"ปรินซ์" ชี้หากฟุตบอลไม่มีแข้งผิวดำคงน่าเบื่อ-เร้าสังคมต้านเหยียดมากกว่านี้

เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง แข้งตัวยืมของเบซิคตัส บอกว่าหากวงการฟุตบอลไม่มีผู้เล่นผิวดำคงเป็นอะไรที่น่าเบื่อ ในการสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นต่อต้านการเหยียดผิวที่เป็นกระแสหลักของโลกในเวลานี้

แข้งทีมชาติกาน่าเคยเดินออกจากสนามหลังจากโดนเหยียดในช่วงที่เล่นเกมอุ่นเครื่องให้เอซี มิลาน เมื่อปี 2013 และเขาก็แสดงจุดยืนต่อต้านมาโดยตลอด
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดประเด็นขึ้นหลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำวัย 46 ปีชาวสหรัฐอเมริกา ที่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมรุนแรงเกินกว่าเหตุโดยใช้เข่ากดที่คอด้านหลังขณะที่เขานอนคว่ำหน้าอยู่ที่พื้น
ก่อให้เกิดการประท้วงลุกลามทั่วสหรัฐอเมริกา ขณะที่วงการฟุตบอลก็เริ่มมีปฏิกิริยาสนับสนุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บัวเต็ง ให้สัมภาษณ์กับสกายสปอร์ต ถึงความสำคัญของกลุ่มคนผิวดำกับวงการต่างๆว่า "ลองทำเรื่องหนึ่งนะ เอาคนผิวดำออกไปจากกีฬาและเอาดาราผิวดำทุกคนออกจากหนัง คิดว่ามันจะเป็นยังไง? น่าเบื่อ"
"ผมอยากให้มีวันหนึ่งเป็นวันที่ผู้เล่นผิวดำไม่ไปทำงาน อาจจะเอาเป็นวันเกิดของจอร์จ ฟลอยด์ก็ได้ ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่อยากไปทำงานหรือไม่เคารพสโมสร แต่เพื่อเป็นเกียรติให้ชุมชนคนผิวดำ"
เมื่อถามว่านั่นควรเป็นสิ่งที่คนอื่นๆ(นอกจากผิวดำ)ควรมีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ "แน่นอนสิ ลองนึกข้อความที่มันจะถูกสื่อสารออกมาหากคนผิวขาวยืดหยัดกับเรา ถ้าพวกเขาบอกว่า -ผมจะไม่ไปซ้อม- หรือ -ผมจะไม่ไปทำงาน- หรือ -ผมจะไม่ลงเล่น- คิดดูว่าถ้ามันเป็นวันเสาร์พอดี วันที่มีแข่ง มันคงเป็นข้อความที่สำคัญมาก"
เกี่ยวกับปฏิกิริยาของวงการฟุตบอลในเรื่องนี้ บัวเต็งยกตัวอย่างการที่ทีมลิเวอร์พูลร่วมกันคุกเข่าแสดงสัญลักษณ์
"ผมเห็นลิเวอร์พูลคุกเข่าซึ่งนั่นเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่กับเรา แต่โดยรวมแล้วฟุตบอลกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ? ก็ไม่มากนะ มีโฆษณาทางโทรทัศน์หรือป้ายเวลาทีมเดินลงสนาม มันยังไม่พอหรอก มันช้าไปแล้วแต่ไม่มีคำว่าช้าเกินไป เราต้องตื่นตัวกัน"
เมื่อถามว่าสังคมโดยรวมช่วยกันเพียงพอหรือยัง เขาบอกว่า "แน่นอนว่าไม่ เราต้องคุยกัน เราต้องเสียงดังกว่านี้ เราต้องใช้เซเชียลมีเดียที่วันนี้มันเป็นแพล็ตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุด"
"คนอาจจะบอกว่าตนเองมีผู้ติดตามแค่ 100 คน แต่คุณอาจจะโน้มน้าวพวกเขาได้ 50 คนก็ได้ แค่แสดงให้เห็นว่าคุณในฐานะคนผิวขาวอยู่กับเรา นั่นก็มอบพลังให้เรามากแล้ว เราเชื่้อว่าคุณอยู่ข้างเราเพราะงั้นเราก็จะได้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ"
"ตอนนี้ยังไม่มีใครทำได้มากพอ เรื่อง #BlackOutTuesday ก็ไม่พอ มันง่ายเกินไป"
"คนเรากลัวที่จะยืนหยัดกับอะไรสักอย่าง ยืนหยัดที่จะพูดบางอย่าง เพราะเรื่องของสปอนเซอร์หรือผู้ติดตามจำนวนมาก การโพสต์ภาพสีดำมันง่ายเกินไป"
"มันเป็นข้อความที่สวยงามแต่ผมหัวเสียเพราะคนทำมันง่ายๆ ถ้าคุณชี้นิ้วไปที่พวกเขา พวกเขาก็จะบอกว่า -แต่ผมโพสต์ภาพไปแล้วนะ- แค่ภาพมันไม่มีความหมายอะไรกับผมเลย" เขากล่าว