โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ปิดฉากชีวิตคู่ “บุ๋ม ปนัดดา” หลังใช้ชีวิตคู่มานานกว่า 5 ปี

daradaily

อัพเดต 17 ธ.ค. 2561 เวลา 11.51 น. • เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2561 เวลา 12.00 น.

ปิดฉากชีวิตคู่ “บุ๋ม ปนัดดา” หลังใช้ชีวิตคู่มานานกว่า 5 ปี

        เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวสุดช็อกของวงการบันเทิงไทย สำหรับอดีตนางสาวไทย อย่าง "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ที่ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อของเรา กรณีเตียงหักรอบ 2 ว่าเธอนั้นได้เลิกราปิดฉากการใช้ชีวิตคู่กับสามีหนุ่ม หุ่นล่ำ "เอก เอกริน นิลเศรษฐี" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมานานกว่า 5 ปี

         ล่าสุด “บุ๋ม ปนัดดา” ออกมาเปิดใจผ่านสื่อและได้ให้สัมภาษณ์ว่า จริงๆ แล้วความสัมพันธ์มันเริ่มลดน้อยลงกันมานานเกือบปีแล้ว แต่ก็ประคับประคองกันมาตลอด 5 ปี จนมีการคุยเรื่องเลิกกันหลายครั้ง จึงตัดสินใจใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่น่าจะดีกว่า เพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบตามความฝัน ส่วนพี่เอกก็ปล่อยให้เขาไปดูแลตัวเอง เข้ายิมเพื่อสุขภาพ ส่วนตัวก็เอาเวลามาช่วยเหลืองานสังคมอย่างที่เราชอบ เพราะถ้าต่างคนต่างอยู่มันน่าจะดีกว่าโดยที่ต้องมานั่งทะเลาะกันหรือเกลียดกัน ดังนั้นต้องการที่จะทำทุกวันให้ดีที่สุดเพื่อลูกและตัวเอง

          ซึ่งต้องบอกเลยว่าความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ เรายังทำธุรกิจร่วมกันอยู่ มันไม่ได้มานั่งเกลียดกันหรือทะเลาะกัน เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาจุดยืนของเราทั้ง 2 คนไม่ตรงกันเท่านั้นเอง เพราะหลายๆ คนจะเห็นตามโซเชียลอยู่แล้วว่าบุ๋มต้องช่วยเหลือสังคมอยู่ตลอดเวลา จนเขากลับมองว่าเราไม่ใส่ใจเขา 

          ถามว่าชีวิตคู่ครั้งที่ 2 จบลงวันนี้น้ำตามีไหม มันก็ต้องมีแน่นอน แต่เป็นความโชคดีที่ว่าเราได้ไปแสดงบุญที่อินเดียพอดี เป็นทริปที่ท่าน ว.วชิรเมธี จัดให้ลูกศิษย์ได้ไปช่วยงาน ซึ่งยอมรับตามตรงว่าร้องไห้บ่อยมาก ถามว่ากลัวคนเห็นไหมก็กลัวแต่มันแบกความรู้สึกไว้ไม่ไหว ถามว่าอ่อนแอไหมก็ต้องมีบ้าง เพราะก่อนหน้านี้เคยสั่งซื้อเตียงนอนมาไว้ที่บ้านและกำลังจะมาส่ง แต่ตอนนี้พี่เอกไม่อยู่แล้ว ก็กลายเป็นโมเมนต์ที่ว่าเราต้องนอนคนเดียว

         ส่วนตัวของลูกสาวสุดน่ารัก “น้องอันดา” เราจะไม่ให้เขาได้เห็นภาพที่เรา 2 คนทะเลาะกันเลย น้องอันดาจะเห็นแค่ว่าเมื่อก่อนมีเขาและวันนี้ไม่มีเขา ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามก็ยังจะทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุดเหมือนเดิม เพราะทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกับพี่เอกเหมือนเดิม ยังคุยกัน ไลน์หากันเป็นปกติ และยังเป็นที่ปรึกษาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทำธุรกิจร่วมกันเหมือนเดิม และอยากให้ลูกน้องทุกคนสบายใจได้ว่าธุรกิจก็ยังจะราบรื่นไปได้ด้วยดีเหมือนเดิม ซึ่งเราก็ยังเข้าไปช่วยเหลือในยิมอยู่ แต่หลักๆ แล้วก็คงเป็นเขาที่ต้องดูแลทั้งหมด

           และอนาคตก็ต้องเป็นเรื่องของวันข้างหน้า เพราะทุกวันนี้ยังไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมานั่งให้สัมภาษณ์เรื่องเลิก เพราะก็ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้ชีวิตคู่ล้มเหลว ส่วนเรื่องของอนาคตก็ยังไม่รู้ว่าสถานะจะกลับมาเหมือนเดิมไหม แต่อย่างน้อยบุ๋มก็ยังรู้สึกดีต่อเขาอยู่

            ส่วนเรื่องของกำลังใจจากแฟนคลับส่งเข้ามาทางไอจีเยอะมาก อย่างน้อยคนให้กำลังใจเราเยอะกว่าด่าเรา ซึ่งตรงนี้ต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กัน และลูกคือกำลังใจที่ดีที่สุด และสำคัญมากๆ สำหรับตัวเรา เพราะเปิดอกคุยกันกับลูกตรงๆ ลูกก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ และยังเคารพกับการตัดสินใจของเรา

           ทางฝั่งของกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโซเชียล ที่ว่าไปอินเดียทำบุญและแต่งหน้า  ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าเราไปช่วยทริปและสลับกับไปเอ็นเตอร์เทน เราไม่ได้ไปบวช ซึ่งถ้าไปบวชก็จะรู้อยู่แล้วสำหรับการถือศีล 5 ศีล 8 และประกอบกับเราร้องไห้มาตลอดหน้าก็บวม เลยต้องขอแต่งหน้าช่วย เพื่อกิจกรรมจะได้ราบรื่นไปตลอดทริป และเราทราบว่าเราไปทำอะไรเพื่ออะไร จะเต็มที่กับงานเสมอ

            สำหรับอนาคตเรื่องของความรักนั้นยังไม่กล้าคิด เพราะบอกตามตรงว่าเรายังเจ็บอยู่เหมือนกัน เพราะทุกวันนี้พอมีคนมาจีบเรารู้สึกกลัวไปเลย เพราะตัวเราเวลารักใครแล้วเราทุ่ม ก็คงต้องขอใช้เวลาดีๆ นี้อยู่กับตัวเองและลูกไปก่อน เพราะถ้าใครได้ติดตามไอจีจะเห็นว่าเราเล่นกับเขาอยู่เสมอ จะไม่ให้เขาเห็นน้ำตาหรือความเศร้าเลย สุดท้ายก็อยากฝากถึงผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเราต้องรักตัวเอง และก็ต้องขอขอบคุณทุกคน ที่ส่งกำลังใจมาเยอะกันมากขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0