เรียกว่าเป็นคดีที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากรณีที่ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือชื่อที่รู้จักกันดีในแวดวงพริตตี้ ว่า “ลันลาเบล" วัย 25 ปี เสียชีวิตปริศนาบนโซฟาในล็อบบี้ชั้นล่างคาซ่าคอนโด รัชดา-ราชพฤกษ์ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ปรากฏบาดแผลใดๆ รวมทั้งไม่มีพยานระบุว่า ผู้ตายมานอนเสียชีวิตตรงจุดดังกล่าวตั้งแต่เมื่อใด เนื่องจากขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บริเวณล็อบบี้
ในเวลาต่อมา จึงพบว่ามีบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตในครั้งนี้ ก็คือนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือ "น้ำอุ่น" ซึ่งพักอยู่ที่คอนโดดังกล่าว และอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย
สำหรับพื้นที่ตรงนี้ ขอเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาประมวลให้เห็นภาพกันชัดๆ อีกครั้ง
ว่ากันว่าน้ำอุ่นเป็นคนอุ้มลัลลาเบลในสภาพที่เมามายหมดสติขึ้นไปยังห้องพักบนคอนโดดังกล่าวในช่วงเวลาประมาณ18.00 น. ภายหลังที่กลับจากงานปาร์ตี้ที่บ้านย่านบางบัวทอง ซึ่งจากคำกล่าวอ้างของฝ่ายชาย ก็คือในระหว่างปาร์ตี้นั้น ฝ่ายหญิงมีทีท่าว่าจะชอบพอกัน หลังจากจบงาน จึงพามาที่คอนโดดังกล่าว แต่ยืนยันไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพสกันแต่อย่างใด
จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. น้ำอุ่นตื่นขึ้นมาและพบว่าฝ่ายหญิงตัวเย็น จึงรีบโทรตามโม (ที่รับงานให้) กับเพื่อนให้มารับ หลังจากนั้นจึงอุ้มร่างของลัลาเบลมาทิ้งไว้ที่โซฟา จนเมื่อเพื่อนและแฟนหนุ่มของลัลาเบลมารับ ก็พบว่าเธอเสียชีวิตไปแล้ว จึงรีบแจ้งตำรวจ ขณะที่ไม่สามารถติดต่อกับน้ำอุ่นได้อีกเลย
จากการวินิจฉัยเบื้องต้น พบว่าลันลาเบลเสียชีวิตมาประมาณ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งถ้านับจากเวลาที่กลุ่มเพื่อนมาพบศพในเวลาประมาณตี 3 ย้อนกลับไป 6-8 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น ก็คาดว่าน่าจะเสียชีวิตประมาณ 3 ทุ่ม นั่นหมายถึงว่า ขณะที่น้ำอุ่นพาลัลลาเบลขึ้นไปยังห้องพักนั้น เธอยังไม่เสียชีวิต
โดยผลการตรวจชันสูตรช่องคลอดของผู้ตายอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าช่องคลอดฉีกขาด มีสารคัดหลั่งตกค้างอยู่ในช่องคลอด ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นสารคัดหลั่งของผู้ใด ขณะที่สาเหตุแห่งการเสียชีวิตนั้น ระบุได้เพียงเกิดจากการที่หัวใจเต้นผิดจังหวะเเละมีภาวะหัวใจวาย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีความนั้น คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางกฎหมายว่าจะหาข้อสรุปเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตในครั้งนี้อย่างไร !!???
แต่ว่ากันว่า น่าจะมีเรื่องของ “ยา” ชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า “จีเฮชบี” (GHB) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จริงเท็จอย่างไร ? คงต้องรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน เมื่อลองประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง ก็พบว่ามีแง่มุมที่ดูเหมือนจะผิดปกติอยู่หลายจุดด้วยกัน
ประการแรก ต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรณีของการว่าจ้างพริตตี้ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีการแบ่งแยกประเภทงานเป็น 5 ลำดับชั้นด้วยกัน โดยรายละเอียดงาน และสนนราคาค่าจ้างก็จะแตกต่างกันออกไป กล่าวคือ…
งานเอ็น คือโฟกัสเฉพาะแค่เป็นเพื่อนดื่ม เพื่อนกิน ซึ่งส่วนใหญ่นัดที่แจ้ง เช่นผับ ร้านอาหาร ราคา มีตั้งแต่ 1,500 ขึ้นไปงานเอ็นแรง ลักษณะคล้ายข้อแรก แต่ถึงเนื้อถึงตัวตัวมากกว่า ส่วนใหญ่นัดที่บ้าน หรือคอนโด สนนราคาค่าจ้างอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทขึ้นไป
งานเอ็นอัพ ลักษณะคล้ายข้อแรก บวกข้อสอง แต่มีเพิ่มเติมก็คือมีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรทราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท
งานภายนอก คือ มีเพศสัมพันธ์แบบไม่สอดใส่ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7,000-15,000 บาท
ลำดับสุดท้ายคืองานวี หมายถึงการว่าจ้างที่สามารถมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ได้ ซึ่งเรทราคาก็จะถีบตัวสูงขึ้นไปถึงหลัก 15,000-50, 000 บาท
สำหรับกรณีของลัลลาเบลนั้น เทียบกับเรทค่าตัวที่ได้รับตามคำบอกเล่าของเจ้าขางงาน ที่ว่าจ้างในเรท 3,000 บาทนั้น แสดงว่าอยู่ในหมวดข้อสอง หรือสาม นั่นหมายถึงว่าจ้าง ให้มาเฉพาะกิน-ดื่ม และเอ็นเตอร์เทนแขกที่มาร่วมงาน ไม่ได้เน้นการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งก็สอดคล้องกับช่วงเวลาของการจัดงานปาร์ตี้ดังกล่าว ซึ่งจัดในช่วงบ่ายจนถึงเย็น ไม่ใช่ช่วงกลางคืน
ประการที่สอง ตัวของลัลลาเบล ขับรถไปที่บ้านงานด้วยตัวเอง แสดงว่าไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนกับใครต่อหลังจากเสร็จงาน เพราะถ้ามีเจตนาจะไปที่อื่น ก็น่าจะเลือกเดินทางโดยแท็กซี่มากกว่า
ประการต่อมา โดยธรรมชาติของบรรดาพริตตี้ด้วยกันนั้น ส่วนใหญ่มักจะผูกมิตรกัน พึ่งพาอาศัยกัน เพราะสามารถส่งต่องานให้กันและกันได้ และเมื่อได้รับการว่าจ้างให้มาร่วมในงานเดียวกัน ก็มักจะช่วยดูแลซึ่งกันและกัน จึงไม่น่าที่จะปล่อยให้ลัลลาเบล ออกไปกับน้ำอุ่นตามลำพังได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมที่เป็นคนรับงานให้ ก็อยู่ในงานด้วย ก็น่าจะต้องเซฟเด็กในสังกัดมากกว่านี้หรือ ไม่ ? อย่างไร ?
ที่สำคัญ ลัลลาเบลเอง ก็มีคนข้างหลังรออยู่ที่บ้าน ทั้งสามี และลูกในวัย 3 ขวบ เพราะฉะนั้น ก็ไม่น่าจะปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพเมามายโดยที่ไม่มีการยับยั้งชั่งใจขนาดนี้
นอกเสียจากว่ามีใครรู้เห็นเป็นใจ หรือมีเงื่อนงำอื่นใดเคลือบแฝง !!!???
สำหรับเส้นทางกว่าจะการก้าวขึ้นมาเป็นพริตตี้ตัวท็อปของลัลลาเบลนั้น เธอเกิดและเติบโตในกรุงเทพฯ จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม ก่อนจะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณา มหาวิทยาลัยรังสิต เริ่มต้นก้าวย่างเข้าสู่วงการพริตตี้เต็มตัว ตั้งแต่ปี 2559 มีผลงานถ่ายแบบกับนิตยสารแนวเซ็กซี่หลายฉบับ และยังผ่านเวทีการประกวดสาวแม็กซิมในปี 2560 ก่อนจะคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวที Men and Women Fashion 2017 ตามด้วยได้รับรางวัลอันดับ 2 จากแคมเปญ Gulf Girl Gang 2019 ตามหาพริตตี้สาวสวยมากความสามารถ ทั้งยังเป็น Top 40 ของ Playboy Bunny 2019
นอกจากนั้น ยังเคยออกรายการโทรทัศน์มาหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นแฟนฉันเป็นซุปตาร์ , I Can See Your Voice รวมไปถึงแสดงมิวสิกวิดีโอเพลง “ลำยอง 2019W ให้กับนักร้องลูกทุ่งหนุ่ม “เบลล์ ทรงสิทธิ์” รวมถึงผลงานล่าสุด ก็คือมิวสิกวิดีโอเพลง "เสียงของความสำเร็จ" ของ “เอิร์ก เลเดอเรอร์”
สำหรับทางด้านชีวิตครอบครัวนั้น ลัลลาเบลมีสามีแล้ว ชื่อนายณัฐนัย หอมเทียนทอง อายุ 31 ปี และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน วัย 3 ขวบ โดยที่มาของชื่อลัลลาเบลนั้น เจ้าตัวเคยเปิดเผยในรายการทีวีรายการหนึ่งว่า ตั้งขึ้นมาเอง ชื่อเล่นจริงๆ คือเบล
ส่วนน้ำอุ่น หรือไออุ่น ผู้ต้องสงสัย ซึ่งถูกแฉพฤติกรรมส่วนตัวว่า เป็นผู้ชายล่าแต้ม และชอบอวดเรื่องผู้หญิงในโลก โซเชียลนั้น เคยมีผลงานแสดงในบท “แหลม” รุ่นพี่คณะวิศวะฯ ในซีรีส์ดัง “เดือนเกี้ยวเดือนเดอะซีรีส์ 2” (2Moons2) ซึ่งแม้จะมีบทเพียงไม่กี่ตอน แต่ชาวเน็ตก็ยังอุตส่าห์จำได้ และนำข้อมูลมาแชร์กันสนั่นในโลกออนไลน์
ล้อมกรอบ
ทำความรู้จักกับยา จีเฮชบี (GHB) ที่ว่ากันว่าเป็นชนวนของการเสียชีวิต
GHB หรือ Gamma - Hydroxybutyrate ในยุโรปรู้จักกันในชื่อ gamma-oh ในอเมริกาเรียกว่า GHB จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518
GHB เป็นสารที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย จึงพบได้ทั่วไปในเซลล์ของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในทางการแพทย์ได้มีการนำ GHB ที่สังเคราะห์ขึ้นมาใช้เป็นยาสลบ ยานอนหลับ ยารักษาภาวะง่วงหลับ (narcolepsy) ใช้สำหรับช่วยในการคลอด ตลอดจนใช้รักษาผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรัง (alcoholism)
นอกเหนือจากการใช้ยาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ข้างต้นแล้ว ยังพบว่าได้มีการนำ GHB มาใช้เพื่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (body-builder) ด้วย เนื่องจาก GHB มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการหลั่งของ growth hormone และกระตุ้นกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนของร่างกาย ภายหลังการใช้ยานี้แล้วยังทำให้ผู้ใช้มีความรู้สึกสบาย เกิดภาวะคล้ายผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ มีความเคลิบเคลิ้มเป็นสุขและช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ซึ่งฤทธิ์ยาในลักษณะดังกล่าว เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ยาเบี่ยงเบนวัตถุประสงค์ของการใช้ยาไปในทางที่ผิดได้
GHB ที่นิยมใช้มักจะอยู่ในรูปของเกลือโซเดียม รูปแบบที่ใช้อาจเป็นผง เม็ด แต่ส่วนใหญ่จะใช้อยู่ในรูปของสารละลายที่ละลายในน้ำ มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี มีรสเค็ม และมักจะรู้จักกันในชื่อ liquid x หรือ liquid e
การออกฤทธิ์ของ GHB จะกดประสาทในระยะแรก คือลดอาการวิตกกังวล ช่วยให้นอนหลับ และทำให้สลบ (ขึ้นอยู่กับขนาดของยาที่ใช้) แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยาจะกลับรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ไม่เกิดอาการเมาค้างเช่นเดียวกับที่เกิดจากการใช้ยากดประสาทโดยทั่วไป
ร่างกายดูดซึม GHB ได้ดีเมื่อให้โดยการรับประทาน ระยะเวลาที่ยาเริ่มออกฤทธิ์ 5 – 20 นาที ระยะเวลาในการออกฤทธิ์นาน 1.5-3 ชั่วโมง ผลสุดท้ายของการเผาผลาญ GHB จะได้คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ กระบวนการเผาผลาญนี้จะเกิดขึ้นค่อนข้างสมบูรณ์ ภายหลังจากการฉีด GHB ไปแล้ว 4-5 ชม. จะไม่สามารถตรวจพบ GHB ในปัสสาวะ
อาการไม่พึงประสงค์ และข้อควรระวัง
อาการอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจาก GHB เป็นอาการที่ไม่รุนแรง ได้แก่ อาการง่วงนอน มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน เคลื่อนไหวลำบาก แต่ในขนาดยาที่สูงมาก อาจทำให้เกิดการกดการทำงานของหัวใจ กดการหายใจ ชักและหมดสติ
การใช้ GHB โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่นใช้ในขนาดที่สูงมาก หรือใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์และยากดประสาทชนิดอื่น ๆ จะทำให้เกิดการชัก การหายใจถูกกดและหมดสติได้ นอกจากนี้ขนาดยาที่ทำให้ถึงระดับการออกฤทธิ์ในแต่ละบุคคล อาจจะแตกต่างกันมากจนไม่อาจจะคาดหมายได้ การนำยามาใช้ในทางที่ผิดโดยไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์ อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
ชื่อเรียกในตลาดมืด
liquid ecstacy, liquid e, liquid x, GBH, gamma-oh, blue verve
การใช้ GHB ในทางที่ผิด
จากข้อมูลการใช้ยาในทางที่ผิดในต่างประเทศ พบว่าในปัจจุบันได้มีการนำ GHB มาใช้ทดแทน ยาอี หรือ ecstacy (3,4-methylen-edioxymethamphetamine, mdma) เนื่องจากมีฤทธิ์ที่คล้ายคลึงกัน คือทำให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกพึงพอใจกับการถูกสัมผัส และมีความรู้สึกเคลิบเคลิ้มเป็นสุข โดยจะเตรียมอยู่ในรูปสารละลายบรรจุอยู่ในขวดเล็กๆ ( ประมาณ 30-50 มล.) ขนาดยาสำหรับการเสพแต่ละครั้งใช้ตวงจาก 1 ฝาของขวด
บทกำหนดโทษ
ผู้เสพ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1ปี – 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท – 100,000 บาท (มาตรา 106 ตรี)
ผู้ผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท – 400,000 บาท (มาตรา 89)
3
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 21-27 กันยายน 2562
