ปรับเดลตา กีดกันชาวมุสลิม

กระทรวงคมนาคมสหรัฐสั่งปรับสายการบิน เดลตา แอร์ไลน์ เป็นจำนวนเงิน 50,000 ดอลลาร์ (1,525,200 บาท) เพื่อยอมความนอกศาล ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวมุสลิม 3 คน ที่ถูกสั่งให้ลงจากเครื่องบิน

กระทรวงคมนาคมสหรัฐกล่าวในคำสั่ง ที่ได้รับความยินยอมจากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายว่า ผลการสอบสวนของกระทรวงฯ พบว่า เดลตา แอร์ไลน์ มีการกระทำที่เข้าข่าย "เลือกปฏิบัติ" และเป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ จากการสั่งผู้โดยสาร 3 คน ให้ลงจากเครื่อง
ในเหตุการณ์หนึ่งเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 สามีภรรยาชาวมุสลิมคู่หนึ่ง ถูกสั่งให้ลงจากเที่ยวบินเดลตา 229 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์ลส์ เดอ โกล ชานกรุงปารีส ฝรั่งเศส หลังจากผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งที่มีที่นั่งใกล้กัน บอกพนักงานต้อนรับบนเครื่องว่า พฤติกรรมของสามีภรรยาคู่นี้ทำให้เธอ "วิตกกังวลและอึดอัดใจมาก"
ผู้โดยสารหญิงกล่าวว่า นางเอ็กซ์ (นามสมมุติ) สวมผ้าคาดศีรษะ ส่วน นายเอ็กซ์ (นามสมมุติ) ผู้เป็นสามี สอดสิ่งของบางอย่างใส่ในนาฬิกาข้อมือ และแอร์โฮสเตส กล่าวเสริมว่า เธอเห็นนายเอ็กซ์ส่งข้อความสั้นในโทรศัพท์มือถือ โดยใช้คำว่า "อัลเลาะห์" หลายครั้ง
กัปตันเที่ยวบิน 229 ติดต่อขอข้อมูลไปยังฝ่ายความมั่นคงของเดลตา แอร์ไลน์ ซึ่งตอบกลับมาว่า นายและนางเอ็กซ์ เป็นพลเมืองอเมริกัน และกำลังจะเดินทางกลับประเทศ ทั้ง 2 คนไม่มี "ธงแดง" หรือความเกี่ยวพันกับกลุ่มหัวรุนแรงหรือก่อการร้าย ในฐานข้อมูลความมั่นคง แต่กัปตันยังยืนยันให้ 2 สามีภรรยาลงจากเครื่อง
เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นกับผู้โดยสารชายชาวมุสลิมรายหนึ่ง บนเที่ยวบินเดลตา 49 จากสนามบินกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ที่กำลังจะออกเดินทางสู่นครนิวยอร์กในสหรัฐ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2559 ผู้โดยสารรายนี้ถูกแอร์โฮสเตสสั่งลงจากเครื่อง หลังได้รับการร้องเรียนพฤติกรรมน่าสงสัยจากผู้โดยสารรายอื่นเช่นกัน.