การประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน PM2.5 นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรุงเทพมหานคร กองบังคับการตำรวจจราจร กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมฝนหลวงและการบินเกษตร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อร่วมกันทบทวนและวางมาตรการเชิงรุก แก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เกินมาตรฐาน ว่า ปัจจัยสำคัญของการเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ส่วนสำคัญคือเรื่องของสภาพอากาศที่เป็นช่วงอากาศปิด อากาศค้างอยู่กับที่ และจากปัญหาของระบบการขนส่งสาธารณะที่เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการปลดปล่อย PM2.5 จากรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการเผาในที่โล่งแจ้งด้วย ทั้งนี้ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดปริมณฑล ให้มีการประชาสัมพันธ์และกำชับกับประชาชนในการขอความร่วมมือที่จะช่วยกันลดแหล่งกำเนินการเกิด PM2.5
ซึ่งหน่วยงานงานอื่นๆที่เข้ามาหารือร่วมกัน ได้วางแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย กรมควบคุมมลพิษ ที่จะเป็นหน่วยงานสำหรับตรวจสอบวัดคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง และประสานการทำงานกับหน่วยงานอื่นๆเพื่อช่วยกันหาแนวทางและปรับเปลี่ยนการลดแหล่งการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในทุกมิติ โดยได้ขอความร่วมมือไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ที่มีรถโดยสารสาธารณะอยู่ในการรวบคุมประมาณ 2,800 คัน จะเริ่มปรับเปลี่ยนการใช้น้ำมัน B20 และในอนาคตจะดำเนินการเปลี่ยนรถโดยสารให้เป็นรถที่ใช้พลังงาน NGV / รถไฟฟ้า และไฮบริด ประมาณ 3,000 คันในปี 2565
ด้านกองบังคับการตำรวจจราจร จะเพิ่มจุดตรวจควันดำจาก 12 จุดเป็น 20 จุด เพื่อดำเนินการตรวจจับควันดำอย่างเคร่งครัดในรถทุกชนิด และหากตรวจพบว่าเกินค่ามาตรฐานจะสั่งระงับการนำมาใช้วิ่งบนท้องถนน จนกว่าจะนำไปแก้ไขเพื่อให้ผ่านตามมาตรฐานการตรวจวัด ซึ่งล่าสุดได้ตรวจจับระงับการวิ่งไปแล้วกว่า 650 คัน ในส่วนของการจอดรถบนถนนเส้นหลัก จะสั่งห้ามจอดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดด้วย
ส่วนกรมควบคุมโรคและกรมอนามัย ได้แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยขณะที่ต้องอยู่กลางแจ้ง เพื่อลดความเสี่ยงการสะสมฝุ่นละอองของร่างกาย ส่วนหน้ากากอนามัย N95 สามารถสวมใส่ได้แต่ต้องศึกษาวิธีการสวมใส่ที่ถูกต้อง และสามารถใช้หน้ากาอนามัยปกติสวมใส่แทนได้ โดยใช้ทิชชูซ้อน 2 ชั้น ก็สามารถทดแทนได้เช่นกัน โดยขอความร่วมมือกับทุกหน่วยงานรวมถึงประชาชนว่า ให้ช่วยกันลดการทำกิจกรรมใดๆที่ก่อให้เกิดการปลดปล่อยฝุ่นละออง เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวผ่านพ้นในช่วงภาวะวิกฤตนี้
