โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ปิดจ๊อบซีเกมส์! บทสรุปทัพไทยจบที่ 3 คว้าไป 92 เหรียญทอง

Soccersuck

เผยแพร่ 11 ธ.ค. 2562 เวลา 10.07 น. • Soccersuck


ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 รูดม่านปิดฉากเรียบร้อย หลังชิงชัยกันมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ซึ่งทัพนักกีฬาไทย คว้ามาได้ 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 123 เหรียญทองแดง หลุดจาก 2 อันดับแรกในตารางเหรียญรวมซีเกมส์เป็นครั้งเเรกในรอบ 28 ปี โดยครั้งสุดท้ายที่ไทยจบอันดับ 3 คือในซีเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่ฟิลิปปินส์ เมื่อปี 1991
ส่วนเจ้าเหรียญทอง เป็นของเจ้า ฟิลิปปินส์ ที่โกยนำม้วนเดียวจบ ได้ไป 149 เหรียญทอง 117 เหรียญเงิน 120 เหรียญทองแดง และอันดับ 2 เวียดนาม 97 เหรียญทอง 85 เหรียญเงิน 104 เหรียญทองแดง
ขณะเดียวกัน จากข้อมูลงานกำกับดูแลและติดตามประเมินผลกีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ระบุว่า จากที่ เจ้าภาพ จัดกีฬา 56 ชนิด แยกออกเป็นกีฬาสากล ได้ 27 ชนิด 303 รายการ ไทยส่งแข่ง 26 ชนิด 293 รายการ ขาดไปเพียงยกน้ำหนัก ปรากฏว่า เฉพาะกีฬาสากล ไทย ได้อันดับ 3 เช่นเดียวกัน ทำไป 64 เหรียญทอง ส่วนอันดับ 1 เป็นเวียดนาม 70 เหรียญทอง และอันดับ 2 ฟิลิปปินส์ 69 เหรียญทอง
หากแยกเฉพาะเหรียญทองกีฬาทั่วไป ที่ไม่เป็นกีฬาสากล อันดับ 1 เป็นของเจ้าภาพ ฟิลิปปินส์ 80 เหรียญทอง อันดับ 2 มาเลเซีย 31 เหรียญทอง และอันดับ 3 ไทย 28 เหรียญทอง
สำหรับสมาคมกีฬาที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เบอร์ 1 ต้องยกให้ “กรีฑา” ที่คว้ามาได้ถึง 12 เหรียญทอง จากที่ตั้งเป้าไว้แค่ 6 เหรียญ โดยเฉพาะวิ่งผลัด 4x100 ม. คว้าแชมป์ทั้งชายและหญิง
ในประเภทหญิง ทีมไต้ฝุ่นไทย ประกอบด้วย อรอุมา เชษฐา, ขวัญฤทัย ปากดี, ทัศพร วรรณกิจ และ สุภาวรรณ ทิปัต ทำเวลาได้ 44.38 วินาที ขณะที่ ทีมไต้ฝุ่นชาย มี รัตนพล โสวัณ, บัณฑิต ช่วงไชย, จิระพงศ์ มีนาพระ และ ศิริพล พันธ์แพ ทำเวลาได้ 39.27 วินาที ป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย ส่วน คีริน ตันติเวทย์ หนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน คว้า 2 เหรียญทองวิ่งระยะ 5,000 เมตร และ 10,000 เมตร
ขณะที่ ”เทควันโด้” กีฬาความหวังของไทยในโอลิมปิก “สอบผ่าน” จากผลงานคว้ามาได้ถึง 7 เหรียญทอง โดยเฉพาะประเภทต่อสู้ ได้มา 6 ทอง นำโดย “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เเชมป์โลก 2 สมัย เเละเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2018 ไม่พลาดแชมป์ในรุ่น 49 กก. รวมถึง “น้องเหมียว” จุฬานันท์ ขันติกุลานนท์, “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี และ “เจ้าเบสท์” นฤพงษ์ เทพเสน แต่ที่พลิกล็อกคือ รุ่น 53 กก. “น้องนก” พรรณนภา หาญสุจินต์ อีกหนึ่งเเชมป์โลกของไทย แพ้ให้กับ ตราน ธิ อัน ทุย จากเวียดนาม 26-28 ได้แค่ทองเเดง
”มวยสากลสมัครเล่น” อีกหนึ่งกีฬาความหวังในโอลิมปิก ก็ “สอบผ่าน” ทำได้ตามเป้าที่วางไว้ 5 เหรียญทอง จากการส่ง 10 รุ่น ผ่านเข้าชิง 7 รุ่น โดย
5 เหรียญทองได้จากชาย 3 รุ่น / 56 กก. ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี, 69 กก. วุฒิชัย มาสุข, 81 กก. อนวัช ถองกระโทก และหญิง 2 รุ่น / 54 กก. นิลาวัลย์ เตชะสืบ, 60 กก. สุดาพร สีสอนดี เรียกความมั่นใจก่อนลุยเป้าหมายต่อไปคือรายการคัดโอลิมปิกปีหน้า
ส่วนกีฬาประเภททีมที่ยังรักษามาตรฐานทำได้ตามเป้าคือ “วอลเลย์บอลหญิง” ที่คว้าเหรียญทองสมัยที่ 14 และเป็นสมัยที่ 12 ติดต่อกันด้วย โดยทีมลูกยางสาวไทย ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชด่วน" ดนัย ศรีวัชรมธากุล ขนทัพใหญ่มาแบบจัดเต็มนำโดย อรอุมา สิทธิรักษ์, พิมพิชญา ก๊กรัมย์, ฑิชากร บุญเลิศ, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, นุศรา ต้อมคำ และ ชัชชุอร โมกศรี จึงยากที่ใครจะต่อกร
อย่างไรก็ตาม หลายสมาคมกีฬาทำผลงานได้น่าผิดหวัง ไเป็นไม่ตามเป้า หนึ่งในนั้นคือ “ฟุตบอล” ที่พลาดเหรียญทองทั้งชายและหญิงด้วยน้ำมือของคู่ปรับ เวียดนาม อย่างเจ็บปวด
สำหรับซีเกมส์ ครั้งต่อไป เวียดนาม จะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปี 2564 ถือเป็นงานหนักอึ้งของทัพนักกีฬาไทยอย่างแน่นอน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0