โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"ปิยบุตร"โป๊ะแตก"ชาติไทยพัฒนา"ยันไม่เคยกู้เงินใคร

สยามรัฐ

อัพเดต 23 พ.ค. 2562 เวลา 10.36 น. • เผยแพร่ 23 พ.ค. 2562 เวลา 10.36 น. • สยามรัฐออนไลน์

วันที่ 23 พ.ค.62 เพจเฟซบุ๊ก พรรคชาติไทยพัฒนา Chartthaipattana Party โพสต์ข้อความ นายนิกร จำนง ได้ให้ความเห็นต่อกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แถลงว่าพรรคชาติไทยพัฒนาได้มีการกู้เงินมาเป็นรายได้ของพรรคว่า “ไม่เป็นความจริง” นายนิกร จำนง ในฐานะผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ให้ความเห็นต่อกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่าพรรคชาติไทยพัฒนาได้มีการกู้เงินมาเป็นรายได้ของพรรคว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพรรคชาติไทยพัฒนานั้น ตั้งแต่ตั้งพรรคมาก็ไม่เคยกู้เงินผู้ใดมาเป็นรายได้ของพรรคเลย เอกสารที่นายปิยบุตรได้นำมาแถลงนั้นเป็นงบดุลเก่า ซึ่งระบุเกี่ยวกับเจ้าหนี้-เงินยืมทดรองจากสาขาพรรคช่วงที่กองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองยกเลิกการสนับสนุนสาขาพรรค แต่กฎหมายกำหนดให้สาขาพรรคนั้นต้องมีการแสดงค่าใช้จ่ายต่อไป กรรมการสาขาพรรคจึงต้องเป็นผู้ทดรองจ่ายเงินดังกล่าวไป ถือเป็นเจ้าหนี้ทางรูปบัญชีสะสมมาหลายปี ซึ่งทางพรรคได้มีการสำแดงในรูปบัญชีส่งให้ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองรับทราบอยู่ตลอดมา มิได้เป็นเงินรายได้จากการกู้ยืมแต่อย่างใด นายนิกร กล่าวอีกว่าตนเองได้ทำหน้าที่บริหารพรรคมากว่า 20 ปีในฐานะผู้อำนวยการพรรค ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคชาติไทยมาจนถึงชาติไทยพัฒนา ผ่านการการปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองมาหลายฉบับ แต่ก็ไม่เคยเห็นการกู้ยืมเงินของพรรคชาติไทยและพรรคชาติไทยพัฒนามาก่อน ซึ่งเนื่องจากทางพรรคเห็นว่า การกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจการพรรคนั้นโดยหลักการและเจตนารมณ์ของการตั้งพรรคการเมืองนั้นไม่น่าจะกระทำได้ ดังนั้นแม้ว่าผู้บริหารของพรรคในอดีตจะมีฐานะการเงินดีพอที่จะให้กู้เงินเพื่อมาใช้ในการบริหารพรรคและใช้จ่ายในการเลือกตั้งอย่างเพียงพอก็ตาม แต่ทั้งพรรคชาติไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาก็มิได้เคยดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใดเลย พรรคหารายได้โดยการขอรับบริจาคเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดและจัดระดมทุนในช่วงที่มีการเลือกตั้งตามกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายก็ตามที ด้วยเห็นว่าสอดคล้องทั้งหลักการของพรรคการเมืองซึ่งเป็นสถาบันการเมืองของประชาชนและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย นายนิกร กล่าวว่า ตนไม่ขอให้ความเห็นต่อกรณีที่นายปิยบุตรได้กล่าวถึงพรรคเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เป็นจริงนี้ เพราะไม่อยากให้เป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองในช่วงที่ประชาชนต้องการความสามัคคีปรองดองของพรรคการเมืองภายหลังการเลือกตั้ง จึงขอสงวนความเห็นที่มีต่อการกระทำดังกล่าวไว้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0