โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"ปิยบุตร" อนาคตใหม่ ถามดังๆ ถึง พปชร. หลบๆ ซ่อนๆ รอดได้ แต่เปิดเผยโปร่งใส กลับโดน

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 15 ธ.ค. 2562 เวลา 02.45 น. • เผยแพร่ 13 ธ.ค. 2562 เวลา 06.35 น.
120242

จากเหตุการณ์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเสียงข้างมากให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เสนอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ จากการที่กู้ยืมเงิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191.2 ล้าน

ท่ามกลางข้อ “กังขา” ที่ กกต.เลือกใช้มาตรา 72 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560

“ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

โยงกับมาตรา 92 (3) ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “ยุบพรรค” อนาคตใหม่ โดยไม่มีคำอธิบายใดๆ

รวมถึงปมเงินบริจาค 191.2 ล้าน ที่ทุกฝาย “เก็งคำตอบ” ของ กกต.ว่าพรรคการเมืองสามารถ “กู้เงิน” ได้หรือไม่ เพราะมาตรา 62 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ไม่มีคำว่า“เงินกู้” อยู่ในประเภทรายได้ของพรรคการเมือง และจะโยงมาถึง มาตรา 66 ที่ห้ามบุคคลหรือนิติบุคคลบริจาคเงินให้พรรคการเมือง เกิน 10 ล้านบาท ต่อพรรค/ปี หรือไม่

แต่ที่สุดแล้ว “คำตอบ” ของ กกต.กลับโยงมาตรา 72 ทำให้ประตูสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ได้ถูกเปิดขึ้น
ในเรื่องดังกล่าว “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ใช้สิทธิชี้แจงผ่าน “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า “พรรคการเมืองคือที่รวมตัวของคนที่เห็นตรงกันแล้วรวมตัวกัน แล้วก่อตั้งเป็นพรรคที่เป็นนิติบุคคลเข้าไปมีอำนาจทางการเมือง เพื่อผลักดันนโยบาย เป็นหลักของเทศประชาธิปไตยจะมีเสรีภาพในการก่อตั้งพรรคการเมือง”

“แต่ประเทศไทยมองกับตาลปัตร มองพรรคการเมืองต้องขอใบอนุญาตแบบสมาคม เมื่อรวมตัวกันเสร็จยังไม่ได้เป็นพรรค ต้องส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจความถูกต้อง เป็นมรดกตกทอดจากที่กลัวพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต จึงต้องเช็กก่อน ที่อื่นเขาจะปล่อยให้ตั้ง เมื่อเห็นว่าอุดมการณ์เป็นคอมมิวนิสต์หรือนาซีค่อยตามยุบ”

สิ่งที่เถียงกันอยู่ขณะนี้ พรรคการเมืองเป็น “นิติบุคคลเอกชน” หรือ “นิติบุคคลมหาชน”

“พรรคการเมืองเป็น นิติบุคคลเอกชน ล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะพรรคการเมืองไม่มีอำนาจรัฐ รวมตัวคนเข้ามาเสร็จไม่มีอำนาจรัฐ เพียงแต่เป็นนิติบุคคลเอกชนเหมือนบริษัททั่วไป เพราะบริษัทหุ้นส่วนมีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร แต่พรรคการเมืองมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าไปมีอำนาจรัฐ”

“ดังนั้น พอเป็นนิติบุคคลเอกชนเหมือนกัน แต่วัตถุประสงค์ไม่ตรงกัน กฎหมายพรรคการเมืองจึงเขียนทุกครั้งว่า พรรคการเมืองห้ามแสวงหากำไร พอมองในมุมแบบนี้ว่าพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลห้ามแสวงหากำไรมาแบ่งปันกัน เท่ากับรู้อยู่แล้วว่าพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลเอกชน หรือรับเงินต่างชาติมาบ่อนทำลายคนในชาติ ห้ามตั้งสาขาจากต่างชาติ ใครฝ่าฝืนมีโทษอาญา ติดคุก ยุบพรรค ปรับเงิน แสดงว่าเห็นอยู่แล้วว่าพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลเอกชน แต่กลัวว่าถ้าไม่ห้ามก็จะเข้าสู่หลักทั่วไปคือ จะทำอะไรก็ทำได้”

“เมื่อมองว่าเป็นเอกชน มีเสรีภาพในการกระทำได้หมด “เว้นแต่” กฎหมายไม่ให้ทำ แต่ถ้าเป็นหน่วยงานของรัฐจะกระทำได้ต่อเมื่อ “กฎหมายให้ทำ” นี่เป็นหลักสากล บทพิสูจน์จากกฎหมายพรรคการเมืองเห็นชัด ตอนตั้งพรรคการเมือง กกต.แจกเป็นเล่ม เป็นตารางห้ามทำอะไรบ้าง มีโทษอะไร”

“ทีนี้…บุคคลที่อยู่ภายใต้กฎหมายก็ต้องรู้ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ เราก็สำรวจดูแล้ว ไม่มีตรงไหนเขียนบอกเลยว่า “ห้ามกู้” ถ้าเขียนให้ชัดว่าห้ามกู้ผมก็ไม่กู้หรอกครับ เราก็เลยยืนยันว่าเรากู้ได้”

“ถามว่าตอนนั้นพรรคอนาคตใหม่กู้เงินทำไม กว่าจะได้ตั้งพรรคเดือนตุลาคม 2561 พอตั้ง ค่าใช้จ่ายต้องใช้เยอะ เพราะเราตั้งใจทำพรรคขนาดใหญ่ ผมพูดตั้งแต่วันเปิดตัวพรรคว่า พรรคอนาคตใหม่จะไม่ใช่พรรคทางเลือก แต่เป็นพรรคทางหลัก ทำให้เป็นพรรคมวลชน เป็นศูนย์ 77 จังหวัด และเราทำได้สำเร็จ”

“เรามีพนักงานประจำเกือบร้อยคน ที่ต้องใช้เงินเดือน มีอาคารสถานที่ต้องเช่า และยังต้องทำกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้มีการรับสมัครสมาชิกพรรค เพราะกฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมืองกำหนดให้ทำอยู่แล้ว และทำตรงนี้ต้องใช้เงิน ถามว่าอยู่ดีๆ พรรคอนาคตใหม่ตั้งขึ้นมาแล้วเงินจะหล่นจากท้องฟ้าไหม…ไม่มี ต้องหาเงิน”

“การหาเงิน รับบริจาค ระดมทุน แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ให้ระดมทุนอีก ผมไปทะเลาะกับ กกต.หลายครั้งว่า ตีความปลดล็อกคำสั่ง คสช.ใหม่เปิดทางให้พรรคการเมืองรับบริจาค ระดมทุนได้ ไม่อย่างนั้นพรรคผมจะทำงานได้อย่างไร”

“เจ้าหน้าที่ กกต.ระดับสูง มีการพูดว่า …โห อาจารย์อย่ามาพูดอย่างนี้เลย คุณธนาธรเป็นเศรษฐีหมื่นล้านก็ใช้เงินคุณธนาธรสิ ผมบอกไปว่า ผมจะแสดงความโปร่งใสครับ เจ้าหน้าที่บอกว่า ในเมื่อยังไม่ให้ทำอะไร ก็เอาเงินคุณธนาธรไปแบ่งให้กรรมการบริหารพรรคคนละ 10 ล้านสิ แล้วบริจาคให้พรรค เขาแนะนำผมมาอย่างนี้ ผมก็ปฏิเสธทันที ผมไม่มีทางทำแบบนี้เด็ดขาด รีบๆ ทำให้ผมขายของที่ระลึก รับบริจาคให้ได้เถอะ”

“ทุกวันนี้ ผมฉุนมาก… การที่เราเดินตามกติกาหมดแต่ยังโดน แต่ถ้าผมทำแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนอีก นิติกรรมอำพรางไปอีก ผมต้องไม่ทำ”

ในขณะที่เวลาเดินไปเรื่อยๆ การเลือกตั้งใกล้งวดขึ้นมา แต่พรรคอนาคตใหม่ต้องใช้เงิน “ปิยบุตร” บอกว่า

“ผมมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไร เวลาเดินไปเรื่อยๆ ตั้งสาขาพรรคประจำจังหวัดขึ้นอย่างไร สมาชิกพรรคจะครบได้อย่างไร แต่แน่นอน พรรคต่างๆ ที่เคยทำเขาก็มีเงินมา ไม่ได้ชี้แจงทั้งที่มา และตอนจ่าย แต่ใช้กันจริงๆ เราก็รู้ แต่เราไม่ทำ เหลือทางเดียว ทำให้โปร่งใสเลย”

“แต่เปรียบเทียบว่าถ้าคุณธนาธร หิ้วเงิน 190 ล้าน มาแล้วใช้โดยไม่ได้บอกว่ามาจากไหน และไม่บอกด้วยว่าจ่ายอะไร คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เพราะเราต้องการยกระดับมาตรฐานการเมือง เราจึงกู้เงิน มีสัญญากู้เงินและมีดอกเบี้ย เพื่อแสดงให้เห็นว่า ถ้าพรรคทำกิจกรรมได้แล้วต้องเอาเงินไปคืนคุณธนาธร แสดงให้เห็นว่าคุณธนาธรไม่ได้เอาเงินมาทุ่มที่พรรค ทุ่มเป็นเจ้าของพรรค และแสดงให้เห็นชัดเจนว่ารายได้ รายจ่าย ขาเข้า ขาออกเป็นอย่างไร”

“แต่กลายเป็นว่าการแสดงความโปร่งใสแบบนี้ กลายเป็นช่องทางให้เขามาเล่นงานจนกระทั่งนำไปสู่การยุบพรรค ตกลงประเทศไทยจะเอาอย่างนี้ใช่ไหม หลบๆ ซ่อนๆ รอดได้ แต่เปิดเผยโปร่งใส กลับโดน”

“ปิยบุตร” ยกตัวอย่างชะตากรรมของ “อนาคตใหม่” กับ “พลังประชารัฐ” ที่ก่อตั้งพรรคมาใกล้ๆ กัน

“พรรคเกิดใกล้ๆ กันคือพรรคพลังประชารัฐ เกิดใหม่ใกล้ๆ กัน ผมก็รอดูว่าเขาจะทำอย่างไร หาเงินมาตั้งสาขาพรรค หาสมาชิกพรรคให้ครบได้อย่างไร เพราะไม่เห็นเขาทำกิจกรรม การรณรงค์อะไร แล้วจะเอาสมาชิกมาจากไหน ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดตั้งขึ้นอย่างไรผมก็ไม่รู้ ไม่เห็นทำอะไร”

“ในขณะที่ผมลุ้นทุกวันเมื่อไหร่จะปลดล็อกคำสั่ง คสช.ให้พรรคการเมืองเดินหน้าเต็มที่ สุดท้ายพลังประชารัฐ เลือกวิธีจัดโต๊ะจีนระดมทุน 600 ล้าน ซึ่งก็มีปัญหาคุณธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง เขียนคำร้องให้ กกต.ตรวจสอบ แต่เรื่องก็เงียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อนาคตใหม่มาจากความโปร่งใส่เลยแต่กลับตรวจสอบ”

เลขาธิการ อนาคตใหม่ ฉายพฤติกรรมนักร้องเรียน ที่พาให้ “อนาคตใหม่” ตกอยู่ Red zone ว่า พอคุณธนาธร พูดเรื่องเงินกู้ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ FCCT ก็มีนักร้องจับตรงนี้ขึ้นมา แล้วไปนั่งหารู หาช่องว่าเข้าช่องไหนได้

“ถามว่าการใช้กฎหมายแบบนี้คุณต้องการกำจัดเราแบบมีธงก่อน แล้วไปหารูว่าใช้มาตราไหน นักร้องก็เหมือนกัน มีธงก่อนคือ จัดการมัน ไปดูมาตราไหนที่จะเข้าข่ายได้ ถ้าเข้าไม่ได้ตรงๆ ก็แถไถ บิดไปเรื่อย เข้าได้อยู่ 2 เรื่อง บริจาคเกิน..10 ล้านบาทต่อปี จะบริจาคเกินได้ไง พรรคโอนเงินคืนไปแล้วบางส่วน ช่องทาง 2 คือ เงินผิดกฎหมาย ใช้มาตรา 72 พ.ร.บ.พรรคการเมือง”

“มาตรา 72 คือเงินหวย ซ่อง บ่อนพนัน คอร์รัปชั่น ฟอกเงิน ค้ามนุษย์ อาวุธ ไปรับเงินผิดกฎหมายมาทำพรรค แต่ก็เอามาตรานี้มาใช้กับอนาคตใหม่”

“คำถามที่ถามคือ กกต.อ่านมาตรา 72 ก่อน แล้วเอาข้อเท็จจริงมาปรับว่าเข้าหรือไม่เข้าแล้ววินิจฉัย หรือ กกต.มีธงก่อนว่ายุบ แล้วค่อยไปเปิดมาตราดู ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นอย่างหลัง และ กกต.ที่มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้อธิบายชัดเจน”

“เพราะมาตรา 72 เป็นประตูสู่การยุบพรรค”

“ปิยบุตร” ยังบอกถึง “เอกสาร” ที่ กกต.ขอให้ส่ง แต่อนาคตใหม่ขอขยายเวลา 120 วัน แต่ กกต.ไม่อนุญาต นำมาสู่การตัดพยาน และมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค

“เอกสารที่ กกต.ขอบัญชีรายวัน 9 เดือนจากสำนักงานทั่วประเทศ 77 ศูนย์ กับ 1 สาขาใหญ่ แล้วจะเอามาจากไหน และผมสงสัยว่าเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับคดี ที่ผมส่งไปรายชื่อของคนที่บริจาคเกิน 5 พันบาท ต้องส่ง กกต.ทุกเดือน เช็คที่ทยอยคืนเงินกู้ส่งครบ รวมถึงสัญญาเงินกู้ส่งครบทั้งหมด”

อนาคตใหม่ ยังต้องสู้ต่อในยกที่ 2 คือ ศาลรัฐธรรมนูญ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0