โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ผอ.ช้างศึก แย้มยอดอัดฉีดเฉียด 50 ล้าน หากถึงตัดเชือก-ล็อกสเป็กโค้ชใหม่

Khaosod

อัพเดต 17 ม.ค. 2562 เวลา 22.59 น. • เผยแพร่ 17 ม.ค. 2562 เวลา 09.04 น.
ผอ.ช้างศึก

ผอ.ช้างศึก นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ เผยยอดอัดฉีดทัพช้างศึกยังมีต่อเนื่อง เปรยหากเข้าถึงรอบ 8 ทีม หรือถึงตัดเชือกคาดรับเกือบ 50 ล้านบาท พร้อมแย้มอยากได้กุนซือต่างชาติทำงานคู่โค้ชไทย

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

ผอ.ช้างศึก กล่าวถึงทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอล เอเชียนคัพ 2019 หลังทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ในรอบ 47 ปี พบกับ ทีมชาติจีน ที่ฮัซซา บิน ซายเอ็ด สเตเดียม เมืองอัล ไอน์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 20 ม.ค. เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD และ FOX Sports HD

ด้าน นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ผู้อำนวยการทีมชาติไทย ชุดเอเชียนคัพ 2019 เผยว่า การที่ทีมชาติไทยผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้ถือว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมแล้ว นักเตะทุกคนมุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก ตรงนี้ต้องให้เครดิตเขา อย่างไรก็ตาม งานของเรายังไม่จบ เรายังมีงานในรอบ 16 ทีมรออยู่ ซึ่งที่ผ่านมาเรามีทีมงานวิเคราะห์เกม ทุกเกม รวมถึงเกมที่ทีมชาติ จีน พ่าย เกาหลีใต้ด้วย

“ต้องยอมรับว่าการพบกับทีมชาติจีน น่าจะเป็นงานง่ายกว่าการพบเกาหลีใต้ เพราะเกาหลีใต้เป็นทีมที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังไปแข่งขันฟุตบอลโลกมาแล้วหลายครั้ง การพบกับจีนถือว่าเป็นทีมระดับไม่ห่างกันมากนัก น่าจะเป็นเกมที่สนุกอีกเกมของทีมชาติไทย เชื่อว่าหากไทยเล่นได้เหมือน 2 นัดที่ผ่านมานน่าจะสามารถผ่านทีมชาติจีนไปได้”

“ส่วนเรื่องเงินอัดฉีด นัดเจอบาห์เรน บอกไว้ว่าอัดฉีดลูกละ 5 ล้าน ซึ่งไทยชนะ 1-0 รับไป 5ล้านบาท ส่วนเกมเสมอ ยูเออี อัดฉีด 10 ล้านบาท ทำให้ยอดเงินตอนนี้ 15 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีกระแสว่าหากทีมชาติไทยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ มีกลุ่มทุนพร้อมทุ่มเงินอัดฉีด เฉียด 50 ล้านบาทนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องว่าเป็นใคร ทว่ายืนยันว่ายอดเงินอัดฉีดในรอบต่อๆไปจะไม่น้อยกว่ารอบที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ซึ่งจะถึง 50 ล้านหรือไม่นั้น คงต้องขอดูอีกครั้งว่าจะมีผู้สนใจร่วมสมทบมากน้อยขนาดไหน”

ผู้อำนวยการทีมชาติไทย กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องโค้ชนั้น ส่วนตัวมองว่า อยากจะได้ส่วนผสมของโค้ชต่างชาติที่มีฝีมือ กับโค้ชคนไทย ที่ผ่านมาโค้ชต่างชาติมักมีอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่กลับเป็นโค้ชคนไทยที่รู้จัดตัวนักเตะดีที่สุด ดังนั้น หากโค้ชทั้ง 2 ฝ่ายมีอำนาจเท่าๆกันในการบริหารจัดการน่าจะเป็นอะไรที่ลงตัว และเกิดผลดีกับทีมชาติไทยมากที่สุด

 

อ่านข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

อดิศักดิ์ ประกาศมั่นใจเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่ได้ดวลเกือกแข้งมังกร

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0