โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ปิดชายแดนทั่วประเทศกว่า 2 เดือน ทำรายได้การค้าไทย-กัมพูชาหายวับกว่า5หมื่นล้าน

สยามรัฐ

อัพเดต 03 มิ.ย. 2563 เวลา 23.23 น. • เผยแพร่ 03 มิ.ย. 2563 เวลา 22.54 น. • สยามรัฐออนไลน์
ปิดชายแดนทั่วประเทศกว่า 2 เดือน ทำรายได้การค้าไทย-กัมพูชาหายวับกว่า5หมื่นล้าน

ปิดชายแดนทั่วประเทศกว่า 2 เดือน ทำเงินจากค้าระหว่างไทยกับกัมพูชา หายไปแล้วกว่าครึ่งแสนล้านบาทถ้าปิดต่อไปจะเพิ่มทวีไม่หยุด สวนใน จ.จันทบุรี ระส่ำรุนแรง!! ขาดแคลนรุนแรงแรงงานทุกสวน ผลพวงจากการปิดชายแดน แถมในเร็ว ๆ นี้ลำไย จ.จันทบุรี จะออกสู่ตลาด แต่ยังไม่รู้จะหาแรงงานที่ไหนมาเก็บผลผลิต สมาคมการค้าชายแดน จ.จันทบุรี เรียกร้องให้รัฐเร่งทบทวนเรื่องปิดชายแดน

วันที่ 3 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศชายแดน ณ จุดผ่านแดนถาวรไทย กัมพูชา หมู่บ้านแหลม หมู่ 4 ต.เทพนิมิตร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ภายหลังเกิดความไม่พอใจของพ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชา ด้านเมืองปอยเปต กัมพูชา ฝั่งตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ที่เรียกร้องให้ไทยเปิดด่าน ให้มีการค้าต่อกันในระหว่างพ่อค้า แม่ค้า กัมพูชา กับคนไทยตามปกติ ภายหลังจากไทยทำการปิดด่านชายแดนทั่วประเทศมาตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. 63 หรือกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา

โดยบรรยากาศชายแดนด้าน จ.จันทบุรี ทั่งฝั่งไทยและกัมพูชาในบริเวณ จ.จันทบุรี ยังคงเป็นปกติ แต่มีความไม่สบายใจของผู้ขับรถขนส่งสินค้าไทยในการเข้าไปยังกัมพูชา เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากชาวกัมพูชาในเมืองปอยเปยได้ระบุว่า “ไม่รับรองความปลอดภัยของรถสินค้าไทยที่เข้าไปยังกัมพูชา” เพื่อตอบโต้ไทยที่ไม่ยอมเปิดด่าน แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีรถสินค้าหลากหลายชนิดขนส่งค้าผ่านจุดผ่านแดนถาวรหมู่บ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน เข้าไปยังกัมพูชาอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยยังไม่มีความรุนแรงหรือเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นกับรถลำเลียงสินค้าไทย

ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย กัมพูชา จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ด้านเมืองปอยเปยยังไม่ลุกลามเข้ามาด้านชายแดน จ.จันทบุรี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่มีการปิดชายแดนมากว่า 2 เดือน คือความเสียหายด้านการค้าที่ไทยจะได้จากกัมพูชา โดยมูลค่าการค้าเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท เป็นความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นกับชายแดนไทย กัมพูชา ตั้งแต่ จ.อุบลราชธานี , จ.ศรีสะเกษ , จ.สุรินทร์ , จ.บุรีรัมย์ , จ.สระแก้ว เรื่อยมาจนถึง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด และหากยังคงปิดชายแดนต่อไป ความเสียหายทางการค้าชายแดนไทย กัมพูชา จะสูงถึงกว่า 70,000 – 80,000 ล้านบาท และจะยิ่งทวีคูณยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ

ดร.รัฐวิทย์ เปิดเผยอีกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจังหวัดตามแนวชายแดน ได้ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ได้ดีอย่างเห็นได้ชันเจน ไม่มีผู้ป่วยจากไวรัสนี้แต่อย่างใด สิ่งนี้รัฐบาลควรพิจารณาเพื่อเปิดด่านชายแดน เพราะการป้องกันไวรัสโควิด 19 ตามแนวชายแดน ป้องกันได้ง่ายกว่าภายในห้างสรรพสินค้าที่เป็นพื้นที่ปิด ไม่มีอากาศถ่ายเทได้เหมือนตามแนวชายแดนซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง จากเดิมที่มองกันว่ากัมพูชา เวียดนาม เป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการระบาดของไวรัสดังกล่าว จึงไม่ยอมเปิดด่านเหมือนเดิม ควรทบทวนเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนเพราะประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้แทบไม่ผู้ติดเชื้อไวรัส รวมทั้งรักษาได้ดีเช่นกัน ทั้งนี้ ล่าสุดในประเทศกัมพูชามีความหวังว่าไทยจะมีการเปิดด่านตามเดิม เพื่อจะได้ทำการค้าต่อกันเหมือนที่เคยเป็นมา

ขณะเดียวกันการปิดชายแดนไม่เพียงมีผลด้านความเสียหายทางการค้าระหว่างไทยกับเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบเรื่องแรงงานด้วย ตอนนี้ชาวสวนผลไม้กำลังขาดแคลนแรงงานกันแทบจะทุกสวน เพราะกำลังออกสู่ตลาด ที่สำคัญอีกกว่า 1 เดือนจากนี้ไป ลำไยของ จ.จันทบุรี ก็จะออกสู่ตลาดด้วยเช่นเดียวกัน และก็มีปัญหาเหมือนสวนไม้อื่น ๆ คือต่างขาดแคลนแรงงานอย่างมาก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0