จากกรณีที่ พ.ต.ท.อลงกต พึ่งโพธิ์ รองผกก.สอบสวน สภ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า พบศพคนเสียชีวิตอยู่ในไร่อ้อย ห่างจากบ้านหนองกุง หมู่ 2 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ประมาณ 1 กม. หลังรับแจ้งจึงออกไปสอบสวนพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลทุ่งฝน, อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรส่างเมธาธรรม และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมจุดบริการหนองหาน
ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต เป็นชาย สภาพศพไม่สวมเสื้อผ้า นอนหงาย ศพดำเริ่มแห้ง หนังหุ้มกระดูก ไม่พบหลักฐานว่าเป็นบุคคลใด อายุประมาณ 30-40 ปี มีรอยสักอยู่กลางหลัง โดยมีนายสงกรานต์ บุดดีคำ อายุ 41 ปี เจ้าของไร่อ้อย พร้อมคนงานที่มาพบศพ แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
วันที่ 21 ม.ค. 63 นายสงกรานต์ บุดดีคำ เจ้าของไร่อ้อย ให้การว่า ตนได้ว่าจ้างชาวบ้านมาตัดอ้อยในไร่อ้อย พื้นที่ 12 ไร่ เป็นวันที่ 2 แล้ว ซึ่งก็ไม่ได้กลิ่นเหม็นศพ จนกระทั่งช่วงเย็น คนงานกำลังจะกลับบ้าน ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเข้ามาในบริเวณแถวนี้เพื่อกลับรถ ตอนแรกที่เจอยังไม่แน่ใจว่าใช่ศพคนหรือไม่ แต่ไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ ๆ จึงพบว่าเป็นศพจริง
พ.ต.ท.อลงกต พึ่งโพธิ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ทุ่งฝน เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ตายเป็นใคร เสียชีวิตด้วยสาเหตุใด เนื่องจากสภาพศพเน่าเปื่อยเริ่มแห้งแล้ว คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมากว่า 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ ไม่พบหลักฐานที่ระบุว่าผู้ตายเป็นใคร ได้สอบถามชาวบ้านที่มารับจ้างตัดอ้อย ก็ไม่มีใครรู้ว่าผู้ตายเป็นใคร เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำศพเอาไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อทำการชันสูตรอย่างละเอียด พร้อมกับประสานไปยังผู้นำชุมชน ในพื้นที่ อ.ทุ่งฝน และใกล้เคียง ว่ามีใครหายออกจากบ้านหรือไม่
