ไปกินหมาล่ากัน! นี่คือคำชวนจากเพื่อนนักกินที่มักจะตระเวนหาของกินอร่อยๆ ทั่วกรุงเทพ พอได้ยินว่า “หมาล่า” เราก็ได้แต่งงเป็นไก่ตาแตก หมาล่าคืออะไร? จะชวนไปกินหมาเหรอ? มันเกิดคำถามในหัวขึ้นมากมาย แต่หลังจากเปิดใจลองแล้วก็พบว่า เห้ย! อร่อยเฉยเลย
จริงๆ แล้วหมาล่าคือเครื่องเทศรสเผ็ดชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยคำว่า “หมา” หมายถึงอาการชาที่ปลายลิ้น ส่วนคำว่า “ล่า” หมายถึงรสชาติเผ็ดนั่นเอง ซึ่งส่วนประกอบที่ทำให้หมาล่ามีรสชาติเผ็ดจนลิ้นชาได้ก็คือเครื่องเทศที่มีชื่อว่า "ฮวาเจียว" หรือพริกไทยเสฉวน มีลักษณะคล้ายกับเม็ดพริกไทยดำที่เราเคยเห็นกันทั่วไป
ด้วยรสชาติจัดจ้านและความเผ็ดจนชาที่ปลายลิ้น ทำให้หมาล่ากลายเป็นที่นิยมนำมาปรุงอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นหมาล่าในรูปแบบบาร์บีคิวเสียบไม้ปิ้ง ชาบู น้ำซุป และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งประโยชน์ของเม็ดฮวาเจียวนอกจากจะนำมาทำเป็นเครื่องปรุงในอาหารแล้ว ยังนิยมนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของยาแผนจีนเพื่อบำรุงร่างกายอีกด้วย ไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ยล่ะ
ประโยชน์ของพริกหมาล่าที่รู้แล้วต้องร้องซี๊ดดด!
- มีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงหัวใจ เลือด ลดความดันโลหิต
- มีธาตุสังกะสี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงไม่ป่วยง่าย
- ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการอักเสบในลำคอ
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านเชื้อราและเชื้อไวรัสในร่างกาย
- แก้อาการวิงเวียนศีรษะ แก้หวัด คัดจมูก
- แก้ไข้ ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย
- ขับระดูในสตรี และช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ
- ขับลมในกระเพาะอาหาร กระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวของลำไส้ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าความเผ็ดจนลิ้นชานี้จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเมื่อทานเข้าไปเป็นจำนวนมากหรือไม่ แต่การทานอาหารที่มีรสเผ็ดมากเกินไป อาจทำให้กระเพาะอาหารระคายเคือง จากการที่กระเพาะผลิตกรดออกมาย่อยอาหารมากเกินความจำเป็น จนทำให้เกิดอาการปวดท้องหรือแสบท้องได้ ฉะนั้นเราแนะนำให้ทานหมาล่าในปริมาณที่พอดีจะดีกว่า
