โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ปรับตัวเร็ว-อัดฉีดรางวัล คีย์ซักเซส...แอมเวย์

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 05 ธ.ค. 2562 เวลา 11.37 น. • เผยแพร่ 05 ธ.ค. 2562 เวลา 11.37 น.
13-2p1
**อยู่คู่กับธุรกิจขายตรงเมืองไทยมานานกว่า 32 ปีแล้ว สำหรับ “แอมเวย์” บริษัทขายตรงเบอร์ 1 ของเมืองไทย

จากยอดขายในปีแรกที่ทำได้กว่า 60 ล้านบาท จนสิ้นปี 2561 ที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลายสวนกระแส โดยมียอดขายมากกว่า 19,000 ล้านบาท แน่นอนว่า นอกจากเรื่องของ คุณภาพสินค้า ระบบขายตรงที่มีมาตรฐาน แล้ว แอมเวย์ ยังมีทีมงานนักธุรกิจอิสระที่แข็งแกร่ง เป็นปัจจัยเกื้อหนุนอีกแรง

ล่าสุด “กิจธวัช ฤทธีราวี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์ ถึงภาพรวมของตลาดและกลยุทธ์การดำเนินงาน…ดังนี้

แม่ทัพใหญ่ แอมเวย์ ระบุว่า วันนี้ แม้ภาพรวมของตลาดขายตรงที่มีมูลค่าตลาดรวมราว ๆ 7 หมื่นล้านบาท จะอยู่ในภาวะช่วงชะลอตัว จากปัจจัยเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า ที่กระทบต่อภาคธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม อีกด้านหนึ่งก็ต้องรับมือกับการแข่งขันในธุรกิจ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากเทคโนโลยีดิสรัปชั่น แต่จากการปรับตัวและการวางยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีส่วนทำให้ผลการดำเนินงานสำเร็จตามเป้าที่วางไว้

พร้อมกันนี้ “กิจธวัช” ยังย้อนเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา แอมเวย์ ได้ปรับโครงสร้างรายได้ของนักธุรกิจทุกระดับ ด้วยโปรแกรมคอร์พลัส (Core Plus+) เพื่อเพิ่มรายได้ช่วงเริ่มต้น ทำให้ได้ผลตอบแทนทันที ตั้งแต่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชิ้นแรก

เขาย้ำว่า โปรแกรมนี้มีจุดแข็งหลัก ๆ ใน 3 เรื่อง คือ 1. ช่วยให้นักธุรกิจใหม่เริ่มต้นทำธุรกิจได้เร็วขึ้น 2.ทำให้นักธุรกิจได้รับเงินรางวัลและลำดับขั้นความสำเร็จ โดยจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20-30% และ 3.ช่วยให้นักธุรกิจระดับผู้นำสามารถทำรายได้อย่างต่อเนื่อง

หลังจากเริ่มใช้โปรแกรมคอร์พลัสมา 2 เดือน ทำให้มียอดการสมัครสมาชิกใหม่เติบโตเฉลี่ย 30% ส่วนผลประกอบการ ปีนี้คาดว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 7-8%

โดยสินค้าที่ทำรายได้หลัก ๆ สัดส่วนจะมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์และอาร์ทิสทรี แบรนด์เครื่องสำอาง ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์กลุ่มบ้านและเทคโนโลยี แอมเวย์ยังมีฐานลูกค้าเดิมที่สั่งซื้อผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ถือว่าสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

ปัจจุบัน แอมเวย์ มีนักธุรกิจตัวแทนจำหน่ายประมาณ 330,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนรุ่นใหม่ถึง 2 ใน 3 นอกจากนี้ยังมีสมาชิกผู้ใช้สินค้าอีกมากกว่า 720,000 ราย

“กิจธวัช” ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ที่มีความสะดวกและรวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทขายตรงทุกบริษัทต้องปรับตัวทั้งการพัฒนาสินค้า การเพิ่มช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะการให้น้ำหนักกับช่องทางออนไลน์ อาทิ แพลตฟอร์มเว็บไซต์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

จากไปนี้ยุทธศาสตร์ของแอมเวย์ในปี 2563 ต้องเตรียมสร้างแอปพลิเคชั่นมาร์เก็ตเพลซ เพิ่มช่องทางขายสินค้าแอมเวย์ เพื่อรองรับการเติบโตของยุคดิจิทัลที่กำลังมาแรง โดยมีจุดเด่น คือ มีขั้นตอน สั่งสินค้าได้ง่าย และส่งสินค้าเร็ว เพื่อเติมเต็มเครื่องมือออนไลน์ให้กับนักธุรกิจ ซึ่งจะเห็นได้ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพ เทียบเท่ากับมาร์เก็ตเพลซอื่น ๆ

อีกด้านหนึ่ง ยังต้องเตรียมพร้อมระบบโลจิสติกส์ขยายศูนย์กระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

“ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การปลดล็อกให้นักธุรกิจสามารถใช้สื่อโซเชียล แพลตฟอร์มในการทำธุรกิจได้ จากเมื่อในอดีตที่ผ่านแอมเวย์จะไม่อนุญาตให้นักธุรกิจ ใช้ช่องทางออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์สินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ

หัวใจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่ แอมเวย์ ทำมาอย่าางต่อเนื่องก็คือ การเดินหน้าพัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยการนำเสนอโซลูชั่นผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคลมากขึ้น โดยยึดหลัก consumer centric หรือการยึดความต้องการของผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและกลุ่มความงาม เพื่อสร้างการแตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น ล่าสุด ได้ลอนช์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ “นิวทริไลท์ ดับเบิ้ล เอ็กซ์ ไฟโตเบลนด์” โดยพัฒนาสูตรจากเดิมที่ติดอันดับผลิตภัณฑ์ขายดีของแอมเวย์ พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ และมาร์กี้-ราศรี เพื่อสื่อสารแบรนด์ไปถึงผู้บริโภคอย่างครอบคลุมตามมาด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเครื่องกรองอากาศ “แอทโมสเฟียร์ สกาย” รวมถึงด้านผลิตภัณฑ์ความงามที่ แอมเวย์ ได้ต่อยอดเทรนด์เพอร์เซอนัลไลซ์ ได้แก่ อาร์ทิสทรี ซิกเนเจอร์ ซีเล็กต์ มาสค์ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ แม่ทัพ แอมเวย์ ยังย้ำในตอนท้ายว่า “แม้ในอนาคตแอมเวย์จะปรับตัวเข้าสู่ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น แต่บริษัทจะยังไม่ทิ้งระบบการขายแบบเดิม และทั้ง 2 ช่องทางจะเดินหน้าไปพร้อมกัน และบริษัทต้องการที่จะบาลานซ์ยอดขายของทั้งสองช่องทางมีสัดส่วนเท่า ๆ กัน”

จากยุทธศาสตร์ที่วางไว้ดังกล่าว จะส่งผลให้ แอมเวย์ ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดขายตรงได้ต่อเนื่อง และมีเป้าหมายว่า อีก 5 ปีข้างหน้า จะมียอดขายทะลุ 3 หมื่นล้านบาท

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0