ช่วงนี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ผู้สมัครนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขยันลงพื้นที่พบประชาชนเป็นพิเศษ เช่น ที่บางแค ตลาดนัดจตุจักร แล้วมีผู้สมัคร พปชร.ลงพื้นที่หาเสียงต่อ ทำเอาหลายพรรคกังขา เป็นการตรวจราชการหรือหาเสียงทางอ้อมกันแน่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหนึ่งในผู้สมัครเข้าชิง “นายกรัฐมนตรี” เหมือนกัน
คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เลยสะกิด คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่ทำเฉยว่า ควรไปตรวจสอบเสียหน่อย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่
คุณอภิสิทธิ์ ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ลาออกจากนายกรัฐมนตรี หลังจากที่รับเชิญ พรรคพลังประชารัฐ ลงสมัครเป็น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ควรจะทุ่มเททำงานเชิงนโยบาย สะสางปัญหาที่คั่งค้างอยู่ แต่จากที่สังเกตพบว่า การลงพื้นที่ของนายกฯที่ผ่านมา ไม่ได้ตอบโจทย์ดังกล่าว คนกรุงเทพฯอาจไม่หวั่นไหวกับการใช้อำนาจรัฐ แต่คนต่างจังหวัดอาจมีหวั่นไหวกับอำนาจรัฐบ้าง กกต. จึงต้องสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ถูกต้อง เหมือนอารยประเทศ จึงจะทำให้การเมืองดีขึ้น
ก็เห็นด้วยกับ คุณอภิสิทธิ์ ผมเชื่อว่า การแข่งกันอย่างแฟร์ๆ แบบอารยประเทศจะทำให้มาตรฐานการเมืองไทยดีขึ้น ประชาชนจะได้เรียนรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้องมากขึ้น
สองวันก่อน นสพ.มติชน ไปสัมภาษณ์ รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองปัจจุบันว่า พรรคไหนจะได้คะแนนเสียงเท่าไหร่ เป็นการประเมิน “เกมการเมือง” ที่จะเกิดขึ้นในอีก 33 วันข้างหน้าได้อย่างน่าสนใจยิ่ง
หลัง เหตุการณ์วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ทำ “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ที่ คุณทักษิณ ชินวัตร เคยบอกกับลูกพรรคที่ไปหา แต่ไม่บอกว่าเซอร์ไพรส์เรื่องอะไร ทำให้ ทษช. ถูก กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค ซึ่งจะครบกำหนดชี้แจงในวันนี้ รศ.ดร.สิริพรรณ ให้จับตา เกมที่ 2 ของคุณทักษิณ คือ “เกมโหวตโน” โดยการ ระดมโหวตในพื้นที่เลือกตั้ง 25 เขต ซึ่งจะทำให้ กกต.ไม่สามารถประกาศผลเลือกตั้งอย่างน้อย 95% หรือ ส.ส. 475 คนภายใน 60 วัน แต่ไม่รู้ว่าเกมนี้จะ ออกมาอย่างไร
รศ.ดร.สิริพรรณ ประเมินว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) ส่งผู้สมัคร ส.ส.เขต 250 เขตไม่ส่งผู้สมัคร 99 เขต (เป็นเขตที่ ทษช.ส่งผู้สมัครเพื่อหวังคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ถ้า ทษช. ถูกยุบ 99 เขต ก็จะว่าง) ทั้ง 99 เขต เป็นคะแนนของ พท. ในการเลือกตั้งปี 54 ที่ 2.3 ล้านเสียง เท่ากับ ส.ส.ประมาณ 30 ที่นั่ง
ผู้สมัคร 250 เขตของ พท. ถือเป็นเกรดไพรม์บวกๆ มีโอกาสได้ ส.ส. เขต 250 เขตสูงมาก ใน 250 เขต มีเขตที่ พท.เคยชนะทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อถึง 200 เขตในการเลือกตั้งปี 54 ดังนั้น 200 เขตที่ พท.เคยชนะ น่าจะได้ที่นั่งไม่ต่ำกว่า 170 บวก ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเชื่อว่าคนที่เคยโหวตให้ พท.จะไม่ข้ามไปโหวตให้ พปชร.
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รศ.ดร.สิริพรรณ ประเมินว่าเท่าที่คุยกับคนในพื้นที่พบว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 10 ล้านใบได้ผล โดยเฉพาะกับคนชั้นล่างสุดของสังคมที่หาเช้ากินค่ำ แต่ถามว่า 10 ล้านใบจะเวิร์กสักกี่ล้านใบ คิดว่าคงไม่ถึงครึ่ง ถ้าประเมิน พปชร.ยังยืนยันว่าจะได้ไม่เกิน 100 ที่นั่ง อยู่ระหว่าง 70–80 ที่นั่ง อดีต ส.ส.จากพรรคอื่น 55 คน อาจได้รับเลือกบางส่วน เช่น กำแพงเพชร สุโขทัย นครปฐม สมุทรสาคร ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เคยได้ 159 ที่นั่ง จะได้น้อยลง แต่ไม่ควรต่ำ 100
รศ.ดร.สิริพรรณ ได้ตั้งคำถามขนาดใหญ่ว่า ถ้า พปชร. ได้เสียงน้อยมาก ต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย พรรคที่มาร่วมรวมกันแล้วไม่ถึง 250 เสียง หรือ 250 เสียงปริ่มๆ โดยต้องไป อาศัยเสียง ส.ว.250 เสียง โอกาสที่จะเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพจะเกิดขึ้นยาก
ฟังแล้วก็ทำให้ว้าเหว่อีกแล้ว ไม่รู้อนาคตประเทศไทยจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร จำเพลง Whatever will be will be กันได้ไหม แต่ผมอยากให้เป็นอย่างเพลง lmagine ของ The Beatles คนไทยทุกคนจะได้อยู่กันอย่างสันติสุขจริงๆเสียที.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
