก่อนเกิดเหตุ เวลาปนะมาณ 16.00 น. ภรรยาของตนเองกำลังจะทำกับข้าวให้ตนเองกิน จึงได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปขอผักที่บ้านของผู้ช่วยจี๊ด ห่างกันประมาณ 700 เมตร หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาที ก็มีญาติมาบอกว่าภรรยามีเรื่องกับผู้ใหญ่บ้าน ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
นายสายชล ยืนยันว่า ภรรยาของตนเองไม่ได้มีเรื่องชู้สาวกับผู้ใหญ่บ้าน ตอนนี้ตนเองโกรธ แต่ผู้ใหญ่ชัยวุฒิเขาก็เสียชีวิตไปแล้ว ตนก็ทำอะไรเขาไม่ได้ นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. 63 จากที่ภรรยาของตนไม่เคยไปหาพี่สาวของเขาที่อยู่ อ.เมือง จ.ชุมพร กว่า 10 ปี แต่เขาก็ชวนตนเองไปหาพี่สาว คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นลางบอกเหตุ
ด้านนายดำ (นามสมมติ) เพื่อนของผู้ใหญ่ชัยวุฒิ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 วัน ผู้ใหญ่ชัยวุฒิไปทานอาหารในร้านอาหาร ซึ่งเป็นร้านที่ผู้ช่วยจอยไปทำงานเป็นแม่ครัว ตนเองก็ได้ยินมาว่าเหตุการณ์ในคืนนั้น ผู้ใหญ่ชัยวุฒิได้เอาขวานไปไล่ฟันคนในร้าน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
กระทั่งวันที่ 27 ก.พ. 63 ผู้ใหญ่ชัยวุฒิมานั่งดื่มสุรากับตนเองและเพื่อนรวม 5 คน เท่าที่ตนเองสังเกต สีหน้าของผู้ใหญ่ชัยวุฒิก็ดำคล้ำ เหมือนคนไม่ได้นอน และตอนที่นั่งในวงเหล้าด้วยกันเขาก็ไม่ได้พูดถึงปัญหาหรือพูดถึงผู้ช่วยจอย ซึ่งผู้ใหญ่ชัยวุฒิจะหันหน้าเข้าไปหาถนนเส้นหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ตนคิดว่าเขาน่าจะสังเกตเห็นผู้ช่วยจอยขี่รถมอเตอค์ไซค์ผ่าน จึงตามไปที่บ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้น ประมาณ 3 นัด
https://youtu.be/bmz_jLnqg4I
