แม้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี แต่ที่ผ่านมา ทางพรรคอนาคตใหม่ก็แย้มออกมาหลายครั้งหลายคราแล้วว่า ทางพรรคสแตนด์บายเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว
หลายฝ่ายมองว่า ทางพรรคอนาคตใหม่ เตรียมปลุกปั้นแกนนำแถว 2 คอยนำทัพส้มสู้ต่อ ซึ่งบุคคลที่ถูกจับตามองมากที่สุด คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่
ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงเส้นทางชีวิตของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” บุคคลที่กำลังจะเป็นคีย์แมนคนสำคัญของทัพส้ม…
“ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ณ ขณะนี้อยู่ในวัย 38 ปี เป็นบุตรชายของ พงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเป็นหลานชายของ ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดย พิธา เคยติดอันดับ 50 หนุ่ม CLEO ปี 2008 เคยแต่งงานกับ ต่าย ชุติมา ดารานักแสดง และมีลูกด้วยกัน 1 คน
โปรไฟล์ไม่ธรรมดา
สำหรับ “พิธา” เขาจบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ การเงินการธนาคาร ภาคภาษาอังกฤษ ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1
เมื่อย้อนกลับไปในวัยที่พิธา อายุ 25 ปี เขาเป็นเด็กหนุ่มที่จะต้องเข้ามารับช่วงกิจการจากคุณพ่อที่เสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน พร้อมกับแบกรับภาระหนี้ของบริษัทกว่า 100 ล้านบาท ในฐานะลูกชายคนโตของบ้าน
ในขณะนั้น พิธา ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด อยู่ในวัย 25 ปีกำลังศึกษาปริญญาโทควบ 2 ใบ จากสถาบันชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ปริญญาโทด้านการเมืองการปกครอง สาขาการบริหารภาครัฐ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (นักเรียนไทยคนแรกที่คว้าทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด) และด้านบริหารธุรกิจที่ Massachusetts Institute of Technology (Sloan) จึงต้องดร็อปเรียน และอาสากลับมาดูแลกิจการต่อจากคุณพ่อที่ประเทศไทย
พิธา เคยถ่ายทอดถึงความหลังเมื่อครั้งที่ต้องกัดฟันสู้เอาไว้ว่า “ผมเรียงลำดับความสำคัญของปัญหา พร้อมกับยอมรับคำสบประมาทและคำดูถูกต่างๆ นานา โดยเริ่มจากปัญหาที่ตอนนั้นเราจนประสบการณ์ แต่ไม่จำเป็นต้องจนความรู้”
“การบริหารต้องบริหารแบบฮาร์วาร์ดผสมสำเพ็ง ต้องมีทั้งการเปิดกว้างแบบตะวันตก แต่อ่อนโยนเหมือนตะวันออก” พิธา บอกเล่า
พิธาใช้เวลาเพียง 3 เดือน เขาก็สามารถตั้งธุรกิจ และสามารถนำสินค้าของบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ส่งออกไปขายญี่ปุ่นได้ มีเงินสดหมุนเวียนจากลบกลายเป็นบวก และเมื่อธุรกิจอยู่ตัว พิธาตัดสินใจกลับไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกาและบริหารงานของบริษัททาง Skype จนกระทั่งสร้างยอดขายได้มากถึงหลักพันล้านบาทภายในปีเดียว
เส้นทางการเมือง
ขณะที่ ประสบการณ์การทำงาน นอกจากงานในภาคธุรกิจแล้ว เจ้าตัวยังเคยผ่านงานทางการเมืองมาก่อน โดยเมื่อปี 2546 ได้เข้าไปทำงานในกระทรวงพาณิชย์ในตำแหน่งผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งเคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในปี 2555
ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่นั้น “พิธา” บอกว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองที่ไม่ยึดโยงตัวบุคคล และมีอุดมการณ์ตรงกับอุดมการณ์ส่วนตัว ขับเคลื่อนนโยบายที่ทำเพื่อประชาชน นโยบายที่อยากจะผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ คือ เกษตรก้าวหน้า ด้วยการทำให้เกษตรกรไทยเท่าทันโลกด้วยการแก้ปัญหาที่ดินทำกินและหนี้ รวมทั้งการปลดหนี้ให้เกษตรกร อีกทั้งยังจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรและสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นนำ้ไปจนถึงปลายน้ำ
ภายหลังจากที่ พิธา เข้าสู่เส้นทางการเมืองเต็มตัว เขาสร้างเสียงฮือฮาจากประชาชน และผู้คนในแวดวงการเมือง ด้วยการเสนอแก้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ พร้อมแจงยิบเปรียบเทียบชัดเจน เพื่อให้เห็นภาพรวมของวงจรสินค้าเกษตร และเสนอแนะโมเดลแก้ปัญหาในแบบฉบับของเขา ที่ต่อมากลายเป็นวลีโด่งดัง “กระดุม 5 เม็ด”.
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- "พิธา" ขอบคุณอนาคตใหม่ ขอลุยอภิปรายไม่ไว้วางใจเต็มที่ ก่อนสังกัดพรรคใหม่
- เปิดฉากการเมืองนอกสภา สะเทือนรัฐบาล หลังยุบอนาคตใหม่ ส.ส. 60 กว่าชีวิต เคว้ง
- ย้อนเส้นทาง “พรรคอนาคตใหม่” แสนขรุขระ เติบใหญ่ 507 วัน สู่ลาลับ จุดปิศาจกาลเวลา
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath