โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ปส.รวบเครือข่าย“เจ้สมพร”ซุกยาบ้าในถังแก๊สตบตา-สกัดจับกัญชาล็อตใหญ่

สยามรัฐ

อัพเดต 19 พ.ย. 2561 เวลา 06.13 น. • เผยแพร่ 19 พ.ย. 2561 เวลา 04.20 น. • สยามรัฐออนไลน์
ปส.รวบเครือข่าย“เจ้สมพร”ซุกยาบ้าในถังแก๊สตบตา-สกัดจับกัญชาล็อตใหญ่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 พ.ย.61 ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รรท.รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิร รรท.ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัน อภิชาติเสนีย์ รองผบช.ปส. รวมกับแถลงข่าวการจับกุมขบวนการยาเสพติดรายสำคัญจำนวน 2 ราย ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน พร้อมของกลางบ้าจำนวน 300,000 เม็ด และกัญชาแห้งจำนวน 827 กิโลกรัม พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า คดีที่ 1 จับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ มีผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย นางสมพร หรือ เจ้สมพร แช่ลิ้ม อายุ 50 ปี นานเกรียงไกร อัศวเดชฤทธิ์ อายุ 36 ปี และน.ส.อนุธิดา แสงทอง อายุ 36 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 150 มัด ประมาณ 300,000 เม็ด รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 2 คัน โดยจับกุมได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง และต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง เกี่ยวพันเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ บช.ปส. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ทางหลวง ได้ร่วมกันสกัดกั้นกลุ่มคนไทยที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือเข้าสู่ตอนในของประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ในการลำเลียงยาเสพติด จึงได้เรียกตรวจค้นรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ณธ 1568 กรุงเทพมหานคร ที่จุดตรวจตรงจุดตรวจด่านแม่พริกพบนางสมพร แสดงตัวเป็นเจ้าของรถ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบด้วยอุโมงค์เอ็กซ์เรย์ พบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในถังแก๊สแอลพีจี จำนวน 150 มัด ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน สห 5556 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถขับนำเส้นทางได้ขับหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามจับกุมได้ที่ซอยแยกจากถนนสายเถิน-ทุ่งเสลี่ยม ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง พบนายเกรียงไกร ผู้ขับ และ น.ส.อนุธิดา นั่งมาในรถด้วยกัน จากนั้นได้ทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวไม่พบยาเสพติดภายในรถยนต์

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวต่อว่า สำหรับการซุกซ่อนยาเสพติดมาในถังแก๊สแอลพีจีนั้น เป็นการหลบเลี่ยงการตรวจค้นเนื่องจากหากมองด้วยตาเปล่าก็จะพบว่าเป็นเพียงถังแก๊สธรรมดา ซึ่งภายในถังแก๊สดังกล่าวเป็นการติดตั้งปลอมเพื่อหลอกตาเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อเปิดไปตรวจสอบภายในพบว่ามียาเสพติดซุกซ่อนเป็นจำนวนมาก คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. จับกุมเครื่อข่ายขนกัญชามีผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน นายชาญพงศ์ ผลจันทร์ อายุ 38 ปี นายชัยวัฒน์ มาตราช อายุ 26 ปี นายสมหมาย โยบุตดา อายุ 51 ปี นายเอกชัย โยบุตดา อายุ 51 ปี และนายวิทยา ศรีหะมงคล อายุ 37 ปี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งจำนวน 857 แท่ง น้ำหนักประมาณ 857 กิโลกรัม รถยนต์จำนวน 3 คัน โทรศัพท์จำนวน 8 เครื่อง และเงินสดจำนวน 27,000 บาท โดยจับกุมนายชาญพงศ์ และนายชัยวัฒน์ ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาวังมะนาว ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี จับกุมนายสมหมาย และนายเอกชัยได้ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และจับกุมนานวิทยา ได้ที่บริเวณด่านเก็บเงิน ถนนอโศก-ดินแดง แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. สืบทราบว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดเครือข่ายนายสมหมาย มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนในและในพื้นที่ภาคใต้ และทราบว่าในวันที่ 17 พ.ย. จะมีการลักลอบขนกัญชาไปส่งให้ลูกค้า โดยใช้รถยนต์ในการขนลำเลียงและคุ้มกัน จึงได้วางแผนจับกุมโดยวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ ระหว่างเฝ้าสังเกตการณ์พบรถยนต์ทะเบียน 1 ฒห6312 กรุงเทพมหานคร ขับไปตามถนนสระบุรี-หล่มสัก มุงหน้าจ.สระบุรี และพบรถยนต์ ทะเบียน 2 ฒก720 กรุงเทพมหานคร ขับตามหลังโดยมีรถยนต์ทะเบียน บม6075 สกลนคร วิ่งนำหน้าไป เมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น จากการตรวจค้นพบกัญชา จำนวน 875 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่โดยมีถุงแตงวางและถุงมันเทศทับข้างบนอยู่ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ รอง ผบก.ปส.2 เปิดเผยว่า สำหรับเครือข่ายของนายสมหมาย นั้นเป็นเครือข่ายที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าติดตามมานาน มีการทำงานเป็นครอบครัวแยกเป็นสาขาต่าง ๆ นอกจากนี้พบว่ามีการลักลอบทำมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว สำหรับกัญชาดังกล่าวได้มีการลักลอบขนว่ามาจากประเทศลาวโดยอยู่ในราคากิโลละ 4,500 บาทต่อกิโลกรัม โดยได้ขนส่งผ่านทางจังหวัดนครพนมลงมายัง จ.สงขลา เพื่อส่งออกไปยังประเทศมาเลเชีย ซึ่งจะอยู่ที่ราคา 20,000 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้หากมีการส่งไปยังประเทศที่ 3 ก็จะมีการสกัดเป็นน้ำมันกัญชาซึ่งจะมีมูลค่าสูงมากถึงเลข 6 หลัก โดยเมื่อเสร็จสิ้นการขนส่งก็จะได้เงิน 100,000 บาทต่อครั้งที่รับจ้างในการขน ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า สำหรับการขนกัญชาเข้ามาภายในประเทศไทยนั้น ไม่ได้เป็นการเตรียมการที่จะมีกฎหมายเรื่องของการปลดล็อกกัญชาอย่างแน่นอน เนื่องจากการปลดล็อกกัญชานั้นจะใช้กับกัญชาคนละเกรดกับที่ขนมา ซึ่งเป็นเฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ต้องการตรวจสอบอย่างละเอียด จนกว่าจะมีกฎหมายที่ชัดเจนออกมา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0