อ่างทอง - บุกรวบหนุ่มใหญ่วัย 44 ปี พร้อมอาวุธปืนและกระสุนจำนวนมาก หลังจากขยายผลท่อเก็บเสียง คดี "ผอ.กอล์ฟ" นำหมายค้นศาลเข้าตรวจค้น
วันนี้ (24 ก.พ.) พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.บก.สส.ภ.1 ร.ต.อ.อนุรักษ์ ดวงดี รอง สว.กก.สส.ภ.1 ร.ต.อ.ศักดา แช่มช้อย รอง สว.กก.สส.ภ.1 นำกำลังเข้าประสาน พ.ต.อ.วิชัยนาวิน อนันต์ ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง นำหมายค้นศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ 12/2563 เข้าตรวจค้นร้านพรพรหม ซึ่งเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ เลขที่ 19 ถ.สุวพันธ์ 2 ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง
เมื่อเข้าไปตรวจค้นภายในห้องนอนชั้นบน เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะเมื่อพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากอยู่ในห้อง ประกอบด้วย ท่อเก็บเสียง (ไซเรนเซอร์) แบบเดียวกับที่ ผอ.กอล์ฟ ผู้ต้องหาบุกยิงชิงทองที่ห้างดังใน จ.ลพบุรีใช้ จำนวน 1 ชิ้น อาวุธปืนไทยพกสั้นไทยประดิษฐ์ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (ปืนเถื่อนไม่มีทะเบียน) อาวุธปืนลูกซองแฝดยาว 1 กระบอก อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 11 มม. 1 กระบอก และ อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก ชิ้นส่วนชุดประกอบปืนยาว 7 กระบอก
นอกจากนั้น ยังพบเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 207 นัด กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 150 นัด กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 545 นัด กระสุนปืน ขนาด .22 แม็ก 32 นัด สอบสวนเบื้องต้น นายชัยยศ หรืออ๋า พลอยรัศมีกุล อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นลูกเขยเจ้าของร้านให้การรับว่า เป็นเจ้าของปืนและเครื่องกระสุนดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นคนชอบยิงปืนซึ่งสะสมอาวุธดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนและขยายผลที่ สภ.เมืองอ่างทอง
พ.ต.อ.วิชัยนาวิน อนันต์ ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง เปิดเผยว่า สำหรับการเข้าตรวจค้นจับกุมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการให้สอบสวนขยายผลเรื่องท่อเก็บเสียง (ไซเรนเซอร์) ในคดีที่ นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ อดีต ผอ.โรงเรียนชั้นประถมใน จ.สิงห์บุรี ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนเก็บเสียงจ่อยิงชิงทองอย่างโหดเหี้ยมฆ่า 3 ศพ ในห้างกลางเมือง จ.ลพบุรี
ผลการตรวจสอบจากผู้ที่ขายท่อเก็บเสียง (ไซเรนเซอร์) พบว่า นายชัยยศ เป็น 1 ในคนที่สั่งซื้อมา และตามทางสืบสวนพบว่า ยังสะสมอาวุธปืนไว้จำนวนมาก จึงได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นดังกล่าว เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่า ชอบสะสมอาวุธปืน จึงได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ขณะเดียวกัน ได้ให้พนักงานสอบสวนส่งของกลางไปตรวจพิสูจน์ หากพบความผิดเพิ่มก็จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
