กรณี น้องกานต์ วัย 6 ขวบ หายตัวออกจากในพื้นที่ ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วงสายวันที่ 4 ก.ค.63 ที่ผ่านมา กระทั่งพบศพอยู่ในสวนยาง ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร โดยร่างของน้องกานต์เหลือเพียงท่อนบน ส่วนท่อนล่างช่วงเอว-ท่อนขาหายไป ใกล้กันพบเสื้อยืดสีแดงและกางเกงขาสั้น ตกอยู่ห่างจากศพ ประมาณ 30 เมตร ส่วนชิ้นส่วนอวัยวะที่หายไปยังไม่พบ
ล่าสุดวันที่ 10 ก.ค.63 ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ค้น 5 จุดต้องสงสัยดังต่อไปนี้ 1.บ้านพักนายสุทธิเกียรติ นนธิจันทร์ อาของน้องกานต์ 2.บ้านนายเกรียงวุฒิ วรรณทอง เจ้าของสวนยางพาราจุดพบศพและเป็นเจ้าของสุนัขพิตบูล 3.บ้านข้างศาลพระภูมิ 4.บ้านนางสาวสำราญ ศิริพร เจ้าของสุนัขล็อตไวเลอร์ และ 5.บ้านรังนก จุดที่น้องกานต์เคยเดินไปเล่น รวมถึงสวนที่อยู่ติดกับบ้านแต่ละหลัง รัศมีในการค้นรวมกว่า 500 เมตร
จากนั้น กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมสุนัขตำรวจ ตชด.11 นำหมายศาลจังหวัดจันทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 40 ม.2 ต.พลับพลา อ.เมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นของ นายเกรียงวุฒิ วรรณทอง อายุ 47 ปี เจ้าของสวนยางพาราที่พบศพ น้องกานต์ เพื่อค้นหาหลักฐาน รวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะ คราบเลือด และความผิดปกติต่างๆ
นายเกรียงวุฒิ เจ้าของบ้านได้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการนำอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อโคลต์ สีดำ รวมทั้งกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 227 นัด อาวุธปืนขนาด.38 มม.พร้อมกระสุนปืน จำนวน 100 นัด และปืนลูกซองเบอร์ 12 อีก 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวน 50 นัด พร้อมใบอนุญาตมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันว่าทั้งหมดเป็นปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย
นายเกรียงวุฒิ บอกว่า ในวันดังกล่าวตนออกจากบ้านเวลา 07.50 น. เดินเลาะตามสวนข้างบ้านผ่านสวนยางพารา แต่เดินทางฝั่งซ้ายดูตามแนวคลองทุ่งว่านเหลือง ไม่ได้สนใจในสวน เดินไปจนถึงบ้านน้องกานต์ พูดคุยกับอาน้องกานต์ และชาวบ้านอีก 2 คนที่มาช่วยค้นหา สอบถามถึงพฤติกรรมของเด็กและเส้นทางที่ค้นหา โดยใช้เวลาที่บ้านน้องกานต์ประมาณ 10 นาที
จากนั้นเดินกลับเส้นทางเดิมแต่เดินด้านในสวน จนไปเห็นฝูงแมลงวันแตกฮือออกมาจากพื้น เมื่อเดินไปดูใกล้ ๆ พบชิ้นส่วนมนุษย์ จึงตะโกนเรียกอาน้องกานต์และชาวบ้านให้มาช่วยกันดู โดยที่ตนยังไม่ได้เข้าไปแตะต้องศพแต่อย่างใด โดยคิดว่าเหตุที่ไม่เห็นศพตั้งแต่เดินผ่านรอบแรก เป็นเพราะมัวแต่มองในน้ำไม่ได้มองด้านในสวน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ตรวจพบกระดูกกระจายเต็มพื้นที่ข้างบ้านภายในสวนมังคุดที่อยู่ห่างจากบ้านของ น้องกานต์ ออกไปประมาณ 20 เมตร จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เข้าเก็บชิ้นส่วนกระดูกเพื่อนำไปตรวจสอบว่าเป็นของคน หรือสัตว์
นางจันทนา นนธิจันทร์ อาสะใภ้น้องกานต์ บอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจค้นบ้าน และสอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่น้องหายตัวไปที่ตนได้ยินเสียงสุนัขเห่าแต่ไม่ได้ออกไปดูเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ส่วนการค้นบ้านก็ไม่พบสิ่งผิดปกติโดยตนก็ยืนยันความบริสุทธิ์ใจตอบตำรวจตามความเป็นจริงทุกอย่าง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของน้องกานต์ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้พิสูจน์ เนื่องจากตอนนี้ตนกำลังวุ่นกับการจัดงานศพ
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านนางสาวสำราญ ศิริพร เจ้าของสุนัขร็อตไวเลอร์ ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกสูงอยู่กลางสวนติดกับสวนยางพารา ห่างจุดพบศพประมาณ 50 เมตร น.ส.สำราญ ยอมรับว่า เคยเลี้ยงสุนัขร็อตไวเลอร์จริงเมื่อ 10 ปี จนสุนัขตายไปแล้ว ตอนนี้มีเพียงสุนัขพันธุ์ไทย 4 ตัว ตัวแรกสีขาวเพศเมียชื่อเจ้าโม อายุ 6-7 ปี ตัวที่ 2 เพศผู้อายุ 3 ปี ชื่อม้าลาย ตัวที่ 3 เพศเมียไม่มีชื่ออายุ 6 เดือน และตัวสีดำเพศผู้ไม่มีชื่อ อายุ 3 เดือน โดยทั้ง 4 ตัวไม่ใช่สุนัขพันธุ์ดุ และไม่เคยกัดใคร
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาดูรอบบ้าน และใต้ถุนบ้าน เพื่อหาชิ้นส่วนหรือหลักฐานในคดีน้องกานต์ รวมถึงดูตามจุดที่สุนัขชอบอยู่ แต่ก็ไม่พบวัตถุต้องสงสัย ตนไม่รู้จักและไม่เคยเห็นน้องกานต์มาก่อน
นางปราณี คงศิริสัจธรรม อายุ 61 เจ้าของสวน บอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาถ่ายรูปและดูที่ศาลพระภูมิ รวมถึงดูบริเวณรอบบ้านเท่านั้น เนื่องจากเป็นจุดที่น้องกานต์เคยมาเที่ยวเล่นและทิ้งตุ๊กตาเอาไว้ โดยไม่เคยเห็นน้องกานต์มาก่อน แต่ก่อนเกิดเหตุประมาณ 10 วัน พบว่าประตูหน้าต่างบ้านถูกเปิดไว้ทั้งหมด รถเข็นเก็บผลไม้ก็ไปวางอยู่กลางสวน ขณะนั้นคิดว่าอาจจะเป็นขโมยแต่ตรวจสอบแล้วไม่มีของหาย ซึ่งหลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เข้ามาที่สวน
กระทั่งวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค.ผู้ใหญ่บ้านโทรศัพท์ไปบอกว่าเด็กหาย ขอเข้าไปดูที่สวนตน ซึ่งตนอนุญาต จนพบตุ๊กตามดตะนอย ส่วนตุ๊กตานางรำก็ถูกหักคอ จนมั่นใจว่าน้องกานต์ต้องเคยเข้ามาในพื้นที่ และเหตุการณ์ที่ประตูหน้าต่างถูกเปิดไว้ก็น่าจะเป็นฝีมือน้องกานต์ แต่ไม่รู้ว่าเป็นวันเดียวกันหรือไม่
นอกจากนี้ เข้ามาดูหลังบ้าน ยังพบหม้อกับกระทะที่วางทิ้งไว้ ถูกนำมาใส่น้ำลักษณะเหมือนน้องกานต์น่าจะมาเล่น และได้ทิ้งไม้สอยผลไม้กับย่ามใส่ผลไม้เอาไว้ด้วย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บไปเป็นหลักฐานแล้ว ส่วนความเชื่อเรื่องศาลพระภูมิ ไม่ได้ลบหลู่เพราะเป็นสิ่งที่นับถือ
ต่อมา ทีมข่าวเดินทางต่อไปสวนมังคุด ที่มีตึกเลี้ยงนกนางแอ่นอยู่กลางสวน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าบ้านรังนก อยู่ห่างจากจุดที่พบศพน้องกานต์ประมาณ 500 เมตร
นายศิริชัย พฤษดี อายุ 53 ปี คนงาน บอกว่า ตำรวจนำหมายศาลมาขอตรวจค้นภายในบ้านพักของตนที่อยู่ในสวน รวมถึงโดยรอบ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยเหตุที่เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาค้น คาดว่าเพราะน้องกานต์เคยเดินมาที่บ้านตนตั้งแต่ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา
ซึ่งวันนั้นเวลาประมาณ 06.30 น. เห็นน้องกานต์ เดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ตึกรังนกพร้อมสุนัข 2 ตัว โดยสุนัขวิ่งไล่เป็นและห่านที่ตนเลี้ยงไว้ จึงเดินไปบอกให้น้องกานต์กลับบ้าน เพราะกลัวสุนัขมากัดเป็ด น้องกานต์ยังพูดว่า อยากได้ห่าน 2 ตัว จึงบอกว่าไม่ได้ ก่อนที่เจ้าตัวจะกลับไป ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที หลังทราบข่าวว่าน้องหายไปก็ช่วยเดินดูรอบ ๆ พื้นที่สวนที่ดูแล แต่ไม่มีร่องรอย
พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 บอกว่า ผลการชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุผลว่า บาดแผลที่พบนั้น เกิดจากการกัดแทะของสัตว์ ไม่พบร่องรอยการตัดเฉือนจากของมีคม ส่วนการเสียชีวิตเกิดก่อนหรือหลังที่ถูกสัตว์กัดแทะร่าง ยังไม่สามารถยืนยันได้ เบื้องต้นจากการสอบสวนและรวบรวมหลักฐานในพื้นที่พบว่า ถ้าหากถูกตัวเงินตัวทองหรือสุนัขกัด ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงจะต้องได้ยินเสียงร้องของเด็ก จึงเป็นไปได้ว่าอาจถูกสัตว์มีพิษกัดก่อนที่จะถูกสัตว์กัดแทะร่างจนเหลือครึ่งท่อนบน
ทางนิติเวชได้นำตัวอย่างชิ้นเนื้อของน้องกานต์เข้าสู่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน แต่เนื่องจากสภาพศพเน่าเสีย จึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจพิสูจน์ อย่างไรก็ตาม ในการรวบรวมพยานหลักฐาน ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งทางประเด็นวิทยาศาสตร์และประเด็นอื่นๆ มั่นใจจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
