ป้าสาดโคลน รับ โมโหจัด คนจอดรถขวางที่ พบผู้เสียหาย 20 ราย หวั่นปะทะกลางโรงพัก
ป้าสาดโคลน / จากกรณี โลกออนไลน์มีการแชร์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นภาพรถยนต์ จำนวนหลายคัน ที่จอดอยู่ริมถนนภายในซ.อดุลยาราม ฝั่งชุมชุนกังสดาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่ถูก หญิงสาววัยกลางคน รายหนึ่งนำโคลนมาสาดรถและนำยางรถจยย.มาวางไว้ที่หน้ารถ ต่อมาหญิงสาววัยกลางคนที่ก่อเหตุ ได้ออกมาระบุว่า ตนเองทำถูกแล้วเนื่องจากรถที่มาจอดนั้น กีดขวางที่ดินของตนตามที่เสนอไปก่อนหน้า
ล่าสุด วันที่ 15 ธ.ค. พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สว.สส.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย ร.ต.อ.นฤนาท ศรีชมภู รอง สว.สส.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่บริเวณริมถนนภายในซ.อดุลยยาราม ชุมชนกังสดาลเขต เทศบาลนครขอนแกน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดหญิงวัยกลางคนผู้ก่อเหตุ ใช้ยางล้อรถจยย.วางบนหน้ารถ รวมทั้งการใช้ โคลน น้ำขยะ เทราดใส่รถของประชาชนที่มาจอดรถในพื้นที่ดังกล่าวโดยมีผู้เสียหายรวมกว่า 20 ราย
โดยเจ้าหน้าที่ ได้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อม พ้อมบันทึกภาพใกล้กับบริเวณจุดเกิด ก่อนทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวคือ นางอุ่น (นามสมมติ) อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่เกิดปัญหา พร้อมโทรศัพท์เพื่อเชิญตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนางอุ่น (นามสมมติ) ได้ปั่นจักรยานมาพบเจ้าหน้าที่พร้อมยืนยันในความบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นพร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชิญตัว นางอุ่น (นามสมมติ) มาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองขอนแก่น ท่ามกลางอารมณ์ที่ฉุนเฉียวของนางอุ่น (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ภายในห้องพนักงานสอบสวน โดยให้เจ้าทุกข์ที่มาแจ้งความดำเนินคดีนั้นรอที่ห้องสืบสวน เพื่อกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น
พ.ต.ท.วงศกร กล่าวว่า หลังรับแจ้งจากเจ้าทุกข์ จึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้มีการสอบปากคำพยานและเจ้าทุกข์ยืนยันตัวบุคคลชัดเจนจึงเชิญตัวมาทำการสอบนสวน เบื้องต้น นางอุ่น (นามสมมติ) ยังคงยืนยันในความถูกต้องจึงต้องรอให้สงบสติอารมณ์เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้พูดคุยตามข้อกฎหมาย เนื่องจากเจ้าทุกข์แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำให้เสียทรัพย์และประพฤติตนวุ่นวาย
พ.ต.ท.วงศกร กล่าวต่อว่า นางอุ่น (นามสมมติ ) ให้การว่า สิ่งที่ทำลงไปนั้นเกิดจากการที่โกรธที่ผู้ใช้รถใช้ถนน นำรถมาจอดปิดขวางที่ดินของตนเอง ด้วยความโกรธจึงนำดินโคลน ดินทราย และขยะ มาเทใส่รถที่จอดในจุดดังกล่าว และการที่นำล้อยางรถยนต์มาวางไว้บนรถของผู้เสียหายนั้นเพื่อเตือนสติและเป็นการแจ้งให้กับเจ้าของรถนั้นได้รับทราบว่าจอดรถขวางที่ดินของตนอยู่ แต่อย่างไรก็ดีจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ารถทุกคันจอดอยู่ริมถนนไม่ได้มีลักษณะของการกีดขวางการจราจร
พ.ต.ท.วงศกร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องกันตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. ถึง 7 ธ.ค. ซึ่งขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวมีการปรับพื้นที่ให้เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ โดยหลังจากนี้จะมีการเรียกทุกฝ่ายมาสอบปากคำอีกครั้ง
