ที่มาของภาพ : flickr
เรามักจะได้เห็นภาพความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิที่มีหิมะปกคลุมยอดเขา และภาพดอกซากุระหรือใบไม้แดงที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นพื้นหลังเผยแพร่ออกมาสู่สายตา ซึ่งภาพเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกว่าอยากไปสัมผัสความงามและมีภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักครั้ง แต่อีกมุมหนึ่งของภูเขาไฟฟูจินั้น แอบซ่อนไว้ด้วยความรู้สึกหดหู่ และเงียบจนเกินกว่าที่จะเรียกได้ว่า ‘สงบ’ในมุมนั้นคือ ป่าอาโอกิกาฮาระ (青木ヶ原)
ที่มาของภาพ : youtube
ป่าอาถรรพ์แห่งนี้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ‘ทะเลป่า’อยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นมักจะมาฆ่าตัวตาย ซึ่งมีการรวบรวมข้อมูลว่า ตั้งแต่ ค.ศ. 1950 พบศพผู้เสียชีวิตในป่าแห่งนี้มากกว่า 500 ศพ เฉลี่ยปีละ 30รายที่มาจบชีวิตในป่าแห่งนี้ และในปี ค.ศ. 2003 จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเกิน 100 ศพ ทำลายสถิติที่เคยมีมา แม้ในป่าจะมีป้ายภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษที่มีเนื้อความเกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนใจ แต่ก็ยังพบร่างของผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตในป่าอาโอกิกาฮาระ ปัจจุบันรัฐบาลท้องถิ่นได้หยุดการเผยแพร่จำนวนผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นความพยายามที่จะลดความสัมพันธ์ระหว่างอาโอกิกาฮาระกับการฆ่าตัวตายนั่นเอง
ที่มาของภาพ : kobo
ความนิยมในการเข้ามาฆ่าตัวตายในป่าอาโอกิกาฮาระมีมากจนถึงขนาดมีการนำเรื่องราวของป่าแห่งนี้มาดัดแปลงเป็นนวนิยายชื่อ ‘ทะเลป่าสีดำ’(波の塔) เขียนโดย ไซโซ มัตสึโมโตะ ตีพิมพ์ในปี 1960 โดยที่เรื่องราวของตัวเอกทั้งสองซึ่งเป็นคู่รักจบลงที่การฆ่าตัวตายในป่า นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่สิงสถิตของเหล่าภูตผี โดยเชื่อว่าป่าแห่งนี้มีวิญญาณต้นไม้สิงสถิตอยู่ เหล่าวิญญาณของต้นไม้จะดูดเอาพลังงานชีวิตจากผู้เสียชีวิตกลับคืนเป็นพลังแห่งป่า เพื่อต้านภัยธรรมชาติและต้านภัยของมนุษย์
ที่มาของภาพ : youtube
ในป่าอาโอกิกาฮาระจะมีอาสาสมัครคอยเดินตรวจตราในบริเวณรอบ ๆ เมื่อพบร่างผู้เสียชีวิตจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาเก็บศพ อย่าง อาซูยะ ฮายาโนะ หนึ่งในอาสาสมัครผู้ที่ดูแลป่าอาโอกิกาฮาระมากว่า 30 ปี ก็พบศพในป่าแห่งนี้มาแล้วไม่น้อยกว่า 100 ศพ แต่ถ้าเจอคนที่กำลังจะฆ่าตัวตายหรือยังไม่เสียชีวิต พวกเขาก็จะทำการช่วยชีวิต
ที่มาของภาพ : youtube
ปัจจุบันรัฐบาลท้องถิ่นได้ปรับสถานที่แห่งนี้ ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีทั้งกีฬากลางแจ้ง เดินป่า ตั้งแคมป์ แต่ทุกคนที่เข้าไปก็กลับออกมาบอกว่า บรรยากาศในนั้นมันช่างหดหู่ และเหมือนโดนจับจ้องจากสายตาปริศนาตลอดเวลา หลายเสียงบอกว่าเป็นสถานที่น่าเกลียดน่ากลัว ทั้ง ที่ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะมันเป็นเชิงเขาของภูเขาไฟฟูจิ และก็มีคนไทยที่เคยเข้าไปสัมผัสป่าแห่งนี้ได้แบ่งปันประสบการณ์ว่าเขาไม่สบายหลังออกมาจากป่า
ใครที่ใจกล้าไปท้าพิสูจน์บรรยากาศของป่าอาโอกิกาฮาระมาแล้ว รู้สึกเหมือนที่เขาบอกกันหรือเปล่า มาเล่าให้เราได้อ่านกันบ้างนะคะ
ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ : wikipedia, youtube, kobo, flickr
