โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ปู ไปรยา ลั่นไม่ท้อจ่อบินแอลเอแคสติ้งงาน ปัดปลงชีวิตหลังหันเข้าวัดมากขึ้น

daradaily

อัพเดต 26 มิ.ย. 2562 เวลา 08.17 น. • เผยแพร่ 26 มิ.ย. 2562 เวลา 15.30 น.

"ปู ไปรยา" ลั่นไม่ท้อจ่อบินแอลเอแคสติ้งงาน ปัดปลงชีวิตหลังหันเข้าวัดมากขึ้น

       ยังคงเดินหน้าไม่คิดย่อท้อเตรียมที่จะบินไปแอลเอและอยู่ที่โน่นเป็นระยะเวลานานถึง 1 เดือนเพื่อหวังแคสติ้งงานแสดงให้ได้ สำหรับนักแสดงอย่าง "ปู ไปรยา สวนดอกไม้" ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้พร้อมยันไม่ได้ปลงกับชีวิตหลังหันหน้าเข้าวัดมากขึ้นให้ฟังว่า 

        ตอนนี้ก็แบ่งเวลาชัดเจนจะใช้เวลาที่อเมริกามากขึ้น โดยมีแพลนจะบินไปแอลเอประมาณเดือนกว่าและจะบินกลับมาทำงานที่เมืองไทย 3 อาทิตย์ ลงพื้นที่ยูเอ็นถ่ายโฆษณาและบินไปทำงานต่อ ก็พยายามแคสติ้งหางานที่โน่นด้วย และจะไม่พูดก่อนว่าได้แล้วให้ผลงานพูดด้วยตัวของมันเองดีกว่า และยังไม่ถึงขั้นจะมีโปรเจ็คท์พิเศษอะไรแต่ถ้ามีจะรู้กันแน่นอน ส่วนตัวได้ตัดสินใจมาหลายเดือนแล้วอยากจะแบ่งเวลาให้ชัดเจน และใช้เวลาที่อเมริกามากขึ้น และไม่รู้สึกเหนื่อย แต่พอกลับมาที่เมืองไทยก็ต้องถ่ายงานและทำงานแน่น ทั้งนี้ไม่รู้สึกท้อกับการที่ต้องหางานที่อเมริกาเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข และเป็นความฝันเป็นประเทศที่ชอบอยู่ดีใจทุกครั้งที่ไป โดยหากได้งานจริงๆ ก็ต้องบินกลับมาถ่ายงานโฆษณาทำหน้าที่ยูเอ็นที่เมืองไทย และต้องบินกลับไปอยู่ที่โน่น ถามว่างานที่อเมริกาตั้งเป้าไว้ขนาดไหน ก็ไม่รู้เลยแต่ได้ประกาศไว้ชัดเจนจะใช้เวลาอยู่ที่โน่นมากขึ้น ก็ยังไม่ถึงขั้นจะมีข่าวดีกับเรื่องงานที่โน่น โดยทาง “คุณแมทธิว บราก" เองก็ช่วยต่อบทช่วยคอมเมนต์และให้กำลังใจ เขาพูดตลอดว่าเล่นดีหรือไม่ดีหรือต้องพยายามมากขึ้น ก็รู้สึกว่างานที่โน่นจะได้ยากแต่ยากในทางที่ดี และมองว่าดาราไทยคุ้นเคยกับการที่งานจะวิ่งหามีแต่คนชื่นชม แต่ไปที่โน่นไม่ได้แข่งเพื่อกระแสแต่อยากแสดงฝีมือให้คนได้เห็นคือการแข่งขันอีกแบบหนึ่ง ก่อนหน้านี้มีบินไปคานส์เป็นการทำให้มีกระแสตลอด แต่นั่นคือการทำงานบางครั้งแรงกดดันก็มีเยอะแต่รู้สึกว่าอยู่ที่โน่นจะกดดันน้อยกว่า เพราะเป็นการฝึกซ้อมใช้ทักษะเรียนการแสดง ซึ่งหากนักแสดงคนอื่นได้บทแทนตนก็ยินดีด้วย เพราะเขาเองก็ใฝ่ฝันไม่แตกต่างอะไรจากตน ถ้าวันหนึ่งมาถึงคงจะเป็นวันของตัวเอง ซึ่งที่เมืองไทยจะรู้สึกกดดันกว่ากับเรื่องที่จะมีงานการวางภาพลักษณ์ให้มีคนจ้าง 

         ส่วนเรื่องมูเตลูก็มีเวลากลับเมืองไทยทุกครั้งจะมีปล่อยปลา ล้างห้องน้ำ สร้างวัด สร้างพระนั่งสมาธิ สวดมนต์นอกจากเจอครอบครัวแล้วก็จะเข้าวัดอย่างเดียวเลย การทำแบบนี้ก็ไม่เกี่ยวกับช่วยให้ประสบความสำเร็จ แต่การที่ทำงานมาหลายปีพอหมดวัยที่อยากจะเปรี้ยว วันว่างก็ไม่อยากเดินห้างไม่อยากไปเที่ยวกลางคืนอะไรแล้ว จะเข้าวัดเพราะเข้าแล้วรู้สึกสบายใจ ยิ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยที่ตนรักมากคือวัฒนธรรม เวลากลับก็จะเข้าวัด ยันไม่ถึงกับปลงชีวิต และในใจก็อยากจะหาเวลาไปปฏิบัติธรรมมาก ถ้ามีข่าวดีถึงวันพิธีแต่งงานเมื่อไรจะหาเวลาไป โดยที่ผ่านมาเคยนั่งสมาธิมา 3 วันแต่ไม่เคยได้ปลดล็อก นั่งถึง 10 วัน ถ้าได้ไปทำน่าจะทำได้เป็นอีกเลเวลหนึ่งก็เป็นไปได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0