ปาร์ค ฮัง ซอ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมฟุตบอลชายทีมชาติเวียดนาม ชุดยู-23 กล่าวขอโทษแฟนบอลเวียดนาม หลังจากเขาพาทัพดาวทองพลาดท่าตกรอบแบ่งกลุ่มของการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2020 หรือ “เอเอฟซี ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ” เมื่อคืนวันที่ 16 มกราคม
โดยเป็นเกมเตะ กลุ่มดี นัดสุดท้าย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบ จอร์แดน ที่บุรีรัมย์ สเตเดียม อีกคู่ เวียดนาม ทีมอันดับ 3 ของกลุ่ม พบกับ เกาหลีเหนือ ที่ตกรอบไปแล้ว เงื่อนไขก่อนลงสนาม เวียดนาม ดีกรีแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ทีมจากอาเซียน จำเป็นต้องเอาชนะ เกาหลีเหนือ ให้ได้สถานเดียว แล้วต้องลุ้นให้อีกคู่ มีผลแพ้ชนะ ทัพดาวทองจึงจะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายตามทีมช้างศึก
ซึ่งเกมนี้เวียดนามขึ้นนำก่อน 1-0 แต่ทว่า บุย เทียน ดุง ผู้รักษาประตูเวียดนามดันชกบอลพลาดจนปลิ้นเข้าประตูตัวเองส่งผลให้เกมกลับมาเสมอกัน 1-1 และสุดท้ายเกาหลีเหนือได้ประตูชัยจากลูกจุดโทษในนาทีสุดท้ายของเกม ทำให้เวียดนามแพ้เกาหลีเหนือ 1-2 ส่วนอีกคู่ ยูเออี เสมอ จอร์แดน 1-1 ส่งผลให้เวียดนามดีกรีรองแชมป์สมัยที่แล้วมีแค่ 2 แต้มจบบ๊วยของกลุ่ม ต้องยุติเส้นทางแต่เพียงเท่านี้ อย่างไรก็ตาม ปาร์ค ฮัง ซอ ไม่โบ้ยความผิดนี้ให้กับลูกทีมแต่อย่างใด
“ผมต้องขอโทษจริงๆ 2 ปีที่แล้วเวียดนามคว้ารองแชมป์ แต่การแข่งขันครั้งนี้ เราลงเล่น 3 แมตช์ในรอบแบ่งกลุ่ม ทำได้เพียงเสมอ 2 และแพ้ 1 ซึ่งเป็นผลการแข่งขันที่แย่มากๆ และคงทำให้แฟนบอลทุกคนผิดหวัง ซึ่งผมคือคนที่ต้องรับผิดชอบผลงานนี้มากที่สุด เนื่องจากนักเตะทุกคนต่างพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ความเป็นจริงชี้ให้เห็นว่าเรายังมีจุดที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ”
“แน่นอนว่าผมไม่แฮปปี้เลยกับการผิดพลาดเหล่านั้น แต่ ผู้รักษาประตูของเราคงเจ็บปวดใจกับจังหวะนั้นมากแน่ๆ แต่ก็เชื่อว่าเขาจะก้าวข้ามความเสียใจนี้ไปได้แน่ๆ และเติบโตเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม”
ปาร์ค ฮัง ซอ มองถึงการทำงานจากนี้ว่า เวียดนามชุดยู-23 ไม่มีได้ลงแข่งทัวร์นาเมนต์ใดๆ อีกแล้วในปีนี้ ดังนั้นผมจะมุ่งสมาธิไปยังการทำงานกับทีมชุดใหญ่ ในการลุยศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 รอบที่ 2 กลุ่มจี กับมาเลเซียในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ซึ่งเราจะเอาชนะพวกเขาให้ได้
ปัจจุบัน เวียดนามเป็นจ่าฝูงกลุ่มจี เตะ 5 นัดมี 11 คะแนน ส่วนมาเลเซียตามเป็นอันกับ 2 กับ 9 แต้มในมือ ส่วนอันดับ 3 ทีมชาติไทย 8 คะแนน, อันดับ 4 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 6 คะแนน (4 นัด) และอันดับ 5 อินโดนีเซีย 0 คะแนน
ส่วน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ยู-23 คว้าอันดับ 2 กลุ่มเอ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับซาอุดีอาระเบีย แชมป์กลุ่มบี ในวันเสาร์ที่ 18 มกราคม เวลา 17.15 น. ณ สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD
