โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ป้าเจ้าของนาข้าวร่ำไห้! วอนรัฐช่วยเหลือ ทางหลวงบุรีรัมย์รื้อเกลี้ยงถุงปุ๋ยปิดคลุมหลอดไฟฟ้าริมถนน

Manager Online

เผยแพร่ 20 พ.ย. 2562 เวลา 15.56 น. • MGR Online

บุรีรัมย์- แขวงทางหลวงบุรีรัมย์ พร้อมหมวดบำรุงทางหลวง และ อบต.สะเดา นำจนท.พร้อมรถกระเช้าเก็บรื้อกระสอบปุ๋ยและสแลนที่ชาวนาเอาไปปิดคลุมหลอกไฟบนถนนหลวงออกแล้ว ขณะป้าวัย 65 เจ้าของนาร้องไห้โฮลงทุนไปแล้วแต่ไม่ได้ผลผลิต วอนรัฐเยียวยาช่วยเหลือ

วันนี้ ( 20 พ.ย. ) จากกรณีที่มีชาวบ้านหรือเกษตรกรนำกระสอบปุ๋ยและสแลนกันแดดปิดคลุมหลอดไฟฟ้าส่องสว่าง ที่ติดตั้งไว้บนถนนทางหลวงหมายเลข บร.3001 สายละหานทราย - นางรอง ช่วงถนน 4 เลน บริเวณบ้านจอมปราสาท ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ทั้งยังใช้เชือกมัดผูกกับกระป๋องกาแฟ และก้อนหินผูกติดห้อยระโยงระยาง รวมจำนวน 7 ต้น เพราะมีความเชื่อว่าแสงไฟทำให้ต้นข้าวโตช้าและไม่ออกรวง ตามข่าวที่นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง นั้น

ล่าสุด นายวิทย์ วรวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายประสพ บุญอินทร์ ผู้อำนวยการหมวดบำรุงทางหลวงชนบทประโคนชัย นายวิจารย์ เลียวเสถียรวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสะเดา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่ามีการนำถุงปุ๋ยและสแลนปิดคลุมหลอดไฟส่องสว่างจริง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่นำรถกระเช้าขึ้นไปทำการเก็บรื้อกระสอบปุ๋ยสแลนดังกล่าวออกจากหลอดไฟทั้งหมด พร้อมทั้งได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านและเจ้าของที่นาด้วยว่า การนำวัสดุหรือสิ่งของไปปิดคลุมหลอดไฟไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะเป็นทรัพย์สินของทางราชการ อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ทางหลวง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปรื้อกระสอบปุ๋ยและสแลนออกจากหลอดไฟ นางปราณี จันทคาต อายุ 65 ปี เจ้าของนาถึงกับร้องไห้โฮ เพราะกลัวว่าเอาสแลนออกแล้วข้าวจะไม่ออกรวงหรือไม่ได้ผลผลิตเต็มที่ ทั้งยอมรับว่าตนเป็นคนนำถุงปุ๋ยและสแลนมาปิดหลอดไฟจริง โดยการใช้ไม้ไผ่เกี่ยวและเพิ่งทดลองทำปีนี้เป็นปีแรก เพราะปีที่ผ่านมาหลังจากมีการขยายถนน 4 เลนและติดไฟส่องสว่าง นาข้าวของตนซึ่งอยู่ติดถนนใกล้กับหลอดไฟได้ผลผลิตน้อย มีคนบอกว่าเกิดจากแสงไฟที่ทำให้ข้าวสังเคราะห์แสงตลอดเวลา จึงโตช้าและบางส่วนไม่ออกรวง

โดยก่อนจะใช้สแลนปิดไปขอการไฟฟ้าแล้วซึ่งการไฟฟ้าก็ไม่ได้อนุญาต ตนจึงตัดสินใจทดลองเอง แต่ไม่ได้ปิดจนมืดสนิท แค่ปิดสลัวๆ แต่หากเจ้าหน้าที่บอกว่าทำไม่ได้ ตนยินดีให้เอาออก แต่อยากขอความเห็นใจจากหน่วยงานรัฐ ให้หาแนวทางช่วยเหลือและเยียวยาด้วย เพราะลงทุนทำนาไปแล้ว 5 ไร่ ยังไม่รู้ว่าปีนี้จะได้ผลผลิตหรือไม่ และปีต่อๆ ไปจะทำยังไง

นายวิทย์ วรวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทบุรีรัมย์ บอกว่า ที่ติดตั้งระบบไฟส่องแสงสว่างเพื่ออำนวยความสะดวกความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้สัญจรในเส้นทาง ตามนโยบายของกรมทางหลวงชนบท หลังจากทราบว่ามีคนนำสิ่งของไปปิดคลุมหลอดไฟซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงได้มาเอาออกพร้อมทำความเข้าใจกับเจ้าของนา และชาวบ้านในพื้นที่ด้วย ส่วนที่เจ้าของนาเชื่อว่าแสงไฟทำให้ข้าวโตช้าและไม่ออกรวง จะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

ด้าน นายวิจารย์ เลียวเสถียรวงค์ นายก อบต.สะเดา กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวได้ประสานให้แขวงการทาง และเจ้าหน้าที่ป้องกัน อบต.สะเดา มาเอาถุงปุ๋ยและสแลนดังกล่าวออกจากหลอดไฟ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ทั้งป้องกันไม่ให้ผู้สัญจรเสี่ยงอุบัติเหตุด้วย ส่วนที่ชาวนาอ้างว่าแสงไฟทำให้ข้าวโตช้าและไม่ออกรวงนั้น เป็นความเชื่อของชาวนา แต่ข้อเท็จจริงยังไม่รู้ว่าจะเกี่ยวหรือไม่

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0