โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ประมงเมืองปากน้ำยัน“ไม่มีแม่จระเข้”ในพื้นที่ หลังพบลูกจระเข้พันธุ์แม่น้ำไนล์ในคลอง

TODAY

อัพเดต 27 มิ.ย. 2562 เวลา 01.38 น. • เผยแพร่ 27 มิ.ย. 2562 เวลา 01.25 น. • Workpoint News
ประมงเมืองปากน้ำยัน“ไม่มีแม่จระเข้”ในพื้นที่ หลังพบลูกจระเข้พันธุ์แม่น้ำไนล์ในคลอง

หลังชาวบ้านบางโปรงพบลูกจระเข้พันธุ์แม่น้ำไนล์ เป็นพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกในคลองบางโปรง ล่าสุด สำนักงานประมงสมุทรปราการยืนยันไม่มีแม่จระเข้พันธุ์แม่น้ำไนล์อยู่ในพื้นที่ คาดอาจมีคนนำมาปล่อยหรือหลุดมาจากผู้เลี้ยง

จากกรณีที่เด็กชายวัย 15 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบลูกจระเข้ อยู่ในคลองบางโปรง ติดกับการไฟฟ้าพระนครใต้ สมุทรปราการ และจับลูกจระเข้ตัวดังกล่าวมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ อบต.บางโปรง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดสมุทรปราการ มาตรวจสอบพบว่าลูกจระเข้ตัวดังกล่าวเป็นสายพันธุ์แม่น้ำไนล์ ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งสัตว์ที่นำเข้าในบัญชีไซเตส ไม่พบเห็นในประเทศไทย

วันที่ 27 มิ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(26 มิ.ย. 62)  นายพงษ์วรรณ  ศุโภคา นายก อบต.บางโปรง กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุเป็นช่วงเย็นมีชาวบ้านได้นำลูกจระเข้ตัวดังกล่าวมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ อบต.โดยบอกว่าจับลูกจระเข้ได้ที่บริเวณริมคลองบางโปรง ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูระบายน้ำบางโปรง ที่อยู่ติดกับโรงไฟฟ้าพระนครใต้ สมุทรปราการ

หลังจากที่รับลูกจระเข้ตัวดังกล่าวมาได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรปราการ ให้มาตรวจสอบพบว่าลูกจระเข้ตัวดังกล่าวเป็นจระเข้สายพันธุ์แม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นสายพันธ์ที่หาดูได้อยากในประเทศไทย  และจากการตรวจสอบในบัญชีแล้วไม่พบว่ามีชาวบ้านหรือหน่วยงานไหนมาขออนุญาต เลี้ยงจระเข้สายพันธุ์ดังกล่าว

ซึ่งคาดว่าลูกจระเข้ตัวดังกล่าวน่าจะมีคนไปหาซื้อมาเพื่อเอามาเลี้ยงและอาจสร้างที่กักขังไม่ดีจึงทำให้ลูกจระเข้ตัวดังกล่าวหลุดออกมา หรืออาจไปซื้อมาเลี้ยงแต่อาจถูกทางผู้ใหญ่ห้ามเลี้ยงจึงนำมาแอบปล่อยลงคลองธรรมชาติ ซึ่งตรงนี้ก็ยังระบุไม่ได้  และในส่วนที่มีข่าวลือว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงพบลูกจระเข้ในลักษณะใกล้เคียงกันอีก 2 ตัวนั้น

จนถึงในขณะนี้ก็ยังไม่มีใครออกมายืนยันแต่อย่างใดคาดว่าน่าจะเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น และข้อให้ชาวบ้านอย่าตกใจ  เพราะลูกจระเข้ ที่พบในครั้งนี้ไม่มีในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์ต่างประเทศและมีราคาแพง อย่างไรก็ตามหากมีชาวบ้านพบเห็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับลูกจระเข้ตัวนี้เพื่อความปลอดภัยอย่าเข้าไปจับเอง ขอให้มาแจ้งทางเจ้าหน้าที่ อบต.บางโปรง ทันทีเพื่อให้ผู้ที่มีความรู้ในการจับสัตว์ประเภทจระเข้เข้าไปจับตัวมาเพื่อตรวจสอบ

ด้านนาง อรสา เซ็มมะ  หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรปราการ  ยืนยันว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ พบว่า ลูกจระเข้ที่ชาวบ้านจับได้นั้น เป็นลูกจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ แม่น้ำไนล์ ( Crocodylus niloticus ) อายุไม่เกิน 1 เดือน ขนาดลำตัวความยาว 30 เซนติเมตร น้ำหนัก 100 กรัม และไม่พบบาดแผลใดๆ  ตามลำตัว โดยจระเข้สายพันธุ์ดังกล่าวเป็นจระเข้ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติในแม่น้ำไนล์ในประเทศแอฟฟิริกา และคาดว่าน่าจะเป็นจระเข้ที่ได้จากการเพาะพันธุ์ไม่น่าจะเป็นจระเข้ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งอาจมีชาวบ้านบางรายซื้อมาเลี้ยงไว้ดูเล่นแล้วหลุดออกมาสู่ลำคลอง อีกทั้งจุดที่พบเจอจระเข้นั้นรวมไปถึงพื้นที่ใกล้เคียงไม่พบว่ามีเกษตรกรหรือผู้ประกอบการจดทะเบียนเพาะเลี้ยงจระเข้แต่อย่างใด

ในส่วนของความกังวลของประชาชนที่เกรงว่าอาจจะมีแม่จระเข้อาศัยอยู่ในลำคลองหรือลำธารสาธารณะนั้น ตนเองยืนยันว่าโอกาสที่จะมีอยู่นั้นเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะจระเข้สายพันธุ์ที่พบเจอ อีกทั้งจระเข้สายพันธุ์ต่างๆนั้นหากเป็นช่วงที่วางไข่จนกลายเป็นลูกได้นั้นจะต้องมีอายุตั้งแต่ 4-5 ปี และมีความยาวไม่ต่ำกว่า 4-5 เมตร อีกทั้งพฤติกรรมนิสัยของจระเข้นั้นเป็นสัตว์เลือดเย็นจึงจำเป็นต้องขึ้นมาตากแดดและไม่สามารถดำรงชีพใต้น้ำได้ตลอด ประกอบกับพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมเป็นส่วนมาก จึงยากต่อการเจริญเติบโตและอาศัยอยู่ของจระเข้ทุกสายพันธุ์ โดยทางด้านประมงจังหวัดสมุทรปราการจึงฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในพื้นที่อย่าวิตกหรือกังวลว่าจะมีแม่จระเข้หลงอยู่ในพื้นที่แต่อย่างใด

นางพเยาว์ และนายแสวง ปิ่นมีทรัพย์  คนในพื้นที่ตำบลบางโปรง เผยว่า ถ้าตัวใหญ่ๆ คาดว่าคงไม่มีเพราะถ้ามีมันอยู่ไม่ได้หลอกเพราะในป่าคนเข้าไปตัดต้นจากทุกวัน มันจะไปกกไข่ได้ตรงไหนเพราะจระเข้ต้องกกไข่บนบก ถ้ามันมีตรงคนก็ต้องเจอเพราะเข้าไปตัดต้นจากทุกวัน และจระเข้ตัวนี้น่าจะเพิ่งออกจากไข่เพียงไม่กี่วัน เพราะตัวมันก็ยาวแค่ฟุตเดียว ก็คิดว่าน่าจะมีคนเอามาปล่อ

ด้านเด็กชายวัย 15 ปี เป็นคนพบจระเข้ กล่าวว่า ในวันที่พบลูกจระเข้ ตนได้ออกมางมปลาจับหอยอยู่ในคลองบางโปรง ทางด้านนอกประตูระบายน้ำออกเจ้าพระยา ในระหว่างที่ตนกำลังงมหาปลาอยู่นั้นได้พบเห็นเจ้าลูกจระเข้ตัวดังกล่าว ยืนอ้าปากตากแดดอยู่บนฝั่ง จึงได้เอาก้อนหินขวางใส่ แต่มันก็ไม่ไปไหน ตนจึงได้ถอดเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำและปีนขึ้นมาบนฝั่งและเสื้อโยนเข้าไปปิดทับตัวลูกจระเข้ตัวดังกล่าวก่อนที่จะใช้มือจับลูกจระเข้ตัวดังกล่าวใส่กระป๋องเอาไว้และออกไปงมหอยจับปลาต่อ และนำลูกจระเข้ตัวดังกล่าวกลับไปที่บ้านด้วยกะว่าจะเอาไปเลี้ยง แต่ก็ถูกยายห้ามเอาไว้ ตนจึงได้นำลูกจระเข้ตัวดังกล่าวมาให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่ อบต.บางโปรง ที่กล้าจับเพราะลูกจระเข้ตัวดังกล่าวยังเล็กอยู่ แต่ถ้าตัวใหญ่ตนคงว่ายน้ำหนีไปแล้ว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0