จากบทเรียนกรณี "ป้าชาวเกาหลี" อาศัยในเมืองแทกู ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายที่ 31 ของประเทศ และที่ผ่านมามีอาการไอจาม คิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไร มีการเดินทางไปทำกิจกรรมยังสถานที่ต่างๆ มารู้อีกทีเมื่อติดเชื้อไปแล้ว จนมีการแพร่ระบาดไปยังชาวเกาหลีหลายร้อยคน หรืออาจมากกว่า 1 พันคนก็เป็นไปได้ จากตัวเลขผู้ติดเชื้อในเกาหลีทะยานเพิ่มขึ้นไม่หยุดเกือบแตะพันคน
อย่างเคสล่าสุดของไทย เมื่อผู้ป่วยชายรายหนึ่งเข้ารักษาตัวใน รพ.บีแคร์ จากอาการมีไข้ และไอ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ แต่ปกปิดข้อมูลการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง จนผ่านมา 1 วัน จึงยอมเปิดปาก และพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงภรรยาที่เดินทางไปเที่ยวเมืองฮอกไกโดด้วยกัน และยังนำเชื้อกลับมาติดหลานชายวัย 8 ขวบอีกด้วย กลายเป็นว่าการปกปิดข้อมูล มีความเสี่ยงจะเกิดการแพร่ระบาดไปยังอีกหลายคนที่แวดล้อมใกล้ชิดครอบครัวนี้
แม้ว่าขณะนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุกรณีนี้ยังไม่ถึงขั้นการแพร่เชื้อไปยังคนอื่นเป็นสิบคน หรือซุปเปอร์สเปรดเดอร์ เหมือนในต่างประเทศจากการติดเชื้อ 1 คน มีการแพร่ไปยังคนอีก 20 คน แต่ก็ต้องติดตามดูผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อในระยะเวลา 14 วัน ว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่
สำหรับการปกปิดประวัติ และไม่ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์ ได้ส่งผลร้ายไปยังคนใกล้ชิด และทำให้การติดตามผู้สัมผัสในระหว่างการเดินทางทั้งจากที่อยู่ต่างประเทศ บนเครื่องบิน หรือยานพาหนะ และขณะที่กลับมายังประเทศไทย ทำให้เกิดความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้มีมติประกาศให้เชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย อันดับที่ 14 เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์จะทำงานได้ง่ายขึ้น หลังจากที่ผ่านมาต้องใช้ดุลพินิจในการตรวจรักษา แต่เมื่อออกประกาศดังกล่าว นั่นหมายความว่า หากพบใครน่าสงสัย หรืออาจติดเชื้อ โควิด-19 สามารถตรวจได้ทันที และแจ้งให้กรมควบคุมโรค ได้รับทราบภายใน 3 ชั่วโมง โดยมีอำนาจกักตัว รวมถึงกักตัวผู้สัมผัสที่ยังไม่มีอาการได้ตามกฎหมาย
ส่วนบทลงโทษกรณีปกปิดข้อมูล ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ระบุว่า เจ้าบ้านมีหน้าที่แจ้งกรณีพบผู้ป่วย ถ้าสมาชิกในบ้านป่วยโรคติดต่ออันตราย หรือไปประเทศเสี่ยง และมีการป่วย แล้วไม่แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือปกปิด จะมีความผิดฐานไม่แจ้งพนักงานควบคุมโรคติดต่อ มีโทษปรับ 2 หมื่นบาท และผู้ใดฝ่าฝืนไม่ทำตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 แสนบาท สำหรับเจ้าของพาหนะหรือสถานประกอบการ หากปกปิดข้อมูลไม่ทำตามคำสั่ง อาจโดนโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 5 แสนบาท.
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ข้อดี "ฟ้าทะลายโจร" อีก 1 เดือน รู้ผล ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือ
- คนไทยบนเรือไดมอนด์ ปริ๊นเซส ติดเชื้อโควิด-19 รวม 5 คน
- สรุปอัปเดต “โควิด-19” ในไทยเจอเพิ่ม เลื่อนเที่ยวประเทศฮิต จับตาคนบนเรือสำราญ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath