ผมจะขอเป็นคนดีตอบแทนท่านผู้พัน เปิดใจหนุ่มคนซื่อ เดินจากโคราชไปนครพนม

เปิดใจหนุ่มคนซื่อ เดินจากโคราชไปนครพนม เพราะค่ารถไม่พอ บอก ไม่มีอะไรจะตอบแทนท่านผู้พันใจบุญ แต่จะขอเป็นคนดี ทำความดี และไม่สร้างปัญหาให้สังคม

จากกรณี พ.อ.ปริชญ์ สุคันธศรี รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ช่วยเหลือนายศักดิ์นรินทร์ จูมจันทา หรือ โด่ง อายุ 26 ปี ที่ถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง ต้องเดินเท้าจากโคราชไปนครพนม ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (หนุ่มถูกเบี้ยวค่าแรง เดินจากโคราชไปนครพนม เจอคนดีให้เงินแถมจะฝากงานให้)

ล่าสุด นายศักดิ์นรินทร์ เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานก่อสร้าง ติดตั้งเสาโทรศัพท์มือถือ ที่ อ.พิมาย แต่ภายหลังงานไม่ค่อยมี รายได้ไม่เพียงพอ รับจ้างเป็นรายวัน จึงตัดสินใจที่จะกลับบ้าน นายจ้างได้ให้เงิน ตามค่าแรงที่เหลือประมาณ 500 บาท และใช้จ่ายทั่วไปเหลือเงินแค่ 110 บาท จึงตัดสินใจกลับบ้านที่นครพนม เพราะอยากมาหาเพื่อน อยากมีงานใกล้บ้าน

อย่างไรก็ตาม ตนเหลือเงินแค่ 110 บาท ไม่พอค่ารถ 350 บาท ตนจึงเดินเอากระทั่งเดินทางออกมาได้ประมาณ 30 กิโลเมตร มีทหารนายพันใจบุญ แนะนำว่าเป็นทหาร สอบถามว่าจะไปไหน จึงเล่าให้ฟัง และขอความช่วยเหลือ จึงให้ติดรถมาส่งที่ บขส. จ.ขอนแก่น อีกทั้งยังดูแล ซื้อข้าวให้กิน และช่วยเหลือมอบเงินให้ 1,000 บาท เป็นค่ารถและติดตัวกลับ เดินทางถึงบ้าน วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาจนมารู้ทีหลังว่าตกเป็นข่าวดัง และมีคนติดตามหา มาดูแลช่วยเหลือ

"ผมขอกราบขอบพระคุณน้ำใจของท่านผู้พัน ผมไม่มีอะไรจะตอบแทนท่านจริงๆ ส่วนหน่วยงานอื่นๆ ที่ติดต่อเข้ามาช่วยเหลือผมขอบพระคุณทุกท่านมากๆ ผมไม่หวังอะไรมาก ขอเพียงมีงานทำ มีรายได้ อาชีพที่ผมชอบคือ ช่างเชื่อม ถ้ามีโอกาสจริงๆ ผมก็อยากเป็นทหาร ผมเคยไปรับการฝึกช่วงเป็นทหารเกณฑ์ แต่ผมคงไม่มีโอกาสและวาสนา เพราะผมเรียนมาน้อย ตอนนี้ขอเพียงได้มีงานทำก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว สิ่งเดียวที่จะตอบแทนผู้พัน และทุกๆ คนได้ คือจะเป็นคนดีของสังคม ทำความดี และไม่สร้างปัญหาให้สังคมครับ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนนี้ นายศักดิ์นรินทร์ มาอาศัยบ้านเพื่อนที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน ส่วนพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตไปนานแล้ว มีพี่สาวหนึ่งคนไปทำงานต่างจังหวัดและขาดการติดต่อไป ส่วนน้องชายก็เสียไปนานแล้ว เมื่อปี 56 นายศักดิ์นรินทร์ จับใบแดงได้ไปเป็นทหารประจำการ ที่ ร 3 พัน 3 นครพนม 1 ปี และถูกส่งไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยที่ชายแดน จ.ยะลา เป็นเวลา 1 ปี ก่อนปลดประจำการ และเขามีภรรยาอยู่กินด้วยกันเกือบ 2 ปี แต่สุดท้ายแยกทางกัน เพราะปัญหาความเป็นอยู่

ด้าน นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าจังหวัดนครพนม ได้มอบหมายให้ นายอภิชาติ วงษ์กาฬสินธุ์ จัดหางานจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางอภิญญา ชมภูมาศ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายชิงชัย อภัยโส กำนันตำบลบ้านแพง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมมอบเงินดูแล ช่วยเหลือเบื้องต้น รวมถึงการดูแลจัดหาตำแหน่งงานให้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะได้มีงานทำแน่นอน