สวัสดีครับ ! คุณผู้อ่านทุกท่าน คอลัมน์ "ประเด็นร้อนบอลไทย" กลับมาอีกครั้ง วันนี้ขอพุดถึง ศึกไทยลีก 2 กันสักหน่อยนะครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า มีแฟนคลับของผม อินบ็อกเข้ามา และเข้ามาคุยตอนพบเจอ บอกให้ผมช่วยเขียนอะไรถึง อาร์มี่ ยูไนเต็ด หน่อย ซึ่งก็ยอมรับตามตรงว่าไม่ค่อยได้ตามเท่าไหร่ แต่เอาแหละ ในเมื่อแฟนคลับขอ ก็เลยใช้เวลาหาข้อมูล ศึกษาฟอร์มของทีมในปีนี้ ก่อนจะมาร่ายบทความนี้ให้ทุกท่านได้อ่านกัน กับ "ความหวัง อาร์มี่ สู่ไทยลีก"
อาร์มี่ ยูไนเต็ด หรือชื่อเดิม สโมสรทหารบกเป็นอีกหนึ่งทีมฟุตบอล ที่ถือเป็นทีมกองทัพไทยโดยตรง มีการบริหารงานด้วยกองกำลังของเหล่าทหาร นับตั้งแต่ ประธานสโมสร คนปัจจุบัน ซึ่งรับหน้าที่โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ นับเป็นอีกหนึ่งทีมที่มีแฟนบอลตามเชียร์อย่างเหนียวแน่น เนื่องจากเป็นทีมเก่าแก่ ที่ก่อตั้งมานับ 100 ปี
นับตั้งแต่ปี 1996 ที่พวกเขาส่งทีมเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลลีกของไทย ก็ต้องยอมรับว่า ขึ้นๆลงๆ ลีกสูงสุด และดิวิชั่น 2 (ที2) ในปัจจุบัน อยู่ร่ำไป เนื่องจากเป็นทีมที่เน้น นำเอาข้าราชการทหารมาลงทำการแข่งขัน ตั้งแต่เป็นฟุตบอลลีกแบบกึ่งอาชีพ จนกระทั่งลีกไทยเข้าสู่การเป็นลีกอาชีพ อย่างเต็มตัว ในช่วงประมาณก่อนปี 2010 ทีมจึงมีการดึงผู้เล่นชื่อดังหลายคน ทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมทีม โดยมีผลงานที่ดีที่สุดคือการคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 (ที 2 ในปัจจุบัน) ในปี 2005
พวกเขาเอาตัวรอดในไทยลีก และอยู่ยงคงกะพันมาได้โดยตลอด ตั้งแต่ ปี 2010-2016 แม้บางปีจะต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างหนัก แต่ก็เอาตัวรอดไปได้ตลอด รวมทั้งสร้างนักเตะจากโนเนม ขึ้นมาประดับวงการลูกหนังไทยหลายคน ทั้ง "จ่าเย็น" มงคล ทศไกร ที่ก้าวขึ้นไปเป็นขุมกำลังหลักของ "ช้างศึก" ในยุคของ "โค้ชซิโก้" หรือจะเป็น "จ่าหน่อง" อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ ที่ฟอร์มเคยเตะตา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โคตรทีมแห่งเมืองไทย จนถึงขั้นถุกดึงไปร่วมทีม ก่อนที่สองแข้งดัง จะรีเทิร์นกลับมาช่วย "สุภาพบุรุษกงจักร" เพื่อพาทีมเลื่อนสู่ไทยลีกให้ได้ในปีนี้ ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งกันทั้งคู่
ย้อนไปในปี 2016 หลายๆท่านคงจำกันได้ ปีที่เกิดข่าวเศร้าของคนไทยทั้งประเทศ จากการสวรรคต ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้สมาคมฟุตบอลฯ เกรงว่าจะกระทบจิตใจกับนักฟุตบอล และแฟนบอล จึงสั่งยุติการแข่งขันลง หลังจบนัดที่ 31 ซึ่งในเวลานั้น อาร์มี่ มี 30 คะแนน มีคะแนนตามหลัง อันดับ 15 ซึ่งเป็นพื้นที่ของโซนรอดตกชั้นเพียงแค่ 1 แต้มเท่านั้น แต่ก็ต้องจำใจยอมรับสภาพตกชั้นจากคำสั่งของสมาคมฯ
จากเหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้ "สุภาษบุรุษกงจักร" ต้องลงมาโลดแล่นในศึกไทยลีก 2 ซึ่งหากนับรวมปีนี้ ก็ปาเข้าไปเป็นซีซั่นที่ 3 แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะมีความต้องการขึ้นชั้นกลับมาตั้งแต่ที่ตกลงไปในปีแรก แต่ทุกคนคงรู้ว่าการแข่งขันของทีสอง มีความยาก และเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆในทุกปี แต่ละทีมต้องการเลื่อนสู่ลีกสูงสุดกันทั้งสิ้น ทำให้พวกเขาจบได้เพียงกลางตารางแบบไม่ได้ลุ้น ตลอดปี 2017 และ 2018 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามปีนี้พวกเขามีลุ้นอีกครั้ง จากความตั้งใจกลับมาทำอีกครั้งของผู้บริหาร และการทำทีมของ ดาเนี่ยล บลังโก้ กุนซือชาวอาร์เจนตินา ซึ่งเคยเป็นอดีตนักเตะของทีม ก็ดูมีทรงในปีนี้ โดยในเวลานี้ อาร์มี่ อยู่ในอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนที 2 มี 45 คะแนน จาก 26 นัด ตามหลังอันดับ 2 อย่าง โปลิส เทโร เพียง 1 คะแนน ซึ่ง 8 นัดสุดท้าย คงจะขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นแน่นอนในพื้นที่ตรงนี้ ส่วนแชมป์ ก็คงต้องปล่อยให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ครองไปชนิดที่เรียกว่า นำม้วนเดียวจบตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น
ความโชคดีอีกอย่างของ อาร์มี่ ก็คือ การที่ศรีสะเกษ ถูกตัดไปถึง 12 แต้ม ทำให้ตอนนี้พวกเขายังรั้งในพื้นที่เลื่อนชั้นได้อย่างอุ่นใจ แต่ก็ต้องระวังผู้ตาม อย่าง อุดรธานี , ลำปาง , ระยอง หรือแม้กระทั่งทีมอย่างศรีสะเกษ ที่ถูกตัดแต้มไปให้ดีๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้ ตัวความหวังอย่างสองรายข้างต้นที่กล่าวไปแล้ว ก็ยังมี ธนากร แดงทอง ที่อยู่กับทีมมานาน ต้องเค้นฟอร์มถล่มประตูออกมาให้ได้ และแข้งต่างชาติอย่าง เจา เปาโล กองหน้าชาวบราซิลที่เข้ามาเติมในเลกที่สอง เป็นตัวที่ทีมต้องฝากความหวังไว้อย่างสุดๆเลยทีเดียว
และสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ นักเตะอาร์มี่ มีขวัญกำลังใจที่จะสู้ ก็คงจะหนีไม้พ้นเหล่าแฟนบอล ที่ไม่เคยทิ้งพวกเขา แน่นอนทีมนี้ก็เป็นอีกทีม ที่มีสีสันกองเชียร์ที่น่าสนใจและเหนียวแน่น ระดับต้นๆของประเทศไทย สุดท้ายแล้วตัวผมเอง ก็ขอแอบเอาใจช่วย "สุภาพบุรุษกงจักร" ให้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีกให้ได้นะครับ เพราะ ฟุตบอลไทยลีก ที่ไม่มีทีมจากกองทัพเลย มันก็ดูเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปในการแข่งขัน
NickyMAN
