โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ประเด็นร้อนบอลไทย : อดีต 11 เด็กไทยสุดน่าทึ่งของบุรีรัมย์

TNN ช่อง16

อัพเดต 17 มิ.ย. 2562 เวลา 10.28 น. • เผยแพร่ 17 มิ.ย. 2562 เวลา 10.28 น. • TNN Thailand
ประเด็นร้อนบอลไทย : อดีต 11 เด็กไทยสุดน่าทึ่งของบุรีรัมย์
ประเด็นร้อนบอลไทยสัปดาห์นี้ เปลี่ยนมาอ่านเรื่องสบายๆกันบ้างครับ เอาใจแฟนบุรีรัมย์ กันหน่อย ว่าหาก 11 นักเตะชุดนี้ของบุรีรัมย์ ยังอยู่กับทีม แล้วได้ลงสนามพร้อมกันอะไรจะเกิดขึ้น มันจะสุดขนาดไหน

สวัสดีครับ แฟนๆ คอลัมน์ "ประเด็นร้อนบอลไทย" ทุกท่าน กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังสัปดาห์ที่แล้ว เป็นปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ก่อนอื่นก็คงต้องขอแสดงความยินดีกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กลับไปยึดบัลลังก์จ่าฝูงศึกไทยลีก 1 ได้อีกครั้ง หลังบุกไปเอาชนะการท่าเรือฯ ถึง "แพท สเตเดี้ยม" ด้วยสกอร์ 3-1

ส่วน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ไม่ทราบว่าคิดผิดคิดถูก กับการถอด โค้ช ยูน จอง ฮวาน ออก แล้วให้ อเล็กซานเดร กาม่า เข้ามาทำหน้าที่แทน เมื่อพวกเขาบุกไปพ่ายชลบุรี ของโค้ชสะสม พบประเสริฐ 0-2 ทำให้อันดับคะแนน ยังจมอยู่ในโซนตกชั้นต่อไป ต้องหนีตกชั้นกันอย่างเป็นทางการ หลังผ่านการแข่งขันไปแล้วทั้งหมด 14 จาก 30 นัด

วันนี้ "ประเด็นร้อนบอลไทย" ขอพักเรื่องเกมฟุตบอลในลีก ไว้ก่อนสัก 1 สัปดาห์ นะครับ มาดูเรื่องผ่อนคลายกันสักนิด เพราะช่วงทีผ่านมาผมเห็นเด็กดาวรุงของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หลายคน เติบโต และกำลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งกับสโมสร และทีมชาติ ตั้งแต่ ศุภชัย ใจเด็ด , สุภโชค สารชาติ , รัตนากร ใหม่คามิ ฯลฯ ผมก็เลยมานั่งย้อนคิดดู ว่าถ้าอดีตเด็กไทยดาวรุ่ง ที่พวกเขาปล่อยไปแล้ว และกำลังปล่อยยืม รวมถึงลูกครึ่งที่พวกเขานำเข้ามาด้วยนะ ว่าหากเขาพวกนั้นยังอยู่ ทีมจะเจ๋งขนาดไหน ใน 11 ตำแหน่ง

ระบบ 4-4-1-1

ผู้รักษาประตู : ขวัญชัย สุขล้อม (พีที ประจวบ)

นายด่านดาวรุ่งรายนี้สร้างชื่ออย่างสุดๆ กับ พีที ประจวบ เอฟซี เมื่อซีซั่นที่แล้ว จนก้าวขึ้นไปมีชื่อในทีมชาติชุดใหญ่ก่อนตัดตัวบ้างแล้ว ตอนนี้เขาถูก "ปราสาทสายฟ้า" ปล่อยตัวเพื่อมาเก็บประสบการณ์ เพื่อมาเป็นตัวแทนของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน หาก "เจ้าแชมป์" ปลดระวาง  ยิ่งเป็นคนบุรีรัมย์แบบนี้ด้วย เชื่อได้เลยว่ามือ 1 ในอนาคตของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเป็นขวัญชัย อย่างแน่นอน

แบ็คขวา : นิติพงษ์ เสลานนท์ (การท่าเรือ)

แบ็คพลังเทอร์โบ วัย 26 ปี โชว์ฟอร์มได้ดีกับ สระบุรี เอฟซี จนไปเตะตาแมวมองของบุรีรัมย์ ทำให้ได้มีโอกาสย้ายมาอยู่กับ "ปราสาทสายฟ้า" เมื่อเลกสอง ของปี 2014 โดยเจ้าตัวมีโอกาสได้ลงสนาม เนื่องจาก สุรีย์ สุขะ บาดเจ็บในช่วงนั้น และโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ "เจ้าเปรม" จะหายเจ็บกลับมา และยึดตำแหน่งคืน ทำให้ "น้องนนท์" ถูกปล่อยมาแจ้งเกิดกับการท่าเรือ เอฟซี จนปัจจุบันนี้

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : นัสตพล มาลาพันธ์ (พีที ประจวบ)

ปราการหลังรายนี้กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ พีที ประจวบ เอฟซี ในขณะนี้ โดย "ต่อพิฆาต" ยืมตัวมาใช้งานในซีซั่นนี้ หลังจาก ชลบุรี เอฟซี เคยเช่าไปใช้งานถึง 2 ปีครึ่ง ซึ่ง "เจ้าเอี้ยง" เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยอายุปัจจุบัน เพียง 25 ปี เชื่อว่าเขาจะกลับไปเป็นกำลังหลักให้กับบุรีรัมย์ อย่างแน่นอนในเร็วๆนี้

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : ปฏิภาณ อุ่นอบ (เชียงใหม่ เอฟซี)

คนนี้ก็เป็นดาวรุ่งอีกคน ที่บุรีรัมย์ ไปดึงตัวมาจากชลบุรี เพื่อมาปั้นให้เป็นกองหลังชั้นนำของประเทศ ทว่าอาการบาดเจ็บของน้อง รวมถึง การเบียดตำแหน่งกองหลังช่วงปี 2015-2017 ในทีม "ปราสาทสายฟ้า" มีการแข่งขันที่สูงมาก ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสรับใช้ทีมเพียงไม่กี่นัด ก่อนจะถูกปล่อยยืม และขายออกจากทีมให้กับ ไทยฮอนด้า เมื่อปี 2017 โดยกองหลังหน้าหล่ออยู่กับ เชียงใหม่ เอฟซี ในปัจจุบัน

แบ็คซ้าย : อับดุลฮาฟิส บือราเฮง (พีทีที ระยอง)

ตำแหน่งนี้ผมบอกตรงๆ ว่าเลือกยากมากๆ เนื่องจากตั้งแต่ทีมก่อตั้งก็มีเพียง ธีราทร บุญมาทัน ที่ยึดตัวจริงมาตลอด ก่อนจะมี สถาพร แดงศรี มาต่อสัมปทาน ในช่วงสั้นๆ และเป็น กรกช วิริยอุดมศิริ ที่มายึดตัวจริงในปัจจุบัน แต่ทาง อับดุลฮาฟิส จากนราธิวาสคนนี้ เคยได้รับการคาดหมายว่าจะมาเป็นตัวแทนของ "เจ้าอุ้ม" ในช่วงแรก ทว่าตอนนี้ทีมก็ส่งไปเก็บประสบการณ์กับ พีทีที ระยอง รวมถึงเล่นได้น่าสนใจ คาดว่าทีมเตรียมนำกลับมาใช้งานเร็วๆนี้อย่างแน่นอน

ปีกขวา : อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (ทรู แบงค็อก)

ก็ต้องพูดตามตรงว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่บุรีรัมย์ ตัดสินใจปล่อย อานนท์ ออกจากทีม ด้วยข้อจำกัดที่การแข่งขันของทีมค่อนข้างสูง น้องอยู่กับทีมมาตั้งแต่เป็นอคาเดมี่ ก่อนถูกดันขึ้นทีมชุดใหญ่ในปี 2014 ด้วยวัยเพียง 17 ปี และสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้่กับแฟนบอล ด้วยลีลาการเล่นกระชากลากเลื้อย การสร้างสรรค์เกม และทำทางให้กับเพื่อนร่วมทีม สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยการมาเล่นกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี (บีจี ปทุม) ในซีซั่นที่แล้ว แต่ที่สุดแล้วทีมก็ตัดสินใจขายมาอยู่กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ด้วยเม็ดเงินกว่า 20 ล้านบาท

มิดฟิลด์ : ชารีล ชัปปุยส์ (เอสซีจี เมืองทอง)

รายนี้อาจไม่ใช่นักเตะที่ทีมสร้างขึ้นมา แต่ก็ไปควานหามาจาก สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่เจ้าตัวอายุ 21 ปี ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา ทำให้เป็นขวัญใจของแฟนบอลตั้งแต่วินาทีแรกที่ทุกคนเห็น โดย ชัปปุยส์ เป็นกำลังสำคัญให้กับทีมตลอดในช่วงย้ายเข้ามาใหม่ ด้วยการเล่นที่ดุดัน วางบอลแม่น คุมเกมแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม จนติดทีมชาติไทย ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงได้อีกเลย และย้ายมาอยู่กับสุพรรณบุรี ก่อนจะมาอยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน

มิดฟิลด์ : เชาวัฒน์ วีรชาติ (บีจี ปทุม)

"อินซ์" เป็นเด็กสร้างขนานแท้ของ "ปราสาทสายฟ้า" น้องมาอยู่กับบุรีรัมย์ตั้งแต่ยังเด็กด้วยวัยเพียง 14 ปี ในปี 2011 และขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในปี 2014 ด้วยวัยเพียง 17 ปี นับเป็นนักเตะที่แม่ยกเยอะอย่างยิ่ง เนื่องจากน้องหน้าตาน่ารัก ผิวพรรณดี ส่วนในสนามก็เป็นนักเตะที่เล่นฟุตบอลได้อย่างโดดเด่น ในเรื่องของการคุมจังหวะเกม และลูกตั้งเตะที่ได้ลุ้นอยู่ตลอด ก่อนที่จะเป็น บางกอกกล๊าส ขออาสาเอาไปปั้นต่อ ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบันนี้

ปีกซ้าย : ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา (ราชบุรี มิตรผล)

นักเตะรายนี้ก็เป็นอีกคน ที่มาอยู่ในอคาเดมี่ของทีมพร้อมกับ เชาวัฒน์ และถูกโปรโมทขึ้นชุดใหญ่ ในปีเดียวกัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ครั้งแรกๆที่เห็น น้องเล่นได้สะเด่ามาก จนคอมเม้นต์เธียร์เตอร์ อย่าง โค้ชสะสม ต้องตั้งฉายาให้ว่า "เด็กนรก" จากสปีดความเร็วของน้องทีกระชากหาย และยิงประตูได้อย่างเฉียบคม แต่ก็อีหรอบเดิม เมื่อการแข่งขันในทีมสูง ทีมก็ต้องปล่อยไปให้น้องมีโอกาสลงสนาม ก่อนจะเป็น ราชบุรี มิตรผล ที่ดึงมาใช้งานตั้งแต่ปี 2016 และเป็นกำลังหลักให้กับ "ราชันมังกร" อยู่จนถึงตอนนี้

หน้าต่ำ : สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ (การท่าเรือ)

น่าเสียดายจริงๆ เนื่องจากกูรูหลายคนเคยฟันธงเอาไว้เลยว่า นี่แหละ คือมิดฟิลด์ ที่ทีมชาติไทยตามหามานานแสนนาน ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน ไหวพริบรอบตัว รวมทั้งลูกยิงไกลอันทรงพลัง แต่ติดตรงที่เจ้าตัวมีปัญหาด้านทัศนคติ ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะได้ลงสนามให้กับทีมเลย ก่อนจะถูกปล่อยยืม และปล่อยให้กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในปี 2016 และ บียู ก็ส่งต่อมาให้กับ การท่าเรือ เอฟซี ในฤดูกาลนี้

หน้าเป้า : สิทธิโชค กันหนู (ทรู แบงค็อก)

ในปี 2015 ที่ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต มีอาการบาดเจ็บเกือบทั้งฤดูกาล นักเตะต่างชาติรายอื่นๆ ก็เล่นกันไม่ค่อยดี ทีมจึงตัดสินใจดัน "เจ้าไอซ์" ขึ้นมาเป็นความหวังในแดนหน้า น้องก็เป็นอีกคนที่มาจากอคาเดมี่ของทีม ซึ่งแม้จะไม่สามารถทำประตูให้กับทีมได้มากนัก แต่ก็เป็นคนทำประตูสำคัญให้ "ปราสาทสายฟ้า" ได้หลายนัด จนแฟนบอลหลายคนชอบในความขยันและทุ่มเท ทว่าที่สุดแล้วทีมก็ตัดสินใจขายให้กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด มาใช้งานในปี 2018

นี่ก็คือ บรรดานักเตะไทย ที่บุรีรัมย์ สร้างขึ้นมา หรือบางคนก็ไปคว้าตัวมาตั้งแต่อายุยังน้อย ที่ไม่ได้อยู่กับทีมแล้ว น่าคิดนะครับ ว่าถ้าแข้งเหล่านี้ยังอยู่กับ "ปราสาทสายฟ้า" แล้วยังมีพวก ศุภชัย , สุภโชค , รัตนากร หรือเจเนเรชั่นใหม่หลายๆคน ของบุรีรัมย์ ในปัจจุบัน ทีมจะน่ากลัวขนาดไหน เพราะมันจะเต็มไปด้วย เด็กพรสวรรค์สูง ที่พร้อมจะทำลายล้างคู่แข่งได้ในทุกนาทีเลยทีเดียว

                                                                                                            NickyMAN

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0