โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ปู ไปรยา ถอนหมั้น แมทธิว เพราะรักตัวเอง ทิ้งงานในวงการไม่ได้ (คลิป)

ไทยรัฐออนไลน์ - บันเทิง

อัพเดต 24 ม.ค. 2563 เวลา 14.03 น. • เผยแพร่ 24 ม.ค. 2563 เวลา 13.43 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

หลังจากข่าวอักษรย่อ นางเอกสาวจัดฉากให้แฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงานออกมา ก็มีหลายคนโยงว่าน่าจะเป็นเรื่องราวของ ปู ไปรยา สวนดอกไม้ และแฟนหนุ่ม แมทธิว บราก ล่าสุดได้เจอสาวปูที่งาน Venezuela Film Night - Tribute to UNHCR for Refugee and Migrant Crisis ณ โรงภาพยนตร์มาสเตอร์การ์ด ซีเนม่า เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งสาวปูพูดถึงเรื่องนี้ว่า

ถามถึงเรื่องถูกโยงเป็นนางเอกวิวาห์ล่ม?

"ได้ เดี๋ยวปูเริ่มตั้งแต่ต้นเลยดีกว่า เพื่อความเข้าใจ ปูก็เป็นคนตรงๆ เดือนนี้มีอีเวนต์เข้ามา 4 งานตั้งแต่ข่าวนี้ แต่ว่าปูไม่รับ เพราะส่วนตัวปูคิดว่า ข่าวที่ไม่ได้เกี่ยวกับปูโดยตรง แต่คนที่ปูรักไม่ได้อยู่ในวงการนี้ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ปูหาเงินจากข่าวนี้ไม่ได้ เพราะปูมีหลายเรื่องจะต้องแก้นิดนึง เพราะปูรู้สึกว่ามีบางเรื่องไม่ค่อยแฟร์

แต่เอาทีละประเด็นละกัน ประเด็นแรกคือ ตอนนี้ปูกับแมทธิวลดสถานะจริง แต่เหตุผลใดปูจะอธิบายต่อ เรื่องข่าวคือ เค้าย้ายมาอยู่เมืองไทยเพื่อที่จะอยู่กับแฟนเค้า เค้าต้องเสียสละอาชีพ เพราะเค้าเป็นชาวต่างชาติ เค้าต้องย้ายมาทำบริษัทที่นี่โดยที่เค้าไม่ได้พูดภาษา ไม่ได้รู้จักใคร เพื่อนพ่อแม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เพราะปูไม่ยอมเสียสละอาชีพที่นี่ เพราะปูถือว่าสิ่งที่ปูสร้างมาปูถอยไม่ได้ เพราะปูยังต้องรับผิดชอบครอบครัว ปูยังทำงาน UN ที่ปูอยากทำ ปูมีเด็กที่ปูให้ทุนการศึกษา 5 คน ที่ปูรับปากว่าจะส่งจนจบ ยังไม่จบสักคน ยังอยู่มัธยม อยู่มหาวิทยาลัย

ปูไม่เคยพูดว่าปูเป็นคนดี หรือเป็นนางฟ้าตามที่ข่าวเขียนไม่เคยคิดด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนที่มีอารมณ์รัก โกรธ โลภ หึง ยังมีกิเลส ยังมีอารมณ์ด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ปูเชื่อมาตลอดที่ทำงานสังคม ก็เพราะว่า ดูประเทศเราสิ คนที่ยากลำบากมันเยอะมาก แล้วเราเป็นดาราเป็นบุคคลที่มีโอกาสเยอะมากที่ปูทำทุกวันนี้ เพียงเพราะปูคิดว่าตัวเองมีความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่เพราะปูคิดว่าปูเป็นคนดี ปูทำงาน UN มาเกือบ 6 ปี ทำงานสังคมมาเกือบ 7 ปีครึ่ง แล้วส่วนมากที่ปูทำ ปูไม่เคยลดหย่อนภาษี ปูทำไม่ได้ ปูทำโดยตรง ทำด้วยใจ

ข่าวนี้ออกมาสิ่งเดียวที่ปูรู้สึกคือหลายรอบที่พาดหัวข่าวว่านางฟ้าภาพลักษณ์จากสวรรค์ ปูไม่ใช่นางฟ้าและไม่คิดว่าตัวเองเป็น ปูคือมนุษย์นี่แหละ แค่มนุษย์ รู้สึกว่า พอละ ปูได้เห็น ปูมีโอกาสเยอะแยะ ปูเข้างานก็ได้ค่าตัวแล้ว แล้วคนค่อนประเทศที่ไม่มีข้าวกินไม่มีน้ำ ป่วยอยู่บนเตียง ปูขอร้องที่จะให้ปูมีภาพลักษณ์ที่จะหารายได้ต่อไป โดยอย่าทำให้ปูบั่นทอนจิตใจเลย เพราะทุกวันนี้ ที่เขียนว่าปูตาสว่าง ปูตาสว่างไม่พอเหรอ ปูเดินข้างทางปูก็ตาสว่างแล้ว ปูเลี้ยงเด็ก เมื่อวานไปนครศรีธรรมราช ไปหาเด็กที่ปูให้ทุนการศึกษา แม่เค้าทำงานอยู่ในปั๊ม พ่อเค้าทำงานอยู่ในสวน เค้าใช้เงินเดือนละแค่ 1,500 กับคนในกรุงเทพฯ ข้าวมื้อนึงของบางคน

แต่เราเห็นถึงความยากลำบากเค้า ปูไม่จำเป็นต้องเอาวันว่างบินไปทำอะไรแบบนั้น แต่ที่ทำทุกวันนี้ปูท้ออยู่แล้ว ปูเหนื่อย และเหตุผลที่ปูไม่ได้ไปต่อกับแมทธิวจริงๆ มันเกี่ยวกับเรื่องนี้นิดนึง เดี่ยวจะคุยกันต่อ แต่สำหรับปูซีเรียสกับข่าวแค่เรื่องนั้นเพราะมันบั่นทอนจิตใจ แต่ในเรื่องของแมทธิว ข่าวอักษรย่อ ปูเข้าใจ ปูรักพี่ๆ นักข่าว ปูมีทุกวันนี้ก็เพราะพี่ เราอยู่ด้วยกันมา 10 กว่าปีแล้ว 17 ปีเต็มๆ ปูมีโฆษณา มีหัวข้อข่าว ไปเดินพรมแดงพี่เชียร์หนูตลอด เดินแบบพี่เชียร์หนูสุดพลัง หนูรักและเคารพอาชีพนักข่าวมากที่สุดจริงๆ เพราะปูมีทุกวันนี้ ดารามีทุกวันนี้ก็เพราะพี่ๆ เหนื่อยและวิ่งมา มาเขียนข่าวเราในงาน รถก็ติด เหนื่อยก็เหนื่อย รอหลายชั่วโมง ประชาชนอาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ แต่ปูรู้ ดาราเองก็รู้

เลยบอกว่า นักข่าวโดยรวมหนูไม่ได้คิดอะไร หนังสือพิมพ์ปูก็รักมาก แต่ข่าวอักษรย่อมีข้อเสี่ยงตรงที่ว่า บางครั้งเขียนเว่อร์เพื่อให้คนคลิก ไลค์ แชร์ คอมเมนต์ แล้วการคลิก ไลค์ แชร์ คอมเมนต์ บางครั้งทำร้ายภาพลักษณ์และจิตใจคนนึงมาก โดยในแบบที่เค้าแก้ไม่ได้ แล้วคุณแมทธิวเป็นชาวต่างชาติ ที่ไม่มีพื้นที่ที่จะพูด ไม่มีพื้นที่ที่จะแก้ แล้วเค้าไม่เคยอวดรวย มันคือสิ่งที่คนคิดและปูก็ไม่เคยพูดว่าเค้ารวย แต่บ้านเค้าโอเค มีเงินใช้ แต่เค้าก็ไม่เคยพูด แต่คำว่าปลอม มันแรงมากเพราะในใจปูมองว่าเค้าสูญเสียคู่หมั้นเค้าแล้ว เค้าต้องย้ายออกจากประเทศไทยกลับประเทศเค้าแล้ว

แล้วมาเจอข่าวนี้ในช่วงเวลาที่เราตัดสินใจลดสถานะแล้ว เค้าไม่ได้โกรธเลย เค้าเข้าใจว่านี่แหละคืออาชีพยู ไอเข้าใจ เค้ารับรู้ข่าวนี้ตั้งแต่วันแรกเลย ตอนที่ปูบินไปเจอเค้าที่แอลเอรอบล่าสุด ปูเห็นเค้าน้ำตาคลอ เค้าอึ้ง เพราะเค้าก็ไม่คิดว่าจุดจบของการที่เราจะคุยกัน มันจะมาด้วยคำพูดที่ไม่ได้เกี่ยวกับเค้า เพราะเค้าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับอาชีพปู เค้าไม่ได้รายได้จากปู รายได้ของปูคือรายได้ปู ชื่อเสียงของปูก็คือชื่อเสียงปู ทั้งนี้ทั้งนั้นที่เราไปกันไม่รอด ณ ตอนนี้ปูคืนแหวนเค้าไปแล้ว ปูไม่จำเป็นต้องซื้อแหวนตัวเอง ตอนนี้ปูยังมีผลงาน มีโฆษณา มีอาชีพ ที่การแต่งงานของปูมันจะเปลี่ยนความรับผิดชอบในชีวิตปู อันนี้คือเรื่องจริง

การแต่งงานมีความรับผิดชอบเรื่องของการเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นแม่ของลูก พอใกล้วันแต่งงานขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ เราวางวันไว้แล้วเป็นเดือนมิถุนายน ปี 64 ปูมองว่าชีวิตปูยังไม่พร้อมที่จะสละในสิ่งที่ปูสร้างไว้ในเมืองไทย เพราะสุดท้ายเวลาเราคบชาวต่างชาติ คนใดคนหนึ่งต้องสละชีวิตตัวเอง ไม่เราย้ายไปอยู่กับเค้า เค้าต้องย้ายมาอยู่กับเรา แล้วคนไหนจะยอมเสียสละชีวิตตัวเองมากกว่า แล้วคนไหนควรจะเสียสละชีวิตตัวเองในวัย 30 แล้วเราจะเสียใจทีหลังมั้ย ถ้าเราเสียใจทีหลัง เราจะเป็นภาระพ่อแม่เรา ทั้งๆ ที่เราสร้างมาขนาดนี้ ลูกที่คลอดมาจะทำยังไงต่อ ปูคิดกับคำถามพวกนี้หมดเลย แล้วสุดท้ายปูคิดว่า ชีวิตพ่อแม่ ญาติๆ ที่อยู่อ่างทอง และเด็กที่ได้รับทุนการศึกษาจากปู 5 คน ซึ่งความรับผิดชอบปูเยอะมาก น้องชายปูยังไม่เรียนจบจากเมืองนอกเลย

ปูแต่งไม่ได้ ไม่ใช่เพราะปูไม่รัก ปูรักเค้าสุดหัวใจ เค้าเป็นผู้ชายที่ดีมาก เค้าเป็นแฟนที่ซื่อสัตย์กับปู ไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่น ไม่เคยเอาเปรียบปู เห็นคุณค่าปูพอที่จะแต่งงานกับปู แต่ปูเลือกอาชีพปู เพราะผู้หญิงเวลาเราเลือกแล้ว เราถอยหลังไม่ได้ สมมติเราแต่งงานแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่เราฝัน แล้วกลับมาเป็นคนเดิมมันเหนื่อยมาก ปูเห็นจากแม่ปูมาแล้ว เห็นจากคนรอบข้างปู ปูยอมเจ็บวันนี้ เผื่อที่เขาจะได้ในสิ่งที่เขาคู่ควร เพราะปูเลือกแล้ว ปูสร้างมาถึงขนาดนี้”

ปู ไปรยา
ปู ไปรยา

ในข่าวมีอะไรบ้างที่ไม่เป็นความจริง ที่อยากจะชี้แจง?
"ไม่เคยซื้อแหวนให้ตัวเองค่ะ ขอโทษนะคะ ไม่เคยซื้อเองค่ะ ในข่าวบอกว่าอยากมีภาพขอแต่งงานหรูหรา แต่ในรูปเราใส่กางเกงยีนส์ โอเคเค้าเอาช่างภาพไป เค้าคงหวังดีเห็นเป็นดาราไทยต้องมีรูปประชาสัมพันธ์ในไอจีว่าเนี่ยผู้ชายขอฉันแต่งงาน อันนี้พูดตลกเลยนะ อายอ่ะ ถ้าเมกขึ้นมาจริงๆ ปูคงจัดหรูหราในโรงแรม มีแบรนด์ มีกุหลาบ ใส่ชุดราตรีแต่งหน้า แล้วทำไมต้องญี่ปุ่นล่ะ ต้องในสวนใส่กางเกงยีนส์ นี่เหรอคือภาพเมก คือเมกที่อิตาลีบนเรือพูดเลย ถ้าจะเมกจริงๆ ไม่เมกครึ่งทาง จ้างออแกไนซ์มาเลย ปูก็ฮานะ โอ๊ย เจ็บใจ

แต่อันที่สองที่ปูรู้สึกว่าไม่ใช่ คือ บริษัทเค้าไม่ได้เจ๊ง ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวเลย แล้วที่บอกว่าเค้าเอาเปรียบปู ชีวิตจริงไม่ใช่ละครนะ แล้วเรื่องเปย์ ขอพูดคำหนึ่ง ผู้ชายไม่ใช่ธนาคาร เค้ามีพ่อมีแม่ ถ้าปูมีอาชีพขนาดนี้แล้วไม่คิดจะเลี้ยงแฟนปูสักมื้อ ไม่เคยซื้อของขวัญให้เค้า คบกันมา 4 ปี คืออะไรอ่ะ ช่วงนั้นตอนไปช็อปปิ้ง บัตรอย่าห้ามผ่านนะ ถ้าไม่ผ่าน ตาย

ทุกคนหันมามองปูเยอะมากช่วงที่ข่าวออก ไปเดินห้าง คนก็เหมือนมองว่ามีแหวนมั้ย มองสีหน้าปู แล้วสี่วันก่อนปีใหม่ ปูนั่งรู้สึกผิดมากเพราะเราห่างกันมาได้ 4-5 เดือนแต่คุยกันทุกวัน เพราะคนรักกันมันไม่ได้เลิกกันง่ายๆ หรอก แต่เราก็มีความรับผิดชอบต่อเค้า เพราะการเตรียมงานแต่งงานมันมีค่าใช้จ่าย ปูตัดสินใจว่าปูลดสถานะก่อนที่จะเป็นเรื่องลำบากต่อพ่อแม่เขา แล้วจริงๆ ถ้าต้องการจะสร้างซีน สร้างภาพ ปูแต่งเมืองไทย จริงๆ แพลนของเราไม่แต่งเมืองไทย จะไม่มีงานแต่งที่เมืองไทยด้วยซ้ำ"

เค้ายื้อเราขนาดไหนในวันที่เราถอดแหวนคืน?
"เค้าไม่ได้ยื้อ เพราะเค้าเป็นผู้ชายที่มีศักดิ์ศรี เค้ามาเมืองไทย เค้าเห็นแรงกดดันชีวิตปู เห็นการทำงานของปู เห็นว่าปูทำงานมาตั้งแต่อายุ 13 เค้าได้ไปอ่างทองไปหาพี่ป้าน้าอาของปูตามรูปที่เห็น ปูว่าเค้ารู้ว่าทำไมปูปล่อยตรงนี้ไม่ได้ เค้าเห็นข่าวโซเชียล เห็นคอมเมนต์เวลาคนหนึ่งเจอข่าวลบ มันมีผลกระทบต่อจิตใจและอาชีพของคนคนนั้นเท่าไหร่ ทุกอย่างที่เค้าเห็นประโยคเดียวที่เค้าพูดตอนท้ายกับปูรอบล่าสุดก็คือ ยังไงก็ตาม ถ้าเลือกแล้วก็อย่าแพ้และอย่าล้ม ถ้าอยากช่วยคน อยากทำงานสังคม มีคนไม่เห็นด้วยมีคนว่าเธอก็ไม่เป็นไร จะไปแคร์ทำไม เธอเลือกแล้วตั้งแต่ต้น"

หมั้นกันแล้ว รักกันด้วย การตัดสินใจแบบนี้คือทางออกที่ดีที่สุดแล้วเหรอสำหรับเรา?
"ถ้าเราว่าเรารับผิดชอบ หน้าที่ของภรรยา และแม่ของคนยังไม่ได้ เราทำงานสังคม เห็นปัญหาสังคม เราต้องเรียนกับสิ่งที่เราทำ ปูยังไม่พร้อม"

ปู-แมทธิว
ปู-แมทธิว

ไม่คิดจะแค่พักงานแต่งแต่ไม่ต้องเลิกกันเหรอ?
"เพราะเค้าต้องรอปู ถ้าเค้ารอโดยที่ปูไม่ใส่แหวนก็ได้ เค้าจะได้มีอิสรภาพของเค้า อายุ 30-35 ปีเป็นช่วงหนุ่มเนื้อหอม มันเหมือนปูไปกั๊กผู้ชายคนนี้ ปูรักเค้าเกินกว่าที่จะกั๊กเค้าไว้ ถ้าเรารักใครจริงเราต้องปล่อย และถ้าเค้าเป็นของเรา ปูเชื่อว่าอีก 5 ปี เค้าอาจจะมาขอปูอีกทีก็ได้"

งานแต่งที่เตรียมไว้ เตรียมไปถึงไหน?
"ล็อกสถานที่ทุกอย่างเสร็จสรรพหมดแล้ว ก็ต้องยกเลิกไปหมดโดยเหตุผลตามที่บอกเลย ข่าวไม่ตรงสักอย่างเลยค่ะ แต่เจ็บ (หัวเราะ)"

เรื่องเค้าไม่รวย?
"คำถามนี้ตอบยาก ถ้าประชาชนฟังแล้วปูตอบว่ารวยก็เหมือนอวดรวย ตอบว่าปานกลางก็เหมือนตอบเป็นกลางอีก ตอบว่าไม่รวยมันก็ไม่จริง ไม่ไปเสิร์ชประวัติว่าพ่อเค้าทำอาชีพอะไร ครอบครัวเค้าทำอะไรดีกว่า ปูรู้ฐานะทางบ้านเค้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ปูไปเยี่ยมบ้านเค้า ไปเห็น ไปเจอพ่อแม่เค้าแล้ว พ่อแม่เค้าดีมาก ท่านทราบถึงข่าวนี้ด้วย พ่อเค้าก็รู้ ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร อาชีพเธอ เธอเป็นดารา เป็นธรรมดา เรื่องนินทาเป็นเรื่องปกติ พ่อแม่เค้าไม่ซีเรียส ปูกับแมทธิวอึ้งกับทั้งคู่ เพราะจังหวะมันมาในช่วงเวลาที่เราคิดว่า เราจะได้ซ่อมแซมจิตใจแป๊บหนึ่งก่อนที่จะเจออะไรรุนแรงแบบนี้ ปูก็แอบเศร้าที่ต้องมาพูดในวันงานยูเอ็นเฮชซีอาร์ แต่ จะไปรับอีเวนท์ก็ไม่ได้ เพราะรู้สึกว่า ไม่ได้อ่ะ มันคือความถูกต้อง เลยต้องกลายเป็นวันนี้"

วันที่ถอยมีน้ำตากันทั้งคู่มั้ย?
"มีค่ะ คนรักกัน เราคุยกันทุกวัน มีอะไรปูปรึกษาแมทธิวทุกวัน สิ่งเดียวที่ไม่ได้ปรึกษาคือบทสัมภาษณ์นี้ เรื่องอื่นปูปรึกษาไม่ได้ ปูรู้สึกว่าถ้าปูพูดกับเค้าด้วยเหตุผลอีกรอบในโทรศัพท์ ปูว่ามันเจ็บปวดเกินไปนะสำหรับเค้า แต่เรื่องอื่นปรึกษากันทุกวัน เรื่องการงาน ไปแอลเอก็ยังไปกินข้าวกันอยู่เลย กินข้าวกัน 3 วัน เป็นความรู้สึกที่แปลก เพราะไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว ปูเห็นแววตาเค้าก็ยังมองเราเหมือนเดิม แต่เราก็ต่างคนต่างกลับบ้าน บ๊ายบายแค่นี้นะ ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาเกือบ 4 ปี"

เค้ายังรอมั้ย?
“ปูตอบไม่ได้ว่าเค้าจะรอมั้ย แต่ปูรู้ด้วยใจเค้า เค้าบอกว่ามันคือรักแท้ของเค้า ไม่งั้นไม่คุกเข่าขอแต่งงาน ไม่รู้ว่าเค้าจะรอมั้ย แต่ปูทิ้งเมืองไทยไม่ได้ ปูทำงานเมืองนอกชั่ววูบได้ แต่ปูทิ้งครอบครัวปูไม่ได้ ตัวเค้าย้ายมาอยู่นี่ เค้าไม่มีเพื่อน เค้าพูดภาษาไม่ได้ เป็นชาวต่างชาติหาเพื่อนที่นี่ ที่แบ็กกราวน์คล้ายกันก็ยาก คุณแมทธิวก็ไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน เค้ารอปูทุกวันตอนปูไปทำงาน พอเค้าเริ่มมีงานทำ เราก็ไม่ได้เจอกันเลย มันเลยเป็นสถานการณ์ที่มันไม่เวิร์ค"
คุยกันหลายรอบมั้ยกว่าจะตัดสินใจหยุด?
"ช่วงที่ปูเริ่มเครียดมาก เป็นช่วงปีที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ถ้าติดตามข่าวก็คงรู้ว่าปูมีข่าวช่วงนึง ปูก็เลยทุ่มกับงานสังคม เป็นปีแรกที่ปูไม่ได้รับละคร รับแต่โฆษณาและอยู่เมืองนอก เพราะปูเริ่มรับรู้อะไรเยอะ แล้วรู้สึกว่าใจตัวเองไม่อยากรับรู้อะไรมากก็เลยไปอยู่เมืองนอก พอแรงกดดันของงานแต่งเกิดขึ้น ปูก็บอกเค้าว่าปูขอทำงาน แล้วปูก็ทำงานจริงๆ เดือน 9 ที่ไปเวเนซูเอล่าคือบินไป 19 ไฟล์ท เค้าไม่ได้เจอปูเกือบ 3 เดือน พอ 3 เดือนกลายเป็น 4 เดือน กลายเป็น 4 เดือนครึ่ง เค้าก็เรียกปูคุยว่ายังไง มีอะไรก็พูดได้ ปูก็บอกเค้าตรงๆ ว่าการเป็นผู้หญิงที่สู้มาตลอด พูดไม่ได้ว่าปูเจออะไรบ้าง แต่พวกพี่ๆ นักข่าวก็รู้ว่าวงการเป็นยังไง กว่าปูจะมีวันนี้มันไม่ง่าย ปูถอยไม่ได้"

สภาพจิตใจตอนนี้เราเป็นยังไงบ้าง?
"เอาจริงๆ ป่ะ ปูแฮปปี้ค่ะ มีความสุข จะเศร้าเฉพาะตอนนึกถึงเค้า เพราะรู้สึกผิดกับข่าวสารที่เกิดขึ้น รู้สึกผิดกับการที่ปูเลือกตัวเอง เลือกอิสรภาพตัวเอง ข่าวดาราเลิกกันมักจะบอกว่ามีมือที่ 3 ไปไม่รอด ผู้ชายปลอม ผู้หญิงปลอมนิสัยไม่ดี แต่ชีวิตของมนุษย์จริงๆ มันคือความรับผิดชอบ สเต็ปต่อไปคือความมั่นคง และเราพร้อมมั้ย การเลิกกันแบบนี้เราไม่ได้โกรธกัน ไม่ได้อะไรเลย แต่รู้ว่าเราทั้งคู่คือผู้ใหญ่ และรู้ว่าเดินหน้าต่อไปตอนนี้ยังไม่ได้”

หลังจากนี้จะปิดโอกาสคนอื่นแล้วรอเค้ามั้ย?
"ปูไม่มีคนอื่น ปูคิดว่าผู้ชายคนนี้คือรักแท้ปู เพราะเค้าเป็นคนดี แต่รักแท้ปูอีกคนคือตัวปู ปูรักตัวเอง ปูรักประเทศตัวเอง ปูรักครอบครัว ปูรักงานสังคม ปูรักวงการบันเทิง ปูรักพี่ๆ นักข่าว ปูรักกล้อง ปูถอยไม่ได้"

แสดงว่าหลังจากนี้เรื่องแต่งงานไม่อยู่ในหัวเราแล้ว?
“ไม่ค่ะ ข่าวไม่ตรงสักเรื่อง ไม่ได้ร้อนตัวว่าอยากจะแต่งงาน เพราะกลัวที่จะเสียอิสรภาพตัวเอง”

เค้าอยากแต่งมากกว่า?
"เพราะเค้าคิดว่าถ้าปูได้แต่งงาน และปูได้ไปพักใจที่เมืองนอก ชีวิตปูอาจจะมีความสุขมากกว่าการที่ต้องแข่งขันในจุดนี้ แต่คนทำงานมา 17 ปีอ่ะพี่ ปล่อยวาง ปลงยาก (หัวเราะ)"

ความรักครั้งนี้ทำให้เราได้มุมมองยังไงบ้าง?
"เป็นความรักที่โตค่ะ ได้มุมมองว่ารักใครจริง ปลงและปล่อยและเรียนรู้ อาจจะเป็นเพราะปูทำงานสังคมเยอะมั้งคะ เวลาเราไปอุปถัมภ์เด็ก เราเห็นถึงว่าทำไมครอบครัวเขาดูแลเขาไม่ได้ ปูก็คิดในใจว่าถ้าปูมีลูกของตัวเอง ความรับผิดชอบของตัวเองกลายเป็นลูก เด็กๆ ที่ปูอุปถัมภ์เค้าก็ไม่เหลือใครแล้ว ปูเห็นลีเดียอุ้มลูก หลานน่ารักมาก ปูแค่อยากอุ้มลูกของเพื่อนหรืออยากอุปถัมภ์เด็กคนอื่น คนอาจจะมองว่าปูแปลก แต่ปูไม่ได้คิด ไม่ได้มีความต้องการค่ะ"

ตัดสินใจถอนหมั้นช่วงไหน?
"หลายเดือนแล้วค่ะ มันเป็นเทาๆ อย่างที่บอกว่าปูไม่ได้เจอเค้าหลายเดือน แต่เดือน 9 เค้าก็ยังไปลงพื้นที่กับปูนะ อยู่ในพื้นที่เทาๆ แต่ก็ยังเรียกว่าคู่หมั้นอยู่"

วันที่ตัดสินใจคืนแหวนเค้าไป?
"ไม่นานนี้ค่ะ".

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0