Facebook :Travel @ Manager
ครั้งแรกของกรุงเทพมหานครกับงาน “Bangkok Art Biennale 2018” หรือ "BAB" งานศิลปะที่จะเปลี่ยนกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองแห่งศิลปะ โดยมีมีบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนร่วมมือจัดขึ้น ภายใต้แนวคิด "สุขสะพรั่ง พลังอาร์ต” หรือ “Beyond Bliss” ซึ่งมีการจัดแสดงผลงานกว่า 200 ชิ้นจาก 75 กลุ่มศิลปินทั่วโลก จัดแสดงตามแลนด์มาร์ก 20 แห่งใจกลางเมือง
สำหรับสถานที่จัดแสดงผลงานทั้ง 20 จุดนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 เส้นทางที่เชื่อมโยงกัน คือเส้นทาง River Route ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเส้นทาง City Route ใจกลางเมือง ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวกสบายด้วยระบบขนส่งมวลชนอย่าง BTS หรือ MRT ส่วนทางริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็สามารถนั่งเรือชมหลีกหนีรถติดได้เช่นกัน โดยทั้ง 20 จุดชมงานศิลปะจะเริ่มจากเส้นทาง River Route ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่
1. ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่นี่จะมีการจัดแสดงผลงานต่างๆ ของ 2 ศิลปินด้วยกัน นั่นคือ ผลงาน “เรือมังกร” ขนาด 7.5 x 2 x 3.5 เมตร ของหวง หย่ง ผิง (ประเทศจีน) ที่สื่อความหมายถึงสัญลักษณ์แสดงอำนาจของประเทศจีน การค้าขาย รวมไปถึงการอพยพย้ายถิ่นฐานของผู้คน และผลงานของกลุ่มศิลปินโซล์ เอาท์ สตูดิโอ (ประเทศไทย, สหราชอาณาจักร และแอฟริกาใต้)
2. วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
ที่วัดอรุณฯ จะจัดแสดงผลงานของ 3 ศิลปินด้วยกัน อย่างเช่น ผลงาน “Giant Twins” ของคมกฤษ เทพเทียน (ประเทศไทย) เป็นลักษณะของรูปปั้นหินนักรบของจีนกับยักษาของไทย ดัดแปลงตามตำนานฝาแฝดสยามอินจัน แทนความสัมพันธ์ของไทย-จีน
และผลงาน “ข้ามจักรวาล” ของสนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ (ประเทศไทย) ตั้งอยู่บริเวณเขามอวัดอรุณฯ งานชิ้นนี้จะเตือนใจให้เราตระหนักถึงตัวตนของเราว่าเราเป็นเพียงแค่อนุภาคในจักรวาลอันยิ่งใหญ่
3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)
ต่อกันที่จุดที่สาม มีผลงานเด่นๆ ก็คือ "Zuo You He Che” ของหวง หย่ง ผิง (ประเทศจีน) ตั้งอยู่ในศาลามิสวัน โดยเป็นประติมากรรมสัตว์ในจินตนาการหัวเป็นสัตว์ต่อกับขาของมนุษย์ ในปากคาบม้วนคัมภีร์สิ่งที่เราอยากรู้ ซึ่งเป็นหนทางสู่ความสุขสงบของทั้งศาสนาพุทธและปรัชญาจีน และจัดตั้งไว้เหมือนเป็นทวารบาล 2 ข้างของประตู โดยขาซ้ายมีขนาด 276 x 122 x 130 ซม. ส่วนขาขวามีขนาด 293 x 125 x 114 ซม. นอกจากนั้นยังมีผลงานของศิลปินจากประเทศไทยจัดแสดงอยู่ ได้แก่จิตต์สิงห์ สมบุญ, ภาพตะวัน สุวรรณกูฏ, สาครินทร์ เครืออ่อน, ปานพรรณ ยอดมณี และธวัชชัย พันธุ์สวัสดิ์
4. วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
ภายในวัดมีจุดจัดแสดงผลงานอยู่หลายที่ด้วยกันอย่างภายในเขามอจะมีผลงานของกฤช งามสม (ประเทศไทย) คือ “Turtle Religion” โดยเป็นประติมากรรมเต่าเหล็ก 4 ตัว โดยแต่ละตัวจะแบกสัญลักษณ์ของ 4 ศาสนาในย่านคลองสานไว้ เพื่อแสดงถึงความกลมเกลียวกันของแต่ละศาสนาความเชื่อในย่านนี้ ได้แก่ พระบรมธาตุมหาเจดีย์ (ศาสนาพุทธ), โบสถ์ซางตาครู้ส (ศาสนาคริสต์), มัสยิดกุฎีขาว (ศาสนาอิสลาม) และศาลเจ้าเกียนอันเกงของชาวจีน
อีกจุดหนึ่งคือผลงานของเปาโล คานีวาริ (ประเทศอิตาลี) ชื่อว่า “อนุเสาวรีย์แห่งความทรงจำ” จะเป็นจิตรกรรมสีทองที่ปราศจากเนื้อหา ลักษณะเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ ความทรงจำ และการสวดภาวนาของทั้งศาสนาพุทธและคริสต์ ถูกจัดแสดงอยู่ในศาลาการเปรียญของที่วัด
5. โอ.พี.เพลส
ที่จุดที่ห้านี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่รวมผลงาน 8 ศิลปินไว้ด้วยกัน โดยมีการจัดแสดงไว้ที่ชั้น 3 ซึ่งมีหลายผลงานที่น่าสนใจอย่างเช่น ผลงาน “Becoming White” ของไอซ่า จ๊อคสัน (ฟิลิปปินส์) ซึ่งผลงานนี้ศิลปินแทน “ความสุข” ด้วยกลุ่มแรงงานข้ามชาติกลุ่มหนึ่ง และสะท้อนมุมมองที่มองว่า “การแสดงออกถึงความสุข” เป็นรูปแบบหนึ่งของการใช้แรงงาน ผ่านตัวละครเจ้าหญิงดิสนีย์อย่างสโนวไวท์ในการแสดงสด ที่จัดแสดงร่วมกับทั้งวัตถุ วิดีโอ และศิลปะการจัดวางเสียง
6. โรงแรมเพนนินซูล่า
จุดนี้มีความน่าสนใจอยู่ที่ผลงาน “Dye” ของกวิตา วัฒนะชยังกูร (ประเทศไทย) ที่เป็น HD video โดยศิลปินจะเปลี่ยนร่างกายตัวเองเป็นเข็มถักนิตติ้ง ที่จะถักทอชิ้นผ้าขึ้นมาจากการกระโดดลงจากพื้นที่ที่ถูกยกระดับให้สูงขึ้นจากพื้น
7. โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
เมื่อมาถึงหน้าทางเข้าโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล จะพบกับผลงาน “หมาหลง” ของออเรล (ประเทศฝรั่งเศส) ประติมากรรมหมาบลูด็อกตัวใหญ่สูง 5.90 เมตร นั่งอยู่ โดยหมาตัวนี้กำลังหาเส้นทางไปสู่ความสุข ท่ามกลางโลกที่วุ่นวายด้วยน้ำมือของเผ่าพันธุ์ที่ชื่อว่า “มนุษย์”
8. อาคาร บริษัท อีสต์ เอเชียติก
ที่จุดนี้เป็นจุดสุดท้ายของเส้นทางริมน้ำเจ้าพระยา โดยมีผลงานจัดแสดงอยู่มากมาย อย่างเช่นผลงาน “Zero” ของศิลปินคู่หู เอ็มกรีน แอนด์ แดรกเซท (ประเทศเยอรมนี) โดยเป็นสระว่ายน้ำตั้งฉากความสูง 8 เมตร ที่ทำจากแสตนเลสสตีล และรูปทรงนามธรรมที่เหมือนกับเลขศูนย์นี้จะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อเชิงสัญลักษณ์ระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับทะเลนอร์ดิก ตั้งแสดงอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
9. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
มาต่อกันที่ เส้นทาง City Route กันบ้างเริ่มที่หอศิลป์ฯ โดยที่นี่ได้รวมผลงานจากศิลปินถึง 30 คนด้วยกัน ซึ่งเมื่อเข้ามาถึงจะสะดุดตากับ “Basket Tower” ของชเว จอง ฮวา (ประเทศเกาหลี) ที่ว่าด้วยเรื่องโลกแห่งความสุขฉาบฉวยและขัดแย้งในตัวเองที่เราอยู่อาศัยกัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการที่เขาชอบเดินเล่นย่านเยาวราชในกรุงเทพฯ และซื้อพลาสติกมาใช้ในการทำงานศิลปะ
นอกจากนั้นยังมีผลงานจัดแสดงอยู่ที่ชั้น 7 และชั้น 8 อีกด้วย อย่างที่ชั้น 7 จะมีผลงาน “Genetic Manipulation” ของเฮริ โนโด (ประเทศอินโดนีเซีย) ที่เป็นการวิจารณ์วัฒนธรรมการเมืองอย่างมีอารมณ์ขัน ตัว Donosaurus ในเครื่องแบบที่มีเท้าเป็นมังกรโคโมโดยืนอยู่เป็นกลุ่ม โดยมีพัดลมสีเหลืองเป่าอยู่ที่บั้นท้าย
จากนั้นเข้าสู่จุดที่ 10-15 ได้แก่ สยามสแควร์วัน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่ (ชั้น G), สยามพารากอน (ชั้น 1), เซ็นทรัลเวิร์ล และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่(ชั้น G) จะเป็นการจัดแสดงผลงานทั้งด้านหน้าและในห้างสรรพสินค้า อย่างเช่นที่ เซ็นทรัลเวิร์ล จะมีผลงาน “14 Pumpkins” ของยาโยอิ คุซามะ (ประเทศญี่ปุ่น) เป็นประติมากรรมฟักทองลายจุดสีชมพู แดง และน้ำเงิน จัดแสดงอยู่บริเวณ Fashion Gallery 3
16. บ้านปาร์คนายเลิศ
ถัดมาในจุดที่ 16 ที่นี่จัดแสดงผลงานจาก 3 ศิลปินด้วยกัน อย่างเช่น ผลงาน “Shelter” ของมาร์ก ชมิทซ์ (ประเทศเยอรมนี) โดยประติมากรรมนี้ทำขึ้นจากไม้และเหล็ก ขนาด 220 x 250 ซม. ซึ่งศิลปินทำขึ้นเพื่อกรุงเทพฯ โดยเฉพาะ ศิลปินสื่อถึงพื้นที่ว่างเปล่าที่เราหาไม่ได้จากชีวิตในเมือง เป็นเหมือนที่กำบังให้เราพ้นจากความวุ่ยวายและจิตใจที่หม่นหมอง
17. สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ
ที่นี่มีผลงาน “Ma Mére” ของหยาน เพ่ย หมิง (ประเทศจีน) เป็นภาพวาดของมารดาของศิลปินที่เพิ่งเสียไป ขนาด 350 x 350 ซม. โดยศิลปินให้ความเห็นว่าผลงานชิ้นนี้เกิดจากความทรงจำที่มีต่อแม่ของเขา เป็นงานศิลปะที่ผ่านการลงสีซ้ำแล้วซ้ำเล่า แสดงออกถึงความคิดถึงบุคคลผู้ล่วงลับ
18. BAB Box ด้านหน้าวัน แบงค็อก
อีกหนึ่งจุดจัดแสดงผลงานที่ไม่ควรพลาดก็คือที่ BAB Box แห่งนี้นั่นเอง โดยเมื่อเข้าไปถึงจะพบกับผลงาน “อาณาจักรสัตว์” ของจานัน (ประเทศตุรกี) จะเป็นแดนสวรรค์ที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาสัตว์ในเทพนิยายอย่างเช่น มังกร นกฟินิกซ์ และงูสัตว์ประหลาดจากเทพนิยายแฟนตาซีที่ทั้งน่ารัก และพร้อมจะคุกคามโลกมนุษย์ได้พร้อมๆ กัน
และเมื่อขึ้นไปที่ชั้น 2 จะพบกับผลงาน “The Adventure of Sinxay” ของฮูปแต้ม กลุ่มจิตรกรจากภาคอีสานของประเทศไทยและประเทศลาว ซึ่งเป็นจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ 15 x 3.80 เมตร เป็นเรื่องราวการเดินทางของมหากาพย์ในวัฒนธรรมลาวเรื่องสังศิลป์ชัย ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจากเวียงจันทน์ข้ามแม่น้ำโขงมายังกรุงเทพฯ ที่เขาจะต้องเผชิญหน้ากับเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ ปีศาจ และกองทัพทหาร นอกจากนั้นยังมีผลงานอีกมากมายอย่างเช่น “เสาไม้และผลึกคริสตัล” ของมารีนา อบราโมวิช (อดีตสหพันธ์สาธารณรัฐ ยูโกสลาเวีย หรือ "ภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบ" ขนาด 250 x 374 ซม. ลักษณะเป็นบานพับ 3 บาน ของนที อุตฤทธิ์ (ประเทศไทย)
19. ดิเอ็มควอเทียร์
จุดนี้ผลงานจะจัดแสดงอยู่ทางด้านหน้าห้างเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่นผลงาน “Breathing Flower” ที่เป็นดอกไม้สีส้มเป่าลมขนาดใหญ่ ของชเว จอง ฮวา (ประเทศเกาหลี) รวมไปถึงยังมีผลงานของวิศุทธิ์ พรนิมิต ที่ได้วาด “น้องมะม่วง” ในหลายๆ ฟอร์แมตร ทั้งแอนิเมชั่นและโปสเตอร์ไว้ในจุดต่างๆ ในหลายพื้นที่ เหมือนน้องมะม่วงเป็นคนนำทางผู้ชมเดินเที่ยวงานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ครั้งนี้
20. เธียร์เตอร์ ออฟ อินดัลเจนซ์
สำหรับในจุดสุดท้ายนี้จัดแสดงผลงานของ 3 ศิลปินด้วยกัน โดยจัดแสดงอยู่บริเวณทางเข้าของเธียร์เตอร์ ออฟ อินดัลเจนซ์ อย่างเช่นผลงาน “Embryo 1- 10" ของตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ (ประเทศไทย) โดยศิลปินนำเสนอภาพถ่ายนางแบบสาวเปลือยเปล่า นอนเกยอยู่บนลำธารนิรนาม เป็นภาพของดินแดนมหัศจรรย์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสรวงสวรรค์และขุมนรก
*******************************************
หากใครสนใจสามารถตามไปชมผลงานศิลปะกว่า 200 ชิ้น จาก75 กลุ่มศิลปินชั้นนำทั่วโลก ที่จัดแสดงอยู่ตามจุดต่างๆ ทั้ง 20 จุดใจกลางเมือง ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2561-3 กุมภาพันธ์ 2562 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/bkkartbiennale และ www.bkkartbiennale.com
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
