นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมปศุสัตว์เคยออกประกาศ เรื่อง ชะลอการนำเข้าหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกจากจีน ลงวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา โดยวิ้นสุดการบังคับใช้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น
แต่จนถึงขณะนี้ ยังมีรายงานเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง (HPAI) ในหลายพื้นที่ของจีน เช่น ในฟาร์มสัตว์ปีก มณฑลเหลียนนิง (ซีโรไทป์ H5N1) และฟาร์มสัตว์ปีก ในมณฑลยูนนาน (ซีโรไทป์ H5N6) ซึ่งโรคระบาดสัตว์ชนิดดังกล่าวสามารถแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางได้ โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่วยหรือสัตว์ที่เป็นพาหะนาโรคหรือซากของสัตว์ ซึ่งป่วยหรือตายโดยโรคระบาดดังกล่าวไปยังท้องที่ต่างๆ
ในการป้องกันไม่ให้โรคระบาดสัตว์ชนิดดังกล่าวมีโอกาสแพร่กระจายเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์ปีกรวมถึงสุขภาพของประชาชนในประเทศ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 ประกอบกับมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มีคำสั่ง ให้ชะลอการนำเข้า หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์ปีกและซากสัตว์ปีก ยกเว้น ขนสัตว์ปีกที่มาจากแหล่งผลิตที่ได้รับการตรวจรับรองจากกรมปศุสัตว์ และผ่านกระบวนการทำลายเชื้อโรคไข้หวัดนก ตามที่ระบุในคำแนะนำขององค์การสุขภาพสัตว์โลก (โอไออี) Terrestrial Animal Health Code หัวข้อ 10.4.22 และหัวข้อ 10.4.23 ที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี
- ล้างและอบแห้งที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที
- รมควันด้วยฟอร์มาลิน (10 % ฟอร์มาลดีไฮด์) เป็นเวลา 8 ชั่วโมง
- ฉายรังสีด้วยขนาด 20 กิโลเกรย์
ประกาศฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับได้เป็นเวลา 90 วันนับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป