โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ป๋าเต็ด ยุทธนา "ไม่ควรยื่นสิ่งเดิมๆ ให้คนดู"

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 13 ธ.ค. 2562 เวลา 12.12 น. • เผยแพร่ 13 ธ.ค. 2562 เวลา 12.12 น.
17-3p1
ท่ามกลางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายของบรรดาผู้จัดอีเวนต์บันเทิง มิวสิกเฟสติวัล และคอนเสิร์ตต่าง ๆ ไม่น้อย

ขณะเดียวกันก็ต้องรับบทหนัก ทั้งพลิกกลยุทธ์ หาโมเดลใหม่ ๆ สร้างผลงานที่แปลกใหม่ เพื่อชิงความสนใจ และดึงเม็ดเงินจากกระเป๋าคนดูให้ได้ เช่นเดียวกับผู้จัดฝีมือเก๋า ที่ผ่านร้อน ผ่านหนาว บนสมรภูมิมิวสิกเฟสติวัลมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมเดียวกัน

ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์ “ยุทธนา บุญอ้อม” ประธานกรรมการ บริษัท แก่น 555 จำกัด หรือที่คนในแวดวงคุ้นเคยกันในชื่อ “พี่เต็ด” หรือ “ป๋าเต็ด” ผู้ปลุกปั้นเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่ อย่าง “บิ๊กเมาน์เท่น” ให้เป็นที่รู้จัก พร้อม ๆ กับการสร้างวัฒนธรรมการดูคอนเสิร์ต และคอนเทนต์ดนตรีแนวใหม่ ๆ ที่ฉีกจากรูปแบบเดิม ๆ

“ยุทธนา” เริ่มบทสนทนาว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และกระทบกำลังซื้อผู้บริโภค ทำให้ผู้จัดต้องทำงานหนักขึ้น โจทย์การทำงานมิวสิกเฟสติวัล หรือคอนเสิร์ตใหม่ ๆ สักงาน ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในแง่ของการหาผู้สนับสนุนงาน (sponsor) ยากขึ้น ทำให้ที่ผ่านมา ผู้จัดงานต้องปรับตัวมาต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง บางรายก็ปรับตัวแบบง่าย ๆ คือ ทำความเข้าใจโจทย์ของสปอนเซอร์ (สินค้า) ว่า ทำให้อย่างไรให้ของขายได้ และสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้านั้น ๆแต่ก็มีผู้จัดอีกกลุ่มที่ฉีกออกไป ด้วยการพยายามหารูปแบบการจัดงานใหม่ ๆ ที่แตกต่าง

“ป๋าเต็ด-ยุทธนา” ย้ำว่า หากพิจารณาภาพรวมตลาดโชว์บิซปีนี้ ทั้งคอนเสิร์ต เอาต์ดอร์เฟสติวัล มิวสิกเฟสติวัล ต้องยอมรับว่า ตอนนี้ในแง่จำนวนผู้จัดนั้นมีมากกว่าสปอนเซอร์ ซึ่งนี่ยังไม่นับรวมบรรดาสปอนเซอร์เหล้า เบียร์ ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้จัดงานเอง ทำให้ในแง่ของรายได้ผู้จัดแต่ละงานลดลง เพราะถูกเกลี่ย ๆ เฉลี่ย ๆ กันออกไป เรียกว่าตอนนี้ต้องทำสิ่งที่ขายได้แน่ ๆ จนบางครั้งผู้จัดเองก็ลืมจุดขายของตัวเองและหลงลืมไปว่ากำลังทำอะไรอยู่

ถ้าเป็นหนังก็ถือว่าตอนนี้ทุกคนต่างพยายามสร้างหนังตลาด ที่คิดว่าคนอยากดู ซึ่งความเป็นจริงคนอาจจะไม่อยากดูก็ได้ เพียงแต่ไม่มีทางเลือก จนไม่ได้มองอีกด้านว่า ยังมีพื้นที่ใหม่ และมีดีมานด์อยู่

“ไม่ควรยื่นสิ่งเดิม ๆ ให้กับผู้บริโภค ที่สำคัญ อย่าคิดแทนผู้บริโภคว่า ชอบคอนเทนต์แบบนั้น แบบนี้ แต่ต้องพยายามสร้างผลงาน สร้างงานรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อมัดใจผู้บริโภคให้ได้”

เมื่อโจทย์ยากขึ้น “ยุทธนา” บอกว่า ทิศทางของธุรกิจอีเวนต์ปี 2563 จะเปลี่ยนไป ถ้าจะจัดงานก็ต้องจัดงานใหญ่ไปเลย หรือไม่ก็ต้องจัดงานขนาดเล็ก ๆ ที่เป็นงานเฉพาะกลุ่มไปเลย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อ นั่นหมายถึงกลุ่มเป้าหมายของงานต้องชัดเจน

พร้อมกันนี้ ป๋าเต็ดยังกล่าวด้วยว่า สำหรับ แก่น 555 เอง ในปีหน้าได้เตรียมโปรเจ็กต์ใหม่ “เดอะโมเต็ล” (The Motel) ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีขนาดเล็ก ที่แตกต่างจากเทศกาลดนตรีทั่วไป เพราะทุกวันนี้ เทศกาลดนตรีก็เหมือนกันทุกงาน ต่างกันที่สถานที่เท่านั้น ดังนั้นก็ต้องทำอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอด โดยจะแปลงโรงแรมม่านรูดให้เป็นเทศกาลดนตรีขนาดเล็ก ที่รองรับคนเข้างาน 500-600 คน

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ การใช้พื้นที่แต่ละห้องของโรงแรมม่านรูด ให้ศิลปินแต่ละวงได้สร้างสรรค์ และสื่อสารกับแฟนเพลงออกมาในสไตล์ของตัวเอง ซึ่งแนวทางนี้สอดรับกับวงการเพลง ที่กลุ่มคนฟังและแนวเพลงเองถูกแยกย่อยเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

“เราอยากสร้างเทศกาลดนตรีเล็ก ๆ ให้เกิดขึ้น สร้างพื้นที่ใหม่ ๆ แต่อุปสรรคของโปรเจ็กต์นี้ที่ต้องคิดให้ขาด คือ จะหางบฯมาจากส่วนไหนบ้าง ซึ่งแค่ไม่เจ็บตัว เสมอตัว ไม่ควักเนื้อ ก็ทำแล้ว”

นอกจากนี้ก็พยายามบาลานซ์สัดส่วนระหว่างการรับจ้างผลิตและโปรเจ็กต์ของบริษัท รวมถึงแตกมาทำธุรกิจสื่อ ด้วยการผลิตช่องบนยูทูบ ในชื่อ “ป๋าเต็ด ทอล์ก” เริ่มออกอากาศตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา

ขณะที่เป้าหมายอีก 3-5 ปีข้างหน้า “ยุทธนา” บอกว่า ก็ยังคงเป้าหมายเดิม คือ การสร้างอีเวนต์ของตัวเอง อาจจะเป็นงานขนาดเล็ก ๆ ก่อน แล้วค่อยขยับเป็นงานใหญ่ ๆ ท้ายที่สุด คือ การเดินไปสู่เป้าหมาย นั่นคือการมีเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่อย่าง บิ๊กเมาน์เท่น เป็นของตัวเอง

ทั้งหมดกลายเป็นภารกิจใหญ่…ที่ไม่เคยหยุด แต่ต้องเร่งสร้างให้เกิดขึ้น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0