พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ระบุถึงกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหารภายใต้แคมเปญ “ทอ.ทหารทันสมัย” ที่สยามสแควร์ เมื่อวานนี้ ว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ภายในกรอบของกฎหมายกำหนด ส่วนหนึ่งจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ถึงขั้นตอนการยกเลิกการเกณฑ์ทหารหรือไม่นั้น เชื่อว่า ประชาชนรับรู้อยู่แล้ว เนื่องจากระบบการเกณฑ์ทหารใช้มายาวนานกว่า 10 ปี ซึ่งต้องศึกษาด้วยว่าหากยกเลิกการเกณฑ์ทหารจะนำกำลังพลมาจากไหน รวมไปถึงการรับสมัครจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่อายุเท่าไรจึงจะปลดประจำการ หรือจะนำงบประมาณมาจากที่ใด พร้อมยืนยันชัดเจนว่าไม่สามารถปลุกระดมม็อบมาเป็นท้องถนนได้
พล.อ.ประวิตร ยังระบุถึงกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ กมธ. ป.ป.ช. ที่ได้มีการเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และตนเอง เข้าไปชี้แจงปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน ว่าเรื่องดังกล่าวได้จบและชี้แจงทุกอย่างไปหมดแล้วและเชื่อว่าจะไม่มีการเชิญมาซ้ำอีก
ส่วนจะมีการฟ้องร้องในฐานะใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่นั้นพล.อ.ประวิตร ถอนหายใจยาว และบอกว่า ‘โอ๊ย ขอให้เรื่องดังกล่าวจบลงก่อน’ และไม่จำเป็น ต้องวางแผนรับมือกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในระยะยาว แต่รัฐสภาไม่ทราบว่า จะมีการเปลี่ยนตัวประธาน กมธ. ป.ป.ช. ได้หรือไม่ ทุกอย่างเป็นเรื่องของสภา
พล.อ.ประวิตร ยังยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีการเรียกเพื่อมาเจรจาแต่อย่างใด รวมไปถึงไม่ได้มีการ เคลียร์กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน หากนายอนุทิน มีปัญหากับใครหรือว่าสื่อสำนักใดขอให้ไปเคลียร์กันเอง พร้อมกับตอบกับสื่อมวลชนว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่กลายเป็นสนิมเนื้อ แต่ตนเองกลัวว่าหน้าของผู้สื่อข่าวจะกลายเป็นสนิมตัวเอง
พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธว่า จะไม่มีการวางกลยุทธ์ การใช้ ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐเข้าไปร่วมในคณะกรรมาธิการที่มีปัญหากับ พล.อ.ประยุทธ์ กับตนเอง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของรัฐสภาตนไม่เกี่ยวข้อง
