โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ประเด็นร้อนบอลไทย : บทเรียนฟุตบอลที่ "บีจี" ไม่ขอพลาดอีก

TNN ช่อง16

อัพเดต 16 ธ.ค. 2562 เวลา 07.18 น. • เผยแพร่ 16 ธ.ค. 2562 เวลา 07.18 น. • TNN Thailand
ประเด็นร้อนบอลไทย : บทเรียนฟุตบอลที่
ประเด็นร้อนบอลไทย ฉบับนี้ ขอพูดถึง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หลังพวกเขาเสริมทีมอย่างบ้าคลั่ง ในการเตรียมความพร้อมก่อนลุยซีซั่น 2020 เชื่อว่าบทเรียนจากการที่เคยตกชั้น ทำให้ปีนี้ กระต่ายแก้ว เลือกที่จะไม่ประมาทเช่นนั้นอีกแล้ว

สวัสดีครับ!! แฟนๆคอลัมน์ และ แฟนๆของ TNNSPORTS ทุกท่านนะครับ วันนี้ "ประเด็นร้อนบอลไทย" กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้ง ในฉบับที่ 21 ซึ่งต้องบอกเลยว่า เหลืออีกเพียง 2 สัปดาห์สุดท้าย เราก็จะข้ามปี 2019 เข้าสู่ปี 2020 กันแล้วนะครับ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเลยเนอะ

สำหรับประเด็นร้อน ที่เราจะมาคุยกันวันนี้ เดี๋ยวสลับมาคุยเรื่องไทยลีก กันบ้างดีกว่าครับ หลังจากที่ผมไปพูดถึง ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2019 มาถึง 2 ฉบับติดต่อกัน โดยเรื่องที่ผมอยากจะคุยวันนี้ เป็นเรื่องของทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นจากไทยลีก 2 ขึ้นมา อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เนื่องจากพวกเขาเป็นทีมที่สร้า่งความฮือฮาในตลาดนักเตะได้อย่างคึกคัก ชนิดที่เรียกว่าแต่งตัวอย่างรวดเร็วจริงๆ เดี๋ยวเราไปว่ากันครับใน " บทเรียนฟุตบอลที่ "บีจี" ไม่ขอพลาดอีก"

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือในชื่อเดิม บางกอกกล๊าส เอฟซี เป็นอดีตทีมยักษ์ใหญ่ของไทยลีกทีมหนึ่ง ซึ่งเทคโอเวอร์มาจาก สโมสรธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งต้องบอกเลยว่าครบ 10 ปี ของการก่อตั้งสโมสรพอดี ทว่าพวกเขาต้องตกลงไปเล่นในศึกไทยลีก 2 ในซีซั่นที่ผ่านมา จากอุบัติเหตุฟุตบอลที่เขาว่ากันในปี 2018 อย่างน่าเหลือเชื่อ

หากย้อนกลับไปในปี 2018 ทัพ "กระต่ายแก้ว" เสริมทัพได้อย่างน่ากลัว เมื่อปีนั้นพวกเขาทุ่มเม็ดเงินมหาศาล คว้าตัว ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติไทยมาจาก เชียงราย ยูไนเต็ด ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล รวมถึง มาริโอ ยูรอฟสกี้ โคตรตัวต่างชาติที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของไทยลีก ประกอบกับนักเตะเก่าชื่อดังหลายคน ทั้ง สุรชาติ สารีพิมพ์ , ดาเนี่ยล โตติ ฯลฯ ทำให้แฟนๆถึงขั้นมั่นใจว่าทีมมีดีที่จะเบียดลุ้นแชมป์ หรือมีโอกาสสอยบอลถ้วยได้สักใบ

แต่เปิดฉากมา 3 นัดแรก ทีมไม่พบกับชัยชนะ เก็บได้เพียง 1 คะแนนเท่านั้น กระทั้งแมตช์ที่ 4-5 จึงเก็บชัยชนะได้ แต่หลังจากนั้นทีมฟอร์มรูดลงมาเรื่อยๆ อยู่ท้ายตารางตลอด จนถึงนัด 7 ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อทีมตัดสินใจปลด โจเซฟ เฟร์เรร์ เฮ้ดโค้ชชาวสเปน ออกจากตำแหน่ง หลังเกมเปิดบ้านแพ้ พัทยา ยูไนเต็ด (สมุทรปราการ ในปัจจุบัน) 0-1 คาบ้าน ทำให้ทีมลงไปอยู่ท้ายตาราง

โดย "กระต่ายแก้ว" ทำการแต่งตั้ง อำนาจ แก้วเขียว เข้ามารักษาการณ์ในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น จนต้องไปดึง "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด กุนซือคู่บุญของทีม ที่มักจะมาทำหน้าที่นี้อยู่เสมอ กลับมาช่วยกู้วิกฤต เพราะในเวลานั้น ผ่านไปแล้ว 12 นัด ทีมรั้งรองบ๊วย เสี่ยงตกชั้น เป็นอย่างสูง

การเข้ามาของ "โค้ชจุ่น" ถือว่าปลุกทีมได้พอสมควร ลูกทีมให้การตอบสนอง เล่นดีขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นมาอยู่กลางตารางได้ โดยในเลกสอง ได้มีการเสริมทีมแบบบิ๊กดีลอีกครั้ง ด้วยการดึง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เข้าร่วมทีม รวมทั้ง อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ และเรียก อาเรียล โรดริเกซ กลับมาจากลีกคอสตา ริก้า แต่แน่นอนว่าการต้องการลดจำนวนทีมในไทยลีก ด้วยการให้ในปี 2018 มีการตกชั้นถึง 5 ทีม ทำให้เป็นงานที่ยากลำบากยิ่งของพลพรรค "กระต่ายแก้ว" และ โค้ชจุ่น

สุดท้ายแล้วพวกเขาไปไม่รอด ตกชั้นในเกมสุดท้ายของฤดูกาล หลังเปิดบ้านทำตัวเอง ด้วยการแพ้ นครราชสีมา 1-2 ชนิดออกนำก่อน ซึ่งเกมนั้นพวกเขาต้องการแค่ 1 คะแนน ก็จะรอดตกชั้นแบบไม่มีปัญหาแล้ว แต่ทำกันไม่ได้เอง น้ำตาท่วม "ลีโอ สเตเดี้ยม" เลยทีเดียว ซึ่งตัวผมเอง ที่เป็นแฟนบีจี มาตั้งแต่ปี 2012 ก็ถึงกับช็อคไปด้วยเช่นกัน ไม่อยากจะเชื่อว่าทีมระดับนี้จะตกชั้นได้จริงๆ แม้จะได้รองแชมป์ ลีก คัพ มาเป็นรางวัลปลอบใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาเลย

หลังตกชั้น บีจี ทำการผ่าทีมครั้งใหญ่ ในปี 2019 ระบายนักเตะค่าเหนื่อยสูงๆออกจากทีมหลายคน เพราะการลงไปเล่นในเวทีไทยลีก 2 รายได้หายไปเยอะ แฟนบอลเข้าสนามน้อยลง เงินสนับสนุนจากบริษัทไทยลีกฯ ก็ได้ไม่เท่าตอนที่อยู่ลีกสูงสุด พวกเขาแต่งตั้ง "โค้ชโอ่ง" ดุสิต เฉลิมแสน อดีตนักเตะแบ็คซ้ายทีมชาติไทย ระดับดาราเอเชีย ที่มีประวัติพาทีมจากลีกรอง ขึ้นชั้นได้หลายครั้ง เข้ามาเป็นเฮ้ดโค้ชคนใหม่ ด้วยความหวังที่ว่าจะขอเลื่อนชั้นในปีเดียว

แต่ขุมกำลังก็ต้องบอกเลยว่าไม่ได้แกร่งเท่าเดิม การซื้อตัวที่แฟนๆน่าจะว้าวที่สุดก็คือ ฉัตรชัย บุตรพรหม นายทวารทีมชาติไทย ที่เอาเข้ามาแก้ปัญหาการเสียประตูเยอะของทีมในปีที่ตกชั้น รวมถึง บาร์รอส ทาเดลลี่ หอกคู่บุญของโค้ชโอ่ง ที่ตามกันมาด้วย จากตราด เอฟซี แต่ทีมก็ยอมปล่อย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ไปเล่นให้กับ โออิตะ ตรินิตะ ในเจลีก แบบยืมตัว

สุดท้ายแล้ว พลพรรค "กระต่ายแก้ว" ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง ผงาดคว้าแชมป์ไทยลีก 2 ตั้งแต่เหลือการแข่งขันอีก 4 นัดสุดท้ายแบบไม่ยากเย็น จากความยอดเยี่ยมของโค้ชโอ่ง และบรรดานักเตะที่มุ่งมั่นทุ่มเท อยากจะพาทีมกลับขึ้นสู่ที่ที่ควรจะอยู่อีกครั้ง และการกลับขึ้นมาครั้งนี้ ต้องบอกเลยว่าพวกเขาทำเอาไทยลีก ฮือฮา และสะเทือนเป็นอย่างยิ่ง

ทันทีที่ฤดูกาล 2019 ปิดตัวลง บีจี เป็นทีมแรกๆ ที่เสริมนักเตะแบบบ้าคลั่ง ซึ่งในซีซั่น 2020 ทีมยังคงไว้ใจให้ โค้ชโอ่ง ทำหน้าที่คุมทัพต่อไป พวกเขาคว้าตัวผู้เล่นฝีเท้าดีชื่อดังเข้ามามากมาย ไล่ตั้งแต่ ดึง อัลวาโร่ ซิลวา, สุวรรณภัทร กิ่งแก้ว และ สุวรรณภัทร กิ่งแก้วยูกิ บัมบะกลับมาจากการยืมตัว เพื่อเอามาคุมแนวรับและแดนกลาง รวมทั้ง วิคเตอร์ คาร์โดโซ่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟร่างโย่งจอมพังประตูที่มาจาก พีทีที ระยอง แม้เจ้าตัวจะยังไม่ได้เปิดตัว แต่มาซ้อมกับทีมเกือบเดือนแล้ว

นอกจากนี้ยังมีทั้ง สันติภาพ จันทร์หง่อมในตำแหน่งแบ็คขวา , พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ดาวเตะระดับตำนานที่ตั้งใจกลับมาเล่นให้กับทีมอีกครั้ง หลังไปคว้าแชมป์ไทยลีก กับ เชียงราย มาอย่างยิ่งใหญ่ แต่ที่ว้าวที่สุดก็คือการได้สิโรจน์ ฉัตรทองดาวยิงดีกรีทีมชาติไทย จากพีที ประจวบ ซึ่งทำเอาแฟนบอลถึงกับตาลุกวาวเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น สุมัญญา ปุริสายกองกลางจากการท่าเรือ เอฟซี ดีกรีแชมป์ฟุตบอล ช้าง เอฟเอ คัพ ปีล่าสุด ก็ข้ามจาก คลองเตย มาอยู่ที่คลองสามด้วย

ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะยังไม่หยุดเพียงเท่านี้สำหรับนักเตะไทย ทว่าโควตาต่างชาติ บอสปวิณ ภิรมย์ภักดี ยืนยันว่าทีมปิดจ็อบแล้ว โดยผู้เล่นเก่า ทั้ง บาร์รอส ทาร์เดลลี่ , ดาเนี่ยล โตติ และ อิร์ฟาน ฟานดี้ จะได้อยู่กับทีมต่อไปอย่างแน่นอน ส่วนที่แฟนๆกำลังลุ้นในเวลานี้คือ การกลับมาของ "เจ้านิว" ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หลังไปเก็บเลเวลที่ญีปุ่น มา 1 ปีเต็ม เชื่อกันว่าจะคัมแบ็คกลับมาช่วยทีมแน่นอน น่าเสียดายนะครับ ที่ตอนแรก บีจี จะมีโอกาสได้ตัว ศิวกรณ์ เตียตระกูล ของเชียงราย มาอีกคน ทุกอย่างคุยกันไว้หมดแล้ว แต่หลังจากที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา ได้รับอาการบาดเจ็บต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาว ทำให้ "กว่างโซ้ง" เกิดเปลี่ยนใจไม่ขาย

แต่เท่านี้ก็ถือว่า บีจี ปทุมฯ เสริมทีมได้เยี่ยมและรวดเร็วมาก นี่คือบทเรียนฟุตบอลของจริงครับ พวกเขาไม่อยากต้องตกชั้นลงไปอีก ทุกวันนี้การแข่งขันบนไทยลีก 1 มันสูงมาก และทีมอย่าง บีจี ก็ไม่ควรไปยืนตรงนั้นอีก การแต่งตัวเเบบนี้ ทำให้แฟนๆ ตั้งความหวังอีกครั้ง กับการแอบลุ้นแชมป์แบบเล็กๆ หรือการหยิบจับบอลถ้วยมาครองได้สัก 1 รายการเป็นอย่างน้อย 

สุดท้ายแล้วแฟนๆ "กระต่ายแก้ว" ก็คงต้องเอาใจช่วยและคอยให้กำลังใจทีมกันต่อไปนะครับ ปีนี้น่าจะเป็นทีมที่น่าจับตามองอย่างแน่นอน ดูกันไปยาวๆ พวกเขาอาจจะขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงแบบม้ามืดอีกทีมก็ได้ครับ

      

                                                NickyMAN

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีขึ้นเรื่อยๆ! โค้ชโอ่ง เน้นบีจีซ้อมเข้มไม่มีพักก่อนเปิดซีซั่น

กลับบีจี! ฐิติพันธ์ โพสต์ขอบคุณโออิตะฯกับโอกาสตลอดปีที่ญี่ปุ่น

สายคลองเค้าคุยกัน! บีจีปทุมฯ ซุ่มดีลท่าเรือ หวังแลก เควิน-ฐิติพันธ์

เสริมไม่หยุด! บีจีปทุมฯ คว้า 'สุมัญญา' เข้าทีมเรียบร้อย

ช็อปแหลก! บีจีปทุมฯ ทุ่ม10ล้าน ปิดดีลคว้า 'สิโรจน์' เสริมหอก

บุกมันส์แน่! บีจีปทุมฯแถลงคว้า 'สันติภาพ' เจ้าตัวลั่นขอทำเต็มที่ตอบแทนทีม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0