ปรินดา โพธิ์กัณฑ์ ปิดฉากอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 นำรวดม้วนเดียวจบ 14 อันเดอร์พาร์ 202 คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 600,000 บาท ขณะที่กุลธิดา พราหมพันธุ์ สวิงทีมชาติชุดเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย รั้งรองแชมป์ที่8 อันเดอร์พาร์ 208 จากศึกไตรแซงชั่นปิดฤดูกาล “ พีทีที ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ส 2018” ชิงเงินรางวัลรวม 4 ล้านบาท ที่สนามปัญญาอินทรา กอล์ฟ คลับ พาร์ 72 ระยะ 6,420 หลา เมื่อวันที่ 21 กันยายน
รอบสุดท้ายของการชิงชัย “โปรเบสท์” ปรินดา โพธิ์กัณฑ์ วัย 22 ปีจากขอนแก่น อดีตมือ 1 ไทยแอลพีจีเอทัวร์เมื่อปี 2017 เก็บได้อีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 จาก 5 เบอร์ดี้ที่หลุม 6,8,10,15 และ 17 โดยเสียสองโบกี้ที่หลุม 5 และ 18 นำรวดม้วนเดียวจบ 14 อันเดอร์พาร์ 202 คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 600,000 บาท และเป็นโปรสาวไทยรายที่ 6 ที่คว้าแชมป์รายการนี้ต่อจาก โปรแหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ(ปี 2013-2015),โปรสายป่าน-ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์(ปี 2016),โปรอ๊าย-ศรัณย์พร ลางคุลเกษตริน(ปี 2017)
ขณะที่ “น้องป๊อบ” กุลธิดา พราหมพันธุ์ วัย 17 ปีจากร.ร.อัมพรไพศาลปากเกร็ด สวิงทีมชาติชุดเอเชี่ยนเกมส์ 2018ที่อินโดนีเซีย เจ้าของเหรียญทองแดงทีมหญิงจากศึก เวิลด์ จูเนียร์ เกิร์ล แชมเปี้ยนชิพ 2018ที่แคนาดา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จบ 5 อันเดอร์พาร์ 67 รับรางวัลตีดีประจำวันมูลค่า 8,000 บาท และ รั้งรองแชมป์ที่สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 208
ปรินดา กล่าวหลังคว้าแชมป์ว่า “วันนี้ตี 3 อันเดอร์สามวัน 14 อันเดอร์ค่ะ ดีใจมากที่คว้าแชมป์ได้สำเร็จ ทุกปีค่อนข้างตีดีกับสนามนี้แต่ได้แค่ลุ้นได้แชมป์ ปีนี้ได้แชมป์ก็รู้สึกภูมิใจและดีใจกับตัวเองมาก แม็ทช์นี้ถือเป็นการวอร์มอัพให้หนูไปแข่งควอลิฟายที่ญี่ปุ่นในสเตจสอง สาม และสี่ค่ะ ขอกำลังใจเชียร์หนูด้วยนะคะ ส่วนเกมการเล่นวันนี้หนูพยายามโฟกัสกับตัวเองและเล่นให้สนุกที่สุดค่ะ และวันนี้หนูก็ทำได้ค่ะ ไม่กดดันตัวเองเพราะสกอร์ก็นำห่างด้วยค่ะ แชมป์ครั้งนี้ทำให้หนูได้สิทธิ์เล่นในออสเตรเลียแอลพีจี และขยับอันดับในไชน่าแอลพีจีเอได้ไปเล่นบริติชวีเม่นส์โอเพ่นด้วยค่ะ”
“อยากขอบคุณสนามปัญญาอินทรากอล์ฟคลับ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ปตท. กกท.สิงห์ เบทาโกร และใจดีฟาวเดชั่น ที่สนับสนุนให้เกิดรายการนี้ คุณพ่อคุณแม่ สต๊าฟทุกคน เพื่อนพี่น้องและเด็กๆที่เข้ามาชมและเชียร์ ถ้าขาดคนใดคนหนึ่งแม็ทช์นี้คงไม่เกิดขึ้นค่ะ “
ส่วนกุลธิดา เป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นคนเดียวที่ผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายและทำผลงานได้ถึงรองแชมป์กล่าวว่า “ วันนี้ตีจบที่ 5 อันเดอร์พาร์ รวมสามวันมี 8 อันเดอร์ค่ะ เกินเป้าที่ตั้งไว้ว่าอยากจบท็อปเทน ที่ทำให้ตีดีในรายการนี้เพราะได้แข่งแม็ทช์ใหญ่ๆก่อนหน้ามา2-3 รายการ ทำให้เก็บช็อตที่เคยพลาดมาแก้ไขในแม็ทช์นี้ หลังจากนี่ก็จะซ้อมเป็นปกติและมีแผนว่าจะเทิร์นโปรในกลางปีหน้าค่ะ “
ด้านโปรสายป่าน-ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ วัย 20 ปีจากร้อยเอ็ด แชมป์เก่าปี 2016 ที่รักษาทัวร์การ์ดในแอลพีจีเอทัวร์ 2018ได้ในอันดับ 78 จบเข้ามาในลำดับที่ 3 ร่วมที่ 6 อันเดอร์พาร์ 210 รั้งอันดับสามร่วมกับ มันชิน คีห์จากนิวซีแลนด์ โปรในออสเตรเลียเอพีจี และปาร์ค จิน ฮี จากเกาหลีใต้ โปรจากไชน่าแอลพีจีเอทัวร์ รับเงินรางวัลไปคนละ 313,333 บาท
สำหรับโปรเปียโน-อาภิชญา ยุบลวัย 16 ปีจากสระบุรี มือ 1 ไทยแอลพีจีเอทัวร์ 2018 เจ้าของสถิติคว้า 5 แชมป์ติดต่อกันจบที่ 16 ร่วมที่ 2 อันเดอร์พาร์ 214 รับเงินรางวัล 6,2800 บาท และโปรอ๊าย-ศรัณย์พร ลางคุลเกษตริน แชมป์เก่าปีก่อน มือ 1 ไชน่าแอลพีจีเอทัวร์เมื่อปี 2017 จบที่ 47 ร่วมที่สกอร์ 5 โอเวอร์พาร์ 221 รับเงินรางวัล 21,000 บาท
ส่วนซูเปอร์สตาร์ดาวดังในแอลพีจีเอทัวร์ที่กลับมาเล่นในบ้านเกิดหลังจากห่างหายไปนานนับปี ได้แก่ โปรปลาย-พัชรจุฑา คงกระพันธ์ ทำได้ 3 อันเดอร์พาร์ 213 ในลำดับที่ 13 ร่วม ขณะที่โปรกิ๊ฟท์-เบญญาภา นิภัทร์โสภณ ทำได้อีเว่นพาร์ 216ในอันดับที่ 26 ร่วม และโปรแชมเปญ-เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ จบที่ 31 ร่วมสกอร์ 2 โอเวอร์พาร์ 218
และในช่วงบ่ายของวันนี้ สองพี่น้องโปรเม-เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟมือ 2 ของโลก และโปรโม-โมรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟมือ 14 ของโลก ได้ร่วมแสดงความยินดี สร้างสีสันให้งานแจกรางวัลอย่างมาก
