โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"ประยุทธ์" เตรียมพลิกฟื้นโชห่วยสู่ยุค 4.0 ดึงดีลเลอร์จีนช่วยพัฒนาให้กลายเป็นห้างใหญ่ในโลกดิจิทัล

Manager Online

อัพเดต 14 ธ.ค. 2561 เวลา 16.19 น. • เผยแพร่ 14 ธ.ค. 2561 เวลา 16.19 น. • MGR Online

"ประยุทธ์" เตรียมพลิกฟื้นโชห่วย นำดีลเลอร์จีนมาช่วยพัฒนา เปิดเป็นแพลตฟอร์มขายออนไลน์มีสารพัดสิ่งทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค เกษตร หัตถกรรม โอทอป ลั่นจะทำให้ร้านโชห่วยกลายเป็นห้างใหญ่ในโลกดิจิทัล หรือ "โชห่วย 4.0" พร้อมดึง ธ.ออมสิน - ธ.ก.ส. สนับสนุนด้านสินเชื่อ เบื้องต้นจะมีการลงพื้นที่ช่วยปรับภาพลักษณ์ร้านตามรูปแบบ 5 ส. โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

วันที่ 14 ธันวาคม 2561 เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า ทั่วประเทศไทยมีร้านค้าโชห่วยอยู่ประมาณ 370,000 ร้านค้า ซึ่งปัจจุบันหลายแห่งต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในการทำมาค้าขาย ทั้งการเพิ่มขึ้นของร้านค้าสมัยใหม่ ต้นทุนที่สูงขึ้น อีกทั้งความสามารถทางการแข่งขันก็น้อยกว่าร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่ดึงดูดลูกค้าและมีสินค้าที่ครบครันกว่า ทำให้ร้านค้าโชห่วยหลายแห่งต้องประสบปัญหาขาดทุน รายได้ลดลงมาก ภาครัฐทราบปัญหาเหล่านี้ดี และพยายามหาทางดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุน ให้ร้านโชห่วยเหล่านี้ปรับตัวแข่งขันการประกอบธุรกิจได้อย่างยั่งยืน มีการดำเนินการผ่านหลายช่องทางและหลายวิธีด้วยกัน ได้แก่

1 โครงการปรับภาครัฐร้านค้า ธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ ลงพื้นที่ทั่วประเทศไปยังชุมชนต่างๆ เพื่อจะช่วยปรับภาพลักษณ์ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และร้านโชห่วย ให้จัดร้านในรูปแบบ 5 ส. คือ สวย สว่าง สะอาด สะดวก สบาย และแนะนำพื้นฐานการบริหารจัดการร้านค้าให้สามารถปรับตัวแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น มีต้นทุนต่ำลง ซึ่งจะช่วยให้ประกอบกิจการได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้น ระยะยาว

ทั้งหมดนี้ จะไม่มีค่าใช้จ่ายดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 4,500 ร้านค้า จากเป้าหมาย 10,000 ร้านค้า ทั่วประเทศ แต่ยังมีเหลืออีกมาก ทางโครงการนี้ ยังไปไม่ถึงพื้นที่ของท่าน ระหว่างนี้ ขอแนะนำให้ปรับร้านค้าของท่านในรูปแบบ 5 ส. เบื้องต้นให้ดูแลไปก่อน โดยเฉพาะความสะอาด สว่าง จัดวางของให้สวยงาม หยิบได้สะดวก ทั้งนี้ ร้านโชห่วยมีความได้เปรียบร้านค้าใหญ่ๆ ในการแบ่งขาย ซึ่งทำให้สามารถเลือกซื้อได้สะดวก สะอาดสะอ้าน จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้

2 การนำดีลเลอร์ของจีนมาช่วยพัฒนาร้านค้าจะเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายร้านค้าเล็กๆ ในชนบท มีความร่วมมือกับไปรษณีย์ของจีน เปิดเป็นแพลตฟอร์มร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ในร้านค้า ให้ร้านค้าในชนบททั่วประเทศ ได้เข้าจำหน่ายสินค้า แบบออนไลน์ นอกจากจะมีสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปแล้ว ยังมีสินค้าเกษตร เช่น ผัก ผลไม้ หรือของดีของเด่น ของชุมชน เช่น สินค้าหัตถกรรม โอทอป ในท้องถิ่น อาจไม่มี หรือหาได้ยาก โดยร้านค้าโชห่วยที่เข้าร่วมจะต้องสแกนรหัสสินค้าทุกชนิด ไปจนถึงเครื่องดื่ม ผลไม้ต่างๆ เข้าไปในระบบ ทำให้สินค้ามีให้เลือกหลากหลาย ผู้ซื้อในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทันที ร้านค้าที่อยู่ในชุมชนสามารถนำส่งได้ถึงที่ หรือหากไกลจากแหล่งสินค้าก็สามารถให้ไปรษณีย์จัดส่งสินค้าให้ได้ ทำให้ร้านโชห่วยกลายเป็นห้างใหญ่ในโลกดิจิตอล หรือ หรือเป็นโชห่วย 4.0 ที่สามารถจะขายสินค้าทุกชนิดที่ต้องการจะขายได้ โดยไม่ต้องสตอกสินค้าไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งโมเดลนี้จะลองนำมาปรับใช้กับร้านโชห่วยของไทย เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น โดยบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการให้บริการแพลตฟอร์ม Ule จะส่งทีมมาให้คำแนะนำกับไทยในช่วงต้นปี 2562 นี้ด้วย เพื่อให้สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น

3. โครงการโชห่วยออนไลน์ เป็นแนวคิดในการพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ มาทำเป็นแพลตฟอร์มในการสั่งซื้อสินค้า จากร้านโชห่วยไปยังผู้ผลิตสินค้าโดยตรง ซึ่งการดำเนินการนี้จะเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบด้วย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. และภาคเอกชน ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน โดยในการดำเนินงาน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จะพัฒนาช่องทางในการรับคำสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ และการบริหารสตอกสินค้า ตลอดจนคำสั่งซื้อสินค้า รวมไปถึงการบริหารจัดการด้านการขนส่ง โดยกระทรวงพาณิชย์จะเจรจากับผู้ผลิตสินค้าในเรื่องของราคา และคัดเลือกร้านโชห่วยที่มีศักยภาพเข้าร่วมโครงการ รวมไปถึงการเชื่อมโยงสินค้าชุมชนเพื่อกระจายสินค้าผ่านร้านโชห่วยในพื้นที่ต่างๆ อีกด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่า ในขณะที่ธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. จะสนับสนุนด้านสินเชื่อการค้า หรือสินเชื่อในการสั่งซื้อสินค้าให้กับร้านโชห่วยที่เข้าร่วมโครงการ การดำเนินโครงการนี้ จะทำให้ร้านค้าโชห่วยสามารถซื้อสินค้าจากผู้ผลิตได้ในราคาที่ถูกลง และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสินค้าชุมชนมีช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มนำร่องใน 3 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมกราคม 2562

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า จุดแข็งของโชห่วยก็คือสามารถแบ่งขายสินค้าได้ เช่น ข้าวสาร หรือขนมปี๊บ อีกทั้งยังมีลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาสม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่งการให้เชื่อสินค้าไปก่อน เทียบกับการมีโปรโมชั่นต่างๆ ของร้านสะดวกซื้อ ซึ่งหากเราพยายามทำจุดแข็งเราให้ดี ตนก็เชื่อว่าจะสามารถสร้างธุรกิจได้ดีขึ้น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0