โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ปวดหลังจนเพลีย เช็คซิว่ามาจาก 4 สาเหตุนี้หรือเปล่า

Health Addict

อัพเดต 21 ส.ค. 2562 เวลา 07.59 น. • เผยแพร่ 21 ส.ค. 2562 เวลา 07.57 น. • Health Addict
ใครที่เจอปัญหาปวดหลังรุมเร้าแก้ไม่หายสักที ทั้งทีก็พยายามปรับท่านั่งก็แล้ว ออกกำลังกายก็แล้ว ยังไม่หายสักที ลองมาเช็คดูว่าอาจจะเกิดจาก 4 สาเหตุนี้ก็ได้
ใครที่เจอปัญหาปวดหลังรุมเร้าแก้ไม่หายสักที ทั้งทีก็พยายามปรับท่านั่งก็แล้ว ออกกำลังกายก็แล้ว ยังไม่หายสักที ลองมาเช็คดูว่าอาจจะเกิดจาก 4 สาเหตุนี้ก็ได้

ใครที่เจอปัญหาปวดหลังรุมเร้าแก้ไม่หายสักที ทั้งทีก็พยายามปรับท่านั่งก็แล้ว ออกกำลังกายก็แล้ว ยังไม่หายสักที ลองมาเช็คดูว่าอาจจะเกิดจาก 4 สาเหตุนี้ก็ได้ 

#1 ภาวะขาดวิตามิน D 
ดร.สจ๊วต บี. ลีวิตต์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านอาการปวดหลังได้อธิบายไว้ว่า “บริเวณหลังช่วงล่างเป็นสิ่งที่เปราะบางอยู่แล้ว หากร่างกายขาดวิตามินดีด้วย ก็จะยิ่งทำให้บริเวณนั้นบาดเจ็บง่ายขึ้น” ซึ่งจริงๆ แล้ววิตามิน D นั้นร่างกายเราสามารถสังเคราะห์ได้จากแสงแดดยามเช้า แต่ถ้าการที่จะออกไปรับแสงแดดเพื่อเติมวิตามิน D ในตอนเช้าดูเป็นเรื่องที่ทำยากกันไปสักหน่อย เหล่าผู้เชี่ยวชาญจึงบอกไว้ว่าการรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของ “วิตามินดี”อย่างน้ำมันตับปลา ปลาเทราท์ ปลาแซลมอน ไข่แดง นมสด เนื้อหมู เนื้อไก่ ก็ได้เช่นกัน หรือจะเป็นอาหารเสริมจะแนะในปริมาณประมาณ 2,000 IU/วัน เพื่อช่วยเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรงขึ้นก็ช่วยได้เหมือนกัน 
#2 เครียด ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน 
หลายคนอาจจะงงว่าการที่เรารู้สึกอารมณ์ไม่ดี สภาพอารมณ์อันแปรปรวน เครียดง่าย หรือมีอาการซึมเศร้าอยู่บ่อยๆ อารมณ์เหล่านี้ส่งผลต่ออาการเจ็บปวด ปวดเมื่อยแก่ร่างกายได้ยังไง  ก็เนื่องจากความเครียดเป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อหดตัว ก็เลยส่งผลให้ปวดหลัง เจ็บขากรรไกร รวมทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับเอ็นตามกล้ามเนื้อได้  และรวมไปถึงในหลายๆ งานวิจัยที่ยืนยันกันมาแล้วว่าความเครียด ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็น ความดันโลหิตสูง อ่อนเพลีย กรดไหลย้อน แถมยังส่งผลในเรื่องของการนอนหลับอีกด้วย ซึ่งถ้าใครคิดว่าช่วงนี้ตัวเองเข้าข่ายอาการนี้อยู่ลองปรึกษาจิตแพทย์ดูถึงการแก้ไข หรือบำบัดสภาพจิต และอารมณ์ดู 
 #3 สภาพร่างกายไม่สมดุลกัน 
ในบางครั้งการที่ร่างกายของเรามีสภาพไม่สมดุลกันก็ทำให้เราเกิดอาการปวดหลังได้ อย่างภาวะขาดเเคลเซียม กล้ามเนื้อหลังอ่อนแอจึงทำให้การจัดเรียงของกระดูกสันหลังไม่ได้รูปตามธรรมชาติได้ แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอะไร ถ้ากระดูกไม่ได้เป็นกระดูกทับเส้นประสาท เพราะถ้าอย่างนั้นจะต้องมีอาการชาตามมือตามเท้าร่วมด้วย ซึ่งเราสามารถแก้ไขด้วยการเริ่มควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยวัดจากดัชนีมวลกาย รับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยแคลเซียม อย่างพวกปลาตัวเล็กๆ ถั่วอัลมอนด์ รวมไปถึงการออกกำลังกายควบคู่ไปอย่างโยคะ การรำกระบอง แต่ให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ทำให้เกิดแรงกระแทกต่ออวัยวะส่วนต่างๆ เช่น กีฬาที่ต้องออกแรงวิ่ง กระโดด หรือยกน้ำหนัก 
 #4 มีการอุดตันของอวัยวะภายใน 
ใครที่เป็นสายท้องผูกอยู่บ่อยๆ แบบ 3-4 วันถึงจะได้ฤกษ์สักที ลองสังเกตดู เพราะนี่อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราปวดหลังได้เหมือนกัน  เนื่องจากการที่เราท้องผูกจะทำให้เกิดแรงดันในช่องท้อง และส่งผลให้มีอาการปวดหลังส่วนช่วงล่างแถวๆ บริเวณบั้นเอวได้ ทางที่ดีลองดื่มน้ำให้มากขึ้น กินผัก ผลไม้ ธัญพืช และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอดูว่าอาการปวดหลังดีขึ้นมั้ย 
สุดท้ายแล้วถ้าลองสังเกตอาการ และปรับจาก 4 สาเหตุนี้แล้ว อาการปวดหลังยังไม่ดีขึ้น แนะว่าควรที่จะรีบไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุ และทางแก้ที่ถูกต้องจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดนะ ก่อนที่อาการปวดหลังจะลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่
 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0