ผลวิจัยชี้ชัด ป้องกันโควิด-19 ระบาดทุกคนควรใส่หน้ากาก
เว็บไซต์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ถึงผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ ที่ชี้ชัดว่า วิธีการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสชนิดใหม่ อย่างเชื้อโควิด-19 นั้นก็คือการที่ทุกคนควรสวมหน้ากากออกจากบ้านและรักษาระยะห่างจากคนอื่นๆ
ผลการวิจัยที่จัดทำโดยโรมัน โวลเฟล ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ พบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19ในช่วงสัปดาห์แรกนั้นส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการและสามารถแพร่เชื้อต่อให้กับคนหลายคน ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะป้องกันการแพร่ระบาดได้ก็คือการสวมใส่หน้ากากและรักษาระยะห่างจากคนอื่น และอย่าใส่หน้ากาก N95 เนื่องจากเป็นหน้ากากที่ขาดแคลนและเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลต้องใช้ในโรงพยาบาล
งานวิจัยของ วูลเฟล อธิบายไว้ว่าเราควรที่จะต้องโฟกัสที่การแพร่ระบาดของไวรัสผ่านละอองน้ำมูกน้ำลายที่จะกระจายออกมาจากการพูด การไอ การจาม และสามารถแพร่ได้ไกลถึง 6 ฟุตหรือเกือบ 2 เมตร ดังนั้นการมีผ้ามาปิดเอาไว้ที่ปากและจมูกสามารถป้องกันละอองน้ำมูกน้ำลายได้ถึง 99 เอร์เซ็นต์
ดังนั้นวิทยาศาสตร์จึงพิสูจน์ให้อย่างชัดเจนแล้วว่า เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าเราปวยหรือไม่ หากเราป่วยการสวมใส่หน้ากากปิดจมูกและปากจะช่วยหยุดยั้งการแพร่กระจายของละอองน้ำลายในอากาศได้ โดยหน้ากากผ้าก็สามารถใช้ได้อย่างได้ผล ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่กำลังขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของบุคลากรทางการแพทย์
