ปิดหนังสือพิมพ์”โพสต์ทูเดย์” อาถรรพ์ของ”บางกอกโพสต์”

เว็บไซต์ โพสต์ทูเดย์ (https://www.posttoday.com ) ได้ลงข่าวประกาศของบริษัทบางกอกโพสต์ว่า "กลุ่มโพสต์ยุติพิมพ์ "นสพ.โพสต์ทูเดย์-M2F" เดินหน้ารุกสื่อดิจิทัลเพิ่ม" นับเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับคนในแวดวงสื่อและผู้อ่านที่ติดตามข่าวสารของหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์มายาวนานเกือบ 20 ปี

โพสต์ทูเดย์ ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2546 ในเครือบางกอกโพสต์ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันฉบับภาษาไทย ของบางกอกโพสต์ แต่จะมีเนื้อหาที่หลากหลายตามรูปแบบของ Bangkok Post หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษเก่าแก่ของไทย

แต่ โพสต์ทูเดย์ ไม่ใช่หนังสือพิมพ์รายวันฉบับแรกในเครือบางกอกโพสต์ เพราะก่อนหน้านั้นเครือบางกอกโพสต์พยายามจะมีหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทยมาแล้ว คือ สยามโพสต์ เมื่อปี 2535 แต่ออกมาได้ไม่กี่ปีก็ต้องปิดตัวลง ด้วยเหตุผลทางธุรกิจจากการขาดทุน

ต่อมาเครือบางกอกโพสต์ก็พยายามอีกครั้ง สำหรับหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทย แต่ในครั้งนี้เปลี่ยนแนวทางหนังสือพิมพ์ จากเดิมที่ สยามโพสต์ เป็นข่าวการเมืองเศรษฐกิจแบบเข้มข้น มาเป็นแนวธุรกิจที่ในตลาดมีเหลือเพียงแค่ "กรุงเทพธุรกิจ" ในขณะที่ "ผู้จัดการ" เปลี่ยนไปเป็น "เชิงการเมือง" ส่วนที่เหลือเป็นหนังสือพิมพ์เฉพาะกลุ่มในเรื่องหุ้นและการลงทุน

วันแถลงเปิดตัว "โพสต์ทูเดย์" สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร ลงมาแถลงสร้างความมั่นใจด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีคำถามเกิดขึ้นในวันแถลงเปิดตัวว่า "ทำจริงหรือ?" "จะปิดอีกหรือไม่"

ในครั้งนั้น "สุทธิเกียรติ" ถึงกับประกาศว่า"ผมทำไม่มีเจ๊ง" 

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  POST ต้องแบกรับภาระการขาดทุนของ "โพสต์ทูเดย์" มาโดยตลอด และมักจะมีประเด็นในกลุ่มพนักงานต่างสังกัด จนมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าจะ "ปิด" แต่ POST ก็ประคองเพื่อให้ยังตีพิมพ์ต่อไป โดยหวังว่าจะฟื้นขึ้นในระยะยาว ซึ่งเป็นธรรมดาของธุรกิจ

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าธุรกิจหนังสือพิมพ์ ไม่ได้อยู่ได้ด้วยยอดจำหน่าย แต่มาจากยอดโฆษณา เมื่อปีไหนเศรษฐกิจย่ำแย่ งบโฆษณาโดยรวมลดลง ในปีนี้นั้นธุรกิจหนังสือพิมพ์หรือสื่อก็จะย่ำแย่ไปด้วย

ลำพังการประคองตัวจากภาวะเศรษฐกิจ เพราะรายได้จากโฆษณาลดลง อาจไม่เกินกำลัง "สุทธิเกียรติ" ที่จะประคับประคองไปได้ แต่ที่ส่งผลกระทบหนักที่สุด เช่นเดียวกับกลุ่มสื่ออื่น ๆ นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้ติดตามข่าวสาร หรือที่เรียกกันว่า Disruption

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีสื่อสารที่เป็นไปอย่าง "รวดเร็ว" และ "ลงลึก"ถึงพฤติกรรมของผู้คน ได้ส่งผลกระทบทุกธุรกิจ แต่ "สื่อ" ถือว่าหนักสุด เมื่อคนอ่านสามารถเป็นผู้ผลิตสื่อได้เอง อีกทั้งทำให้คนสามารถรับรู้ข่าวสารในวงกว้างได้มากกว่าผ่าน "องค์กรสื่อ"

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ไม่เพียงแค่กระทบต่อกลุ่มผู้บริโภค ที่มีทางเลือกมากขึ้น แต่ยังรวมถึงที่มาของรายได้ นั่นคือ "โฆษณา" ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เมื่อวงการโฆษณาหันไปใช้ช่องทาง "ใหม่" จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และ "ค่าใช้จ่ายถูกกว่า" อีกทั้ง "หวังผลได้มากกว่า"

การประกาศของเครือบางกอกโพสต์ก็มีความชัดเจนในตัวว่าการปิดตัวสิ่งพิมพ์ในครั้งนี้ มาจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

"กลุ่มบางกอกโพสต์หยุดพิมพ์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และ M2F ภายในมี.ค.62 พร้อมเดินหน้ารุกสื่อดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองผู้อ่านและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 62 บริษัท บางกอก โพสต์ จำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลประกอบการของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และระบุว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทมีการปรับตัวด้านการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเพื่อให้แข่งขันกับคู่แข่งทางการตลาดและเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินต่างๆเป็นอย่างดี บริษัทสามารถชำระดอกเบี้ยและชำระคืนเงินต้นตรงตามกำหนดเวลา

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีนโยบายที่จะพยายามรักษารายได้จากสื่อสิ่งพิมพ์ เพิ่มรายได้ส่วนรายการโทรทัศน์และ รายได้ดิจิทัล ในขณะที่จะควบคุมและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2562 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 20 ก.พ.2562 จึงได้มอบหมายให้ผู้บริหารศึกษาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและต้นทุนการทำงานของแผนกโรงพิมพ์บริษัทตามความเหมาะสม เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเสียหายของอุปกรณ์ การลงทุนในอะไหล่ ค่าบำรุงรักษา และค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น

รวมทั้งพิจารณาให้หยุดพิมพ์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และหนังสือพิมพ์ M2F ภายในเดือนมี.ค.2562 เป็นต้นไป และให้มุ่งเน้นการใช้ช่องทางสื่อดิจิทัล เว็บไซต์ และสังคมออนไลน์เพิ่มมากขึ้น"

จากประกาศข้างต้น อาจไม่เพียงแค่หนังสือพิมพ์ 2 ฉบับ แต่ยังรวมถึงโรงพิมพ์ด้วย ซึ่งก่อนหน้านั้น เครือมติชน ก็ยุติโรงพิมพ์หันไปจ้างผลิตแทนการเป็นเจ้าของโรงพิมพ์

ดังนั้น การปิดหนังสือพิมพ์ภาษาไทย 2 ฉบับ ไม่ใช่การพ่ายแพ้เชิงบธุรกิจ "แบบเดิม"ของ "สุทธิเกียรติ" แต่เป็นการพ่ายแพ้ "เทคโนโลยี" และช่วยย้ำ "อาถรรพ์"ของบางกอกโพสต์อีกครั้งว่าไม่เคยออกหนังสือพิมพ์ภาษาไทยได้สำเร็จ