โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ป้าอ๊อดชี้แจง กรณีภาพวาด อ.ถวัลย์ 113 ภาพหายไป

อีจัน

อัพเดต 19 ก.ย 2561 เวลา 02.33 น. • เผยแพร่ 18 ก.ย 2561 เวลา 12.45 น. • อีจัน
ป้าอ๊อดชี้แจง กรณีภาพวาด อ.ถวัลย์ 113 ภาพหายไป
จากกรณีภาพวาด อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห&#…

จากกรณีภาพวาด อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ จำนวน 113 ภาพ สูญหายอย่างเป็นปริศนา โดยคาดว่าคนใกล้ชิดน่าจะพอทราบว่าภาพทั้งหมดมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาทหายไปอยู่ที่ใด วันนี้ (18 ก.ย.61) นางสาวทิพย์ชาติ วรรณกุล หรือป้าอ๊อด คู่ชีวิตของ อ.ถวัลย์ มานาน 30 กว่าปี ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านข้อความ เนื่องจากไม่ให้สื่อเข้าสัมภาษณ์ โดยระบุข้อความว่า

“สิ่งที่สังคมในขณะนี้ได้รับรู้รับทราบข้อมูลเพียงด้านเดียวจากสื่อมวลชน ที่มีคนมากล่าวอ้างว่าเกิดกรณีทรัพย์สมบัติของชาติ ซึ่งเป็นผลงานศิลปะที่เกิดจากการสร้างสรรค์และรังสรรค์ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ได้สูญหายไปมีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เดิมป้าอ๊อดว่าจะไม่ให้ข่าวใดๆทั้งสิ้น คุณดอยธิเบศร์นั้น ป้าอ๊อดดูแลมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ตามโอกาสและที่ลุงหวัน (อ.ถวัลย์) มอบหมายให้ดูแล เมื่อมากรุงเทพด้วยความเอื้อเอ็นดูมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันตลอดมา คุณดอยธิเบศร์ก็เป็นคนในครอบครัว ซึ่งการมีคดีความกับคนในครอบครัวเป็นเรื่องที่เจ็บปวด เรื่องราวที่เกิดขึ้น หลังจากที่ลุงหวันเสียชีวิตมีมากมายแต่ก็ป้าอ๊อดไม่ปรารถนาให้เรื่องราวเหล่านั้นปรากฏสู่สาธารณชน

ป้าอ๊อด จึงไม่อยากนำเสนอข่าวที่เป็นการกระทบกระทั่ง หรือพาดพิงถึงบุคคลใด เกรงว่าจะเป็นการเสื่อมเสียเกียรติของลุงหวัน ผู้ล่วงลับจากป้าอ๊อดไปอย่างไม่มีวันกลับ ป้าอ๊อดขอใช้พื้นที่เล็กๆ ให้รายละเอียดข้อเท็จจริงบางเรื่องเพียงครั้งเดียวโดยขออนุญาตที่จะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้นดังนี้ 

  1. ป้าอ๊อดเป็นภรรยาคู่ชีวิตของลุงหวัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่กินกันด้วยฉันสามีภรรยามาด้วยกันเป็นเวลา 30 กว่าปี ในคดีจัดการมรดกศาลฎีกาได้โปรดพิพากษารับรองสิทธิ์ของป้าอ๊อดว่าเป็นภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส หรือส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันระหว่างที่อยู่กินด้วยกัน

2.ต่อมาป้าอ๊อดได้ใช่สิทธิทางศาลในการเรียกร้องกรรมสิทธิ์ในส่วนของป้าอ๊อดในฐานะภรรยาที่ทำมาได้ร่วมกันเป็นเวลา 30 กว่าปี

โดยในคดีดังกล่าวในชั้นไกล่เกลี่ยหรือประนอมข้อพิพาท ป้าอ๊อดกับคุณดอยธิเบศร์ได้ตกลงไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเพื่อยุติคดีความโดยกำหนดกรอบต่อผู้ประนอมหรือผู้ไกล่เกลี่ยดังนี้

1.พิพิธภัณฑ์บ้านดำเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ ยกให้แก่ คุณดอยธิเบศร์ ดัชนี

2.บ้านกรุงเทพ 2 หลัง กล่าวคือ บ้านรั้วเขาควายและทาวน์เฮ้าส์บ้านเกษรา รวมกันเนื้อที่ไม่ถึง 200 ตารางวายกให้แก่ป้าอ๊อด

  1. ภาพวาดของลุงหวัน แบ่งกันในอัตราส่วน 60 ต่อ 40 (คุณดอยธิเบศร์ 60 ป้าอ๊อด 40)

  2. เงินในบัญชีแบ่งกันในอัตราส่วน 60 ต่อ 40 (คุณดอยธิเบศร์ 60 ป้าอ๊อด 40)

ที่สำคัญทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า พิพิธภัณฑ์บ้านดำ บ้านกรุงเทพ 2 หลังและผลงานภาพวาดศิลปะของลุงหวัน ไม่ว่าฝ่ายใดจะครอบครองก็ตามจะไม่มีการขายไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น

เนื่องจากทรัพย์สินที่พิพาทยังไม่ได้รวบรวมและจัดทำร่วมกันตามกฎหมาย คุณดอยธิเบศร์ในฐานะผู้จัดการมรดก และป้าอ๊อดในฐานะภรรยาจึงได้ตกลงร่วมกันเพื่อทำบัญชีทรัพย์สินที่พิพาทร่วมกัน 3 แห่งกล่าวคือ ที่บ้านดำ และที่บ้านกรุงเทพ 2 แห่ง

โดยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561 และวันที่ 15 มิถุนายน 2561 ป้าอ๊อดได้ยินยอมและอนุญาตให้ฝ่ายของคุณดอยธิเบศร์ ซึ่งประกอบไปด้วย ทนายความ ช่างภาพ และผู้จัดการพิพิธภัณฑ์บ้านดำเข้ามาถ่ายภาพทรัพย์สินทั้งหมดภายในบ้านร่วมกัน และจัดทำบัญชีทรัพย์ร่วมกันที่บ้านรั้วเขาควาย และบ้านเกษรา ตามข้อตกลง

ทั้งนี้ป้าอ๊อดได้อำนวยความสะดวกในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็น เรื่องอาหาร เครื่องดื่มและเรื่องอื่นๆ อาทิเช่น ให้คนรับใช้ และได้ว่าจ้างบุคคลภายนอกมาช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อให้การถ่ายภาพร่วมกันและการจัดทำบัญชีทรัพย์พิพาทสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ด้วยฝ่ายของป้าอ๊อดมีทนายความ ช่างภาพ 2 คน ผู้ดูแลบ้านอีก 2 คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีโดยไม่มีการโต้แย้งคัดค้าน หรือกระทบกระทั่งใดๆทั้งสิ้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ซึ่งเป็นวันนัดไกล่เกลี่ยเพื่อสอบถามความคืบหน้าในเรื่องการถ่ายภาพทรัพย์พิพาทและการจัดทำบัญชีทรัพย์ร่วมกันซึ่งฝ่ายประวัติและฝ่ายของคุณดอยธิเบศร์ได้แถลงร่วมกันดังนี้

“นัดไกล่เกลี่ยในวันนี้ทนายทั้งสองฝ่ายแถลงร่วมกันว่า คู่ความได้ถ่ายภาพเพื่อจัดทำบัญชีภาพวาดแล้วเสร็จเพียง 2 แห่ง ส่วนที่เหลือบ้านดำคู่ความได้นัดช่างภาพและผู้ที่เกี่ยวข้องไปถ่ายภาพในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ซึ่งจะจัดทำบัญชีแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นจะได้นำมาเปรียบเทียบด้วยกันพร้อมจัดสรรรูปภาพทั้งหมดในสัดส่วน 60 ต่อ 40 ตามกรอบข้อตกลงในการเจรจาครั้งที่แล้ว ให้เลื่อนไปเจรจาในวันที่ 23 สิงหาคม 2561 เวลา 9.30 น.

ซึ่งในวันดังกล่าวฝ่ายคุณดอยธิเบศร์ได้ให้สัญญาอย่างลูกผู้ชายและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะกับฝ่ายป้าอ๊อดและผู้ประนอมว่า ในการร่วมกันถ่ายภาพและจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 นี้ จะไม่ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น
ต่อมาในวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 ทนายความของคุณดอยธิเบศร์ ได้โทรศัพท์มาหาทนายความของป้าอ๊อด และแจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ตามที่เคยตกลงกันไว้เเล้วนั้น คุณดอยธิเบศร์ขอยกเลิกไม่อนุญาตให้ปล่อยป้าอ๊อดไปถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ จังหวัดเชียงราย ใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการผิดคำพูดในฐานะลูกผู้ชายที่เคยให้ไว้กับป้าอ๊อด และผู้ประนอมและเป็นการผิดข้อตกลง

เดิมการถ่ายภาพและจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ จังหวัดเชียงราย ได้กำหนดไว้ภายในเดือนมิถุนายน 2561 หลังจากที่ถ่ายภาพและจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่บ้านเกษราและบ้านรั้วเขาควายเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่คุณดอยธิเบศร์ได้บ่ายเบี่ยงอ้างว่าติดธุระขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 9.00 น ซึ่งวันและเวลาดังกล่าวคุณดอยธิเบศร์เป็นผู้นัดหมายเอง ต่อมากลับเป็นฝ่ายทำผิดข้อตกลง ยกเลิกนัดในภายหลัง

และต่อมาคุณดอยธิเบศร์ได้ยกเลิกการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทในคดี

ซึ่งหลักฐานทั้งหมดปรากฏอยู่ในสำนวนศาลคดีนี้ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลโดยสารได้โปรดนัดสืบพยานในเดือนมกราคม 2562

3.ผลงานศิลปะหรือทรัพย์สินที่มีการกล่าวอ้างนั้นลุงหวันยังไม่เคยยกให้แก่ผู้ใดและไม่ปรากฏหลักฐานแห่งการยกให้ใครใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นคำกล่าวอ้างที่ว่าเป็นสมบัติของแผ่นดินจึงไม่เป็นความจริงอีกทั้งกรณีคดีแบ่งทรัพย์สินยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

4.ป้าอ๊อดไม่มีเจตนาที่จะครอบครองทรัพย์สินหรือผลงานศิลปะของลุงหวันแต่เพียงผู้เดียวแต่อย่างใด โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างป้าอ๊อดกำลังจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิและจะทำพิพิธภัณฑ์เพื่อเชิดชูผลงานของลุงหวัน และเป็นสถานที่ให้ความรู้ทางด้านศิลปะให้แก่สังคมโดยไม่เก็บเงินและไม่แสวงหาผลกำไรโดยจะมีภัณฑารักษ์ และผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญคอยดูแลตลอดไป แม้ป้าอ๊อดเสียชีวิตไปแล้วทุกอย่างก็จะดำรงคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และป้าอ๊อดจะมอบให้เป็นสมบัติของแผ่นดินตามความปรารถนาของป้าอ๊อดและที่ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับหนังสือพิมพ์แนวหน้าเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2557 ซึ่งเจตนารมณ์ดังกล่าวของป้าอ๊อดยังคงแน่วแน่มั่นคงไม่เคยเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ชีวิตจะหาไม่ ซึ่งบรรดานักสะสมภาพวาดศิลปะทั้งหลายก็ต่างทราบเรื่องดังกล่าวนี้เป็นอย่างดี

  1. ระหว่างที่ไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทในคดีแพ่ง มีเหตุการณ์เกิดขึ้น กล่าวคือคุณดอยธิเบศร์ได้ไปแจ้งความที่สน.บางชัน ว่าภาพวาดลุงหวันให้จำนวน 10 ภาพได้หายไปจากบ้านเกษรา ซึ่งผู้ถือกุญแจบ้านคือ ป้าอ๊อดและได้อายัดภาพวาดดังกล่าวจากแกลเลอรี่ต่างๆ เมื่อมีการสอบสวนเจ้าของผู้ครอบครองภาพวาดทั้งหมดแล้วปรากฏว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองภาพวาดที่คุณดอยธิเบศร์แจ้งความว่าหายนั้น ได้ภาพวาดมาในระหว่างที่ลุงหวันยังมีชีวิตอยู่ไม่เกี่ยวข้องกับป้าอ๊อดแล้วบ้านเกษราเลย เป็นเหตุให้คดีนี้พนักงานสอบสวนได้เสนอรายงานต่อพนักงานอัยการได้งดการสอบสวนในที่สุด

  2. ต่อมาปรากฏว่าคุณดอยธิเบศร์ได้แจ้งความเพิ่มเติม ว่ามีภาพวาดหายจำนวนมากถึง 113 ภาพซึ่งเรื่องราวดังกล่าวปรากฏสู่สาธารณชน สร้างกระแสข่าวให้ใหญ่โตให้เป็นที่สนใจโดยบุคคลภายนอกผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล

7.เนื่องจากคดีการฟ้องแบ่งทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลในเดือนมกราคม 2562 ที่จะถึงนี้ กรณีที่มีการกล่าวหา ว่าภาพว่าได้สูญหายมากถึง 113 ภาพนั้นไม่ทราบรายละเอียดใดๆทั้งสิ้นเพราะหลังจากที่ลุงหวังจากไปป้าอ๊อดไม่สามารถเข้าไปบ้านดำได้อีกแล้ว แต่ทรัพย์สินทุกอย่างที่อยู่ภายในบ้านรั้วเขาควายและบ้านเกษรา ยังคงเหมือนเดิมและได้มีการบันทึกภาพไว้แม้กระทั่ง เฟรม แปรง พู่กัน น้ำมันสน สี ก็ยังอยู่ที่เดิมไม่มีการเคลื่อนย้ายไปจากชีวิตของป๊อดเลย

8.หากศาลพิพากษาอย่างไร ป้าอ๊อดน้อมรับคำตัดสินและพร้อมปฏิบัติตามในคำตัดสินของศาลดังเช่นที่ผ่านมา และก็จะยืนหยัดด้วยความภาคภูมิใจว่า ชีวิตนี้ได้ใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกับลุงหวันจนลมหายใจสุดท้ายและรอคอยวันที่ลุงวันกลับมารับป้าอ๊อดจากดวงจิตหนึ่งสู่ดวงจิตหนึ่งของผู้รอคอย

สุดท้ายนี้ ป้าอ๊อดเป็นเพียงผู้หญิงชราคนหนึ่งวัย 70 ปี และอยู่ตัวคนเดียว เพียงลำพัง ณ บ้านรั้วเขาควาย ขอกราบขอบพระคุณและขอคารวะผู้ที่สะสมตลอดจนผู้ที่ชื่นชมงานศิลปะของลุงหวันเสมอมาและต้องกราบขอโทษผู้ที่สะสมภาพของลุงหวานในขณะที่ลุงหวังยังมีชีวิตอยู่ ต้องเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จากกลุ่มบุคคลบางคนขอคารวะด้วยใจจากผู้ที่สูญเสีย"

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0