โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ผวา”อีอีซี”สะดุด เรียกร้องรัฐบาลใหม่สานต่อ

Money2Know

เผยแพร่ 17 ม.ค. 2562 เวลา 08.07 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
ผวา”อีอีซี”สะดุด เรียกร้องรัฐบาลใหม่สานต่อ
ดร.คณิศ มอง 'อีอีซี' จะเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจของไทย กันชนความเสี่ยงจากปัจจัยนอกประเทศที่มีความผันผวน วอนให้ทุกฝ่ายช่วยกันขับเคลื่อน ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็จะสามารถใช้ต่อยอดเศรษฐกิจสร้างการเติบโตของประเทศได้

ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษงานสัมนาใหญ่ประจำปีสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ หัวข้อ "เศรษฐกิจไทยกับการลงทุนในอีอีซี" ระบุว่า เศรษฐกิจโลกกำลังอ่อนตัวจากปี 2561 ด้วยตัวเศรษฐกิจและการเงินโลกยังมีความเสี่ยงต่อความผันผวน ทั้งเรื่องเบร็กซิท(BREXIT) ความไม่แน่นอนของมาตรการกีดกันทางการค้าซึ่งจะไม่จบที่ประเทศจีนอย่างแน่นอน หลังจากที่สหรัฐอเมริกาเปลี่ยนนโยบายเป็น 'อเมริกันต้องมาก่อน' ฟากฝั่งเอเชียก็จะต้องรวมตัวกันมากขึ้น

สิ่งที่น่าจับตาคือการประชุมอาเซียน ข้อตกลงต่างๆถ้าสามารถร่วมมือกันได้ก็น่าจะมีท่าทีที่ดีขึ้นจากปัจจัยภายนอก รวมถึงราคาน้ำมันก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา ด้วยความขัดแย้งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าบรรยากาศข้างนอกไม่ดี เราจึงต้องคิดว่าทำยังไงให้ภายในเราเติบโตเข้ามาทดแทน ซึ่ง 'อีอีซี' เข้ามาตอบโจทย์ตรงนั้นได้ระดับหนึ่งแล้ว

ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปี ที่ผ่านมาการเติบโตของเศรษฐกิจไทยออกนอกกรอบความเชื่อ 3% (New Normal) ทำให้อัตราการเติบโตของเราเกินกว่าร้อยละ 3 จนเป็นปกติแล้ว

สิ่งที่ต้องการเห็น คือ การเมืองไม่ทะเลาะกันมีความมั่นคง ทำให้การลงทุนภาคเอกชนกลับมาแตะ 10% ได้เมื่อไหร่นั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้ถึง 5%

การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล โครงการ EEC ก็จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยาวเพราะโครงการนี้ไม่ได้เป็นของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง เป็นประโยชน์ต่อประเทศในอนาคต 5ปี ระยะหนึ่ง 10 ปีนะยะหนึ่ง ขอให้ทุกคนดูแลโครงการนี้ ด้วยการเป็น พระราชบัญญัติ ทำให้ใครเข้ามาเป็นนายกก็จะใช้อีอีซีเป็นเครื่องยนต์ของประเทศไทยได้ทั้งนั้น

สสค.อัตราการขยายตัวของเศรษฐฏิจโลกน่าจะอยู่ที่ 3.8% ซึ่งสะท้อนภาพของเศรษฐกิจโลกที่มีความอ่อนไหวพอสมควร โอกาสเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะอ่อนตัวในช่วงปลายปีนี้ ฉะนั้นการสร้าง 'อีอีซี' ขึ้นมาก็จะเป้นการสร้างความแข็งแกร่งในประเทศเข้ามาทดแทน และในพื้นที่ 'อีอีซี' มี 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ในการเติบโต พร้อมทั้งเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มประเทศ CLMV อาเซียน เป็นเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 เมื่อมีการลงทุนมหาศาล ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อีกราว 2%

ภาพในท้ายที่สุด 'อีอีซี' จะเป็นพื้นที่ตัวอย่างให้แก่เยาวชนไทยในอนาคต ซึ่งแผนจะถูกแบ่งเป็น 2 เฟสด้วยกันคือ 5 ปีแรกและ 5 ปีหลัง เสร็จสิ้นภายในปี 2566 ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟเชื่อมสามสนามบิน สนามบินที่ถูกปรับปรุงใหม่ ในต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นและจีน ได้จับมือกัน ทั้งยังมีท่าทีสนใจเข้ามาลงทุนในต่างประเทศ และประเทศไทยเองก็เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในการเข้ามาลงทุนของหลายประเทศ

สำหรับปัญหาฝุ่นละออกเคยมีการเตือนกันมาแล้วกว่า 4 ปี ซึ่งเกิดจากการเผาน้ำมันในพื้นที่จำกัดมากเกินไป การเผาไหม้ไม่สลาย และปัญหาพื้นฐานจริงๆคือ กรุงเทพแน่นเกินไป จึงต้องขยายไปในพื้นที่อื่น ฉะนั้นพื้นที่ภาคตะวันออกเหมาะสมที่สุด เพราะในอนาคต 'กรุงเทพ' กับ'ภาคตะวันออก' ต้องเชื่อมโยงเป็นพื้นที่เดียวกัน เพราะฝุ่นมาจากการใช้น้ำมันดีเซลที่ใช้ขนของ การขยายท่าเรือที่แหลมฉบังถึงสำคัญมาก เพื่อกระจายการขนส่งทางรถไฟเข้ามาทดแทนการใช้รถยนต์ใช้น้ำมัน ทำให้ปัญหาที่เราเห็นอยู่ก็จะเบาบางลง ซึ่งเป็นปัญหาบางช่วงเวลา ไม่ใช่เฉลี่ยทั้งปี ปัญหาหลักมาจากการใช้เชื้อเพลิงดีเซล

ส่วนการก่อสร้างใหญ่ๆของอีอีซี ก็อยู่ตรงสนามบินอู่ตะเภา ไม่ใช่พื้นที่กรุงเทพ รวมถึงการก่อสร้างไม่ใช่ผลกระทบหลักโดยตรง และในพื้นที่อีอีซีเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูง ไม่ใช่อุตสาหกรรมทำลายสิ่งแวดล้อม เมืองใหม่ที่จะเกิดขึ้นต้องสร้างคาร์บอนน้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ เช่น อุตสาหกรรม Automation, Medical Hub, EV car, Robotic เป็นต้น

"ในเมื่อการลงทุนในประเทศไทยต่ำ ก็จะใช้การลงทุนอีอีซีเข้ามาพัฒนาเศรษฐกิจเป็นเครื่องยนต์ใหม่ แม้เศรษฐกิจโลกจะตกต่ำ แต่เรายังมี อีอีซี จะเป็นโครงการใหม่ที่เข้ามาชดเชยปัจจัยภายนอก"

หลังการเลือกตั้งไม่ว่าใครจะมาก็ให้มีการสานต่อ เพราะในพื้นที่อีอีซี มี พรบ. ควบคุมอยู่ รวมถึงมีคณะกรรมการกำกับชัดเจน ทั้งยังสามารถทำต่อได้อย่างใกล้ชิด เช่น กรมโยธา ผังเมือง ผังพื้นที่ ทำให้เกิดความร่วมมือถึงหลายหน่วยงานกันได้ ถ้าหากการพัฒนาพื้นที่พิเศษแบบนี้ตอบสนองของความต้องการของประเทศได้ ก็มีการขยายไปในพื้นที่อื่นๆอย่างต่อเนื่อง

ประมาณการณ์ GDP Growth ปี 62

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย = 4.0
  • สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ = 4.0
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง = 4.1

เศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้ง ด้วยภาพเศรษฐกิจโลกอ่อนไหวมาก เราได้เตรียมตัวบางส่วนไว้แล้ว เช่น การทำอีอีซี การเป็นประธานอาเซียน ป้องกันความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกป้องกันความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก หากเราไม่ทะเลาะกันเองเหมือนสิบปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยไม่น่าจะต่ำกว่า 4%

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0