โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ป่วน! "คณะทูต-ลูกเรือทหาร" ติดเชื้อโควิด พักที่ "ระยอง-คอนโด กทม."

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 13 ก.ค. 2563 เวลา 10.40 น. • เผยแพร่ 13 ก.ค. 2563 เวลา 06.06 น.
s,v (2)

วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ รวมผู้ป่วยสะสม 3,220 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในกลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 283 ราย ยังรักษาอยู่ 72 ราย รักษาหาย 3,090 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ คงที่ 58 ราย

สำหรับผู้ป่วยโควิดรายใหม่

  • เดินทางมาจากคูเวต ชายไทย อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางเข้ามาวันที่ 29 มิ.ย. พบเชื้อ วันที่ 11 มิ.ย. มีผู้เดินทางเข้ามาเที่ยวบินเดียวกัน พบเชื้อ 10 ราย
  • เดินทางมาจากบาห์เรน เป็นหญิง อายุ 22 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 12 ก.ค. มีไข้ตั้งแต่ 7 วันก่อนเดินทาง จึงส่งตรวจและพบเชื้อ
  • เดินทางมาจากอียิปต์ 1 ราย เป็นชาวอียิปต์ อายุ 43 ปี เป็นทหาร เดินทางถึงวันที่ 8 ก.ค. ที่ จ.ระยอง วันที่ 9 ก.ค. ออกจากโรงแรมบินไปทำภารกิจทางทหารที่ประเทศจีน และกลับมาวันเดียวกันเข้าพักโรงแรมเดิมที่ จ.ระยอง ผลตรวจ วันที่ 10 ก.ค. พบเชื้อ แต่ไม่พบเชื้อในลูกเรือที่มาลำเดียวกัน 10 คน วันที่ 11 ก.ค. ผลตรวจออก โดยที่เจ้าตัวเดินทางกลับประเทศไปแล้ว

ลูกเรือเครื่องบินทหารชาวอียิปต์

นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวว่า ประเด็นที่น่าสนใจ คือ กรณีของทหารวัย 43 ปี รายนี้ (ลูกเรือเครื่องบินทหาร) เนื่องจากตามข้อกำหนด มาตรการ 9 จะมีข้อกำหนดคน 11 กลุ่ม คือ คนที่เข้ามาตามภารกิจ เมื่อเข้ามาจะมีที่พักให้ แต่ทหารรายนี้ มีการเดินทางไปยังประเทศเสี่ยง

ไทม์ไลน์การเดินทางของทหารลูกเรือชาวอียิปต์

6 ก.ค. เดินทางออกจากสนามบิน กรุงไคโร อียิปต์ ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

7 ก.ค. เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปยังปากีสถาน

8 ก.ค. เดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภา เข้าพักที่โรงแรมใน อ.เมือง จ.ระยอง

9 ก.ค. ออกจากโรงแรม จ.ระยอง ไปยังสนามบินอู่ตะเภาเพื่อเดินทางไปยังเมืองเฉิงตู ประเทศจีน โดยเดินทางไป-กลับภายในวันเดียว แล้วกลับเข้าพักที่โรงแรมแห่งเดิม

10 ก.ค. ทีมตรวจสอบโรค จ.ระยอง เข้าคัดกรองคณะเดินทางและลูกเรือจำนวน 31 ราย

11 ก.ค. คณะเดินทางเดินทางออกจากประเทศไทย กลับประเทศอียิปต์ ขณะที่ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่ชัดเจน จึงตรวจซ้ำอีกครั้ง

12 ก.ค. ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยืนยันพบเชื้อ

นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวมีการพูดคุยกันอย่างมากในที่ประชุมว่า แม้จะเข้าข่ายข้อกำหนดยกเว้น แต่เนื่องจากเดิมได้กำหนดโรงแรมที่พักไว้ที่ จ.สมุทรปราการ แต่เนื่องจากเดินทางมาลงที่สนามบินอู่ตะเภา จึงเปลี่ยนโรงแรมไปที่ จ.ระยอง จึงต้องเข้าไปคุมเข้มที่โรงแรมดังกล่าวอย่างเข้มงวด และจะต้องควบคุมพื้นที่สัมผัสโรคทุกแห่ง

“ทีมสอบสวนโรคพบว่า ทีมลูกเรือได้ออกจากโรงแรมไปยังสถานที่บางแห่งในจังหวัดระยอง ซึ่งทางทีมสอบสวนโรคจะได้เข้าไปสอบสวนโรคในพื้นที่สัมผัสทุกแห่งที่ลูกเรือกลุ่มนี้เดินทางไป ตอนนี้ก็มีข้อมูลบางแห่งแล้ว เช่น ห้างสรรพสินค้าบางแห่งในจังหวัดระยอง เพราะฉะนั้นตอนนี้สำนักควบคุมโรคในเขตสุขภาพพื้นที่จังหวัดระยอง ร่วมกับทีมจากส่วนกลาง จะเข้าไปในพื้นที่เพื่อสอบสวนโรค เพื่อความปลอดภัยของทุกๆท่าน” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว และเสริมว่า หากท่านใดมีความเสี่ยง หรือได้สัมผัสกับบุคคลกลุ่มนี้ ขอให้โทรเข้ามาที่ 1422 จะทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้ดียิ่งขึ้น

ไทม์ไลน์การเดินทางของทหารลูกเรือชาวอียิปต์
ไทม์ไลน์การเดินทางของทหารลูกเรือชาวอียิปต์

กรณีผู้ป่วยเด็กหญิงในคณะทูต

นอกจากนี้ยังมีกรณี ของผู้ป่วยหญิงอายุ 9 ขวบ เดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกา ซึ่งแถลงตัวเลขไปเมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ค. (ซูดาน) มีนักศึกษา 11 คน และมีเด็ก 1 คนที่เดินทางมาพร้อมกับคณะทูต รายนี้มีความสำคัญคือ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2563 มารดานำผู้ป่วยและครอบครัว ตรวจเชื้อก่อนเดินทาง ผลตรวจปรากฎทุกคนไม่พบเชื้อ 10 ก.ค. ผู้ป่วยและครอบครัวรวม 5 คน เดินทางถึงไทย เที่ยวบิน MZ3277 เวลา 05.40 น.

ผลคัดกรอง ไม่มีอาการ แต่เก็บตัวอย่างส่งตรวจผลพบเชื้อ จากนั้นบิดานำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกทม. มีการตรวจซ้ำ ผลพบเชื้อ สมาชิกที่เหลือกักกันในที่พำนักที่คอนโดแห่งหนึ่งใน กทม. จากนั้น 11 ก.ค. แพทย์ตรวจพบปอดอักเสบ จึงส่งต่อผู้ป่วยมารักษาที่ โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง

ประเด็นที่มีการพูดคุยกันใน ศบค. สำหรับรายนี้ ถือว่าอยู่ในวงเล็บ 3 คือบุคคลในคณะทูต ที่มาปฏิบัติงานในประเทศไทย มาเสร็จแล้วก็ให้อยู่ในสถานทูต ถือเป็นการกักให้อยู่ในพื้นที่ของสถานทูต (self quarantine ) และให้อยู่ตรงนั้น เป็นเวลา 14 วัน ตามข้อปฏิบัติ แต่มีการไปพักที่คอนโดฯ นี่จึงเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้น

“เราคงไม่สามารถจะไปโทษใครได้ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน ทำให้ทีมสอบสวนโรคของกรมควบคุมโรคจะต้องเข้าไปสอบสวนในพื้นที่ของคอนโดแห่งนี้ ซึ่งประชาชนในเขตพื้นที่ต้องให้ความร่วมมือด้วย อย่างไรก็ตามเท่าที่รับทราบอาการไม่มากและมาในช่วงสั้นๆ” โฆษก ศบค.กล่าว และว่าล่าสุดวันนี้ทาง ศบค.ได้มีการพูดคุยกัน สำหรับข้อต่อระหว่างหน่วยงานต่างๆแล้ว

ทั้งนี้ สำหรับกรณีของเด็กหญิงของคณะทูต ทางเลขาฯ สมช. ได้ให้ทางกระทรวงต่างประเทศ ไปทำความเข้าใจกับสถานทูตต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยมากกว่านี้

ส่วนกรณีของลูกเรือทางทหาร จะอยู่ในวงเล็บ 5 เป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ ก็เป็นสิ่งที่เป็นข้อเรียนรู้ของเรา และคงไม่ไปกล่าวโทษใคร เนื่องจากเขาเข้ามาได้รับการอนุญาตหมด แต่ในข้อต่อระหว่างการเปลี่ยนที่พัก เรื่องการเปลี่ยนสนามบินนั้น ระบบก็จะต้องตามไปด้วย ซึ่งกรมควบคุมโรคจะต้องเข้าไปสอบสวนโรคต่อไป

โฆษก ศบค. ยังกล่าวชี้แจงถึงกรณีกลุ่มนักธุรกิจชาวปากีสถานจำนวน 27 ราย เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย โดยทั้งหมดมีเอกสารรับรองการเดินทางครบถ้วน และผ่านการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนเดินทางขึ้นเครื่องบิน แต่ยังมีนักธุรกิจอีก 8 ราย ที่ขาดเอกสารจากการประสานงานระหว่างหน่วยงานภายในประเทศไทย ยืนยันว่าไม่ใช่การลักลอบหรือหลบหนีเข้าประเทศ แต่เป็นเพียงความล่าช้าของชุดข้อมูลและการประสานงาน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0