โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ปิดตำนานเขากะลาที่ดูมนุษย์ต่างดาว ป่าไม้นครสวรรค์ ห้ามรถขึ้น-ปิดสำนักสงฆ์

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 20 ส.ค. 2562 เวลา 12.39 น. • เผยแพร่ 20 ส.ค. 2562 เวลา 11.44 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ปิดตำนานเขากะลา พื้นที่ดูมนุษย์ต่างดาว หลัง จนท.สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 จ.นครสวรรค์ แจ้งให้ผู้ดูแลสำนักปฏิบัติธรรม ออกจากพื้นที่เขากะลาให้หมด ห้ามกางเต็นท์พักแรม แต่ยังเดินขึ้นมาเที่ยวได้

เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 20 ส.ค.62 ที่จังหวัดนครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบนสำนักปฏิบัติธรรมเขากะลา ตำบลพระนอน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ หลังจากที่เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 จังหวัดนครสวรรค์ ได้แจ้งให้ผู้ดูแลสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว รวมถึงผู้มาตั้งเต็นท์ค้างแรมเพื่อปฏิบัติธรรม ให้เร่งเก็บข้าวของทุกอย่างออกจากพื้นที่บนเขากะลาให้หมด โดยจะมีการนำที่กั้นมาปิดบริเวณปากทางขึ้นเขากะลาในช่วงเวลา 15.00 น.ของวันนี้

ล่าสุด พ.ท.สมหมาย หลิ่วน้อย หมู่ รส.ประจำ อ.เมืองนครสวรรค์ ร้อย.รส.ที่ 1 (ศฝ.นศท.มทบ.31) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ได้ทำการปิดพื้นที่ทางขึ้นเขากะลาโดยการนำไม้มาปิดทางขึ้นเขากะลา พร้อมปิดป้ายเป็นพื้นที่ควบคุม ห้ามรถขึ้นบนเขากะลา ด้านบรรยากาศภายในสำนักปฏิบัติธรรมได้มีการขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ออกไปจากสำนักปฏิบัติธรรมจนเกือบหมด โดยยังคงเหลือเพียงพระพุทธรูป โต๊ะหมู่บูชาเพียงเท่านั้น ซึ่งทราบว่าของทั้งหมดได้ถูกขนไปไว้ที่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านวังรอ ตำบลวังมหากร อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ โดยอยู่ห่างจากเขากะลาออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร

 

อย่างไรก็ตาม บริเวณพื้นที่บนเขากะลาที่ตั้งของสำนักปฏิบัติธรรมนั้น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แจ้งว่า หากประชาชนจะเดินทางมาเที่ยวก็สามารถทำได้ แต่ต้องเดินเท้าขึ้นไปบนเขาเท่านั้น ไม่ให้ใช้ยานพาหนะขึ้นไปบนเขาอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งแนะนำให้เที่ยวเชิงอนุรักษ์เท่านั้น ห้ามทำการกางเต็นท์นอนค้างคืน หรือทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของกรมป่าไม้อย่างเด็ดขาด

ด้านคดีความก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลและกระบวนการยุติธรรม จนกว่าจะเสร็จสิ้นคดีถึงจะดำเนินการ ขอพัฒนาพื้นที่บนยอดเขาให้เป็นแหล่งสาธารณประโยชน์ หรือให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จะต้องไปทำเรื่องขอกับทางป่าไม้ในการขอใช้พื้นที่เพื่อเข้ากระบวนการพิจารณาว่าจะอนุมัติหรือไม่ต่อไป

ส่วนของ นายเจริญ แร่เพชร ได้เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ เมื่อหลายวันก่อนเรียบร้อยแล้ว ก็ให้การปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้ครอบครองพื้นที่ดังกล่าว เพียงแค่มาทำกิจกรรมเท่านั้น ส่วนพื้นที่บนเขากะลา เจ้าหน้าที่ได้ให้ทางป่าไม้เข้ามาสำรวจและตรวจสอบทั้งหมดว่าเสียหายอะไรบ้างเพื่อจะได้สืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0