ยังคงต้องตามติดกับกรณีการโอนหุ้นสื่อของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยหลังจากที่เมื่อวานนี้มีข่าวว่า กกต.เตรียมที่จะมีมติต่อเรื่องดังกล่าว ซึ่งอาจจะไปถึงขั้นแจกใบส้ม เช้าวันนี้พรรคอนาคตใหม่ก็ได้แถลงข่าวต่อเรื่องดั่งกล่าว
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ปิยบุตร แสงกนกกุลแถลงข่าว กรณีการสอบสวนการถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย ของ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งมีกระแสข่าวว่า กกต. อาจจะมีมติแจก "ใบส้ม" นายธนาธร ตามที่เป็นกระแสข่าว ณ ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ อาคารไทยซัมมิท ชั้น 5 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่
โดย นายปิยบุตร ยืนยันว่า การโอนหุ้นทุกอย่างสิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่ 8 มกราคมแล้วก็มีพยานหลักฐานครบทุกอย่าง รวมถึงหลักฐานในการเดินทางกลับจากบุรีรัมย์มาเซ็นเอกสารโอนหุ้นที่กรุงเทพฯ ก็มีหลักฐานชัดเจน หากสื่อสำนักไหน มีการข้องใจในประเด็นดังกล่าวส่วนตัวก็พร้อมจะดีเบสในประเด็นดังกล่าวกับทุกสำนัก
ตามที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการแจกใบส้มให้กับนายธนาธรนั้น ยืนยันทีมฝ่ายกฎหมายที่เดินทางไปชี้แจงต่อกกตเมื่อวานนี้ ยังไม่ได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงกับทางกกต แต่อย่างไร ทั้งนี้หากมีการแจ้งข้อกล่าวหาตามกฏหมาย กกต.จะต้องมีการเรียกตัวนายธนาธร ไปชี้แจงข้อเท็จในการไต่สวน
นอกจากนี้ นายปิยบุตรได้ชี้แจงกระบวนการที่กกต. จะต้องดำเนินการ โดยระบุการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส.นั้นจะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเลยช่วงระยะเวลาของการตรวจสอบผู้สมัครส.ส.เพราะผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว และขณะนี้ก็ยังไม่มีการประกาศรับลองให้นายธนาธร เป็นส.ส. แต่ยังไร จึงเหลือทางที่กกต. จะสามารถดำเนินการแจกใบเหลืองใบเเดงใบส้ม ได้ในนั้นคือการให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เป็นการกระทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม จึงตั้งคำถามว่า เรื่องของการตรวจสอบคุณสมบัติของส.ส. ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่
ทั้งนี้พรรคอนาคตใหม่มองว่า กกต.ไม่สามารถใช้การออกใบส้มได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นคนละเรื่องกันกับคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส. พร้อมทั้งเรียกร้องให้กกต.เปิดโอกาสให้ นายธนาธรได้เข้าไปชี้เเจงข้อเท็จ หากมีการแจ้งข้อกล่าวหา จึงขอให้กกต.ยึดหลักขั้นตอนตามกฏหมาย
ส่วนกรณี ที่มีการตั้งข้อสังเกตในระยะเวลา รายการที่นายธนาธรเดินทางมาเซ็นสัญญาจะ บุรีรัมย์มาถึงกรุงเทพฯ ยืนยันว่า นายธนาธรได้มีภารกิจที่บุรีรัมย์ ในช่วงเช้าและเดินทางกับมาถึงกทม.ในช่วงบ่าย โดยมีหลักฐานทุกอย่าง และประเด็นนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับทางกฏหมายอีกด้วยจึงขอให้ จบประเด็นดังกล่าวได้แล้ว หาก กกต.ได้ต้องการเรียกไปชี้แจง จึงต้องขอสงวนคำตอบไปชี้เเจงต่อกกต.
