วันที่ 22 พ.ย.62 น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนไม่คิดว่าหลังจากที่ไปขอความเมตตาให้หยุดเลือกปฏิบัติ กรณีขอให้ประธานสภาฯ ดำเนินการสอบจริยธรรม พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส ไม่คิดว่าท่านชวนจะส่งเลขานุการประธานสภาฯ มาแถลงข่าวอันเป็นเท็จ เพราะตนไม่ได้พูดให้คนเข้าใจผิด และขอยืนยันว่า ท่านชวนเลือกปฏิบัติจริงๆ ในข้อบังคับการประชุมเรื่องการหารือ สมาชิกรัฐสภาสามารถหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน และเรื่องทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมา มีการหารือเรื่องทั่วไป คือ เรื่องห้องน้ำ ที่จอดรถ ผู้ติดตามที่จะเข้ามาในสภา อีกทั้งมีการหารือของ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ประเด็นการเมืองพูดจาใช้คำหยาบคายต่อ พล.อ.ประยุทธ ท่านประธานอนุญาตทั้งหมด แต่ตนจะหารือให้ท่านชวน ดำเนินการสอบจริยธรรมท่านเสรี ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในรัฐสภาขณะมีการประชุมกรรมาธิการ ท่านชวนไม่อนุญาต ซึ่งตรงนี้ตนน้อมรับการตัดสินใจท่านชวน แต่อยากจะขอให้ท่านชวนไม่เลือกปฏิบัติ เพราะหากไม่อนุญาตให้ตนหารือเรื่องทั่วไป ก็ต้องไม่อนุญาตทุกคนไม่หารือเรื่องทั่วไปเช่นเดียวกัน
น.ส.ปารีณา กล่าวต่อว่า นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวหาว่าตนร้ายท่านเสรี จึงขอถามกลับว่า ใครใส่ร้ายใครกันแน่ คำพูดต่อว่า ด่าทอ ดูถูก ดูหมิ่น ชี้หน้า ที่เกิดในรัฐสภาขณะมีการประชุมกรรมาธิการ ปรากฏในสื่อต่างๆ และสังคมได้รับรู้และเห็นกริยาดังกล่าวแล้ว ไม่ได้ใส่ร้ายใคร เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องประชุมขณะกำลังมีการประชุมกรรมาธิการ ซึ่งตรงนี้ตนจะดำเนินคดีกับเลขาประธานสภาฯ ในการแถลงข่าวเท็จในครั้งนี้
"นอกจากดิฉันจะร้องให้ดำเนินการสอบจริยธรรมท่านเสรี ดูถูก ดูหมิ่น ชี้หน้าดิฉันแล้ว ดิฉันจะร้องสอบจริยธรรมเลขาท่านชวนฯ เช่นเดียวกัน เนื่องจากใช้คำพูดว่า ควรเป็นผู้แทนที่คนราชบุรีภูมิใจ เสมือนพูดเพื่อเป็นการเสียดสี แต่รับรองว่าจะไม่นำไปหารือในสภาเพราะกลัวถูกตัดไมค์อีก ทั้งนี้ วันนี้หัวใจสลาย ผิดหวัง ทั้งท่านชวน และเลขาฯ ท่านชวน ที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่คิด" น.ส.ปารีณา กล่าว
น.ส.ปารีณา กล่าวต่อว่า นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ ในฐานะอดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอ้างว่าเคยเรียนจิตเวชนั้น ทำให้เข้าใจตน เป็นเพียงการพูดเพื่อเสียดสี เพราะจริงๆ แล้ว นพ.สุกิจ เป็นเพียงหมอรักษาโรคทั่วไป แต่ตนต่างหากที่เข้าใจ นพ.สุกิจ โดยไม่เคยเรียนจิตเวช เพราะมีเพื่อนที่สมัคร ส.ส.แล้วสอบตกหลายคน จะมีอาการคล้ายๆ กันทุกคน คือ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ บิดเบือนความเป็นจริง เพ้อว่าตนเองดีมาก ส่วนคนอื่นสกปรกโสโครกชั่วร้าย และประชาชนก็แค่ไปเลือกคนชั่วร้าย คนดีมากๆ เลยแพ้สอบตกไม่เป็นท่า อยากให้ยอมรับว่าแพ้ก็คือแพ้ ทั้งนี้ ตนขอฝากให้ นพ.สุกิจ ทำความดี พูดจาดีๆ สนใจเรื่องของประชาชนให้มากกว่าการโทษคนอื่นสกปรกโสโครกชั่วร้าย เผื่อครั้งหน้าจะได้สอบไม่ตกอีก
