เมื่อวันที่ 19 ก.พ.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว นายอนุพงศ์ สุทธานี อายุ 54 ปี อดีตเทศมนตรีเทศบาล อ.หลังสวน จ.ชุมพร ตามหมายจับ ศาลจังหวัดพัทยา ที่ 1034/2550 ลงวันที่ 21 ธ.ค.50 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ได้ที่ริมถนนหมู่ 2 ต.วังธง อ.เมือง จ.แพร่
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 พ.ย.46 นายจูลส์ โอเดอะเกริกเก้น ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ควิก นิวส์ ได้แต่งงานกับนางสาวมาริสา พรหมณะ โดยทั้งสองอยู่กินเรื่อยมาจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน จำนวน 2 คน เมื่อปี 2546 นายอนุพงศ์ สุทธานี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตเทศมนตรีเทศบาล อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านพักของนายจูลส์ฯ โดยนายอนุพงศ์ฯ ได้ลักลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางสาวมาริสาฯ ภายหลังนายอนุพงศ์ฯ และนางมาริสาฯ ได้สมรู้ร่วมคิดกันที่จะฆ่านายจูลส์ฯ เพื่อประสงค์เอาเงินทองและทรัพย์สินมรดก
วันเกิดเหตุได้ชวนนายเศกสรรค์ พรหมณะ ซึ่งเป็นพี่ชายของนางสาวมาริสาฯ มาร่วมกันก่อเหตุ โดยนายอนุพงศ์ฯ กับนายเศกสรรค์ฯ ได้ใช้ไม้ตีนายจูลส์ฯ จนสลบก่อนที่จะใช้เชือกรัดคอจนแน่นิ่งไป และขับรถจะนำศพไปทิ้งระหว่างทางผู้ตายเกิดฟื้นสติขึ้นมา และตะโกนขอความช่วยเหลือนายอนุพงศ์ฯและนายเศกสรรค์ฯ จึงช่วยกันใช้ก้อนหินทุบซ้ำจนเสียชีวิต ก่อนที่จะนำศพไปทิ้งไว้ข้างกองขยะในซอยกรีนเวย์ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 16 พ.ย.46 ภายหลังมีผู้พบศพ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานในคดี ดำเนินคดีกับนายอนุพงศ์ฯ นายเศกสรรค์ฯ และนางสาวมาริสาฯ ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ภายหลังนายอนุพงศ์ฯ ได้ยื่นประกันตัวต่อศาลเพื่อต่อสู้คดี โดยศาลได้มีนัดพิจารณาคดีแต่นายอนุพงศ์ฯ ไม่มาตามนัดหลายครั้งจนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.50 ศาลตัดสินคดีนายอนุพงศ์ฯ ลงโทษประหารชีวิต โดยวันเวลาดังกล่าวนายอนุพงศ์ฯ ไม่มารับฟังคำพิพากษาและหลบหนีไป ศาลจึงได้ออกหมายจับนายอนุพงศ์ฯ ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 1034/2550 ลงวันที่ 21 ธ.ค.50 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง”
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้สืบสวนติดตามคดีเรื่อยมาจนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาหนีไปกบดานเพื่อรอคดีหมดอายุความที่ อ.เมือง จ.แพร่ จึงได้ออกติดตามพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณดังกล่าวจึงได้จับกุมตัว นำส่งศาลจังหวัดพัทยา ดำเนินคดี จากการสอบถามในชั้นจับกุมตัวให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุฆ่านายจูลส์ฯ ในคดีนี้จริงและอยู่ระหว่างหลบหนีเพื่อให้คดีหมดอายุความรวมแล้ว 17 ปี ตั้งแต่เกิดเหตุแต่มาถูกตำรวจกองปราบจับกุมตัวเสียก่อน
